สมาชิก




ลืมรหัสผ่าน
สมัครสมาชิก
 

เมนู

หน้าแรก

รวมรูปภาพ

เว็บบอร์ด

สนทนาคนรักต้นไม้

 

บทความ

หิน-หินเทียม

สารพัดต้นไม้จัดสวน

ไม้ประดับเพื่อการจัดสวน

ปลูกต้นไม้มงคล

เกี่ยวกับเรา

สวนสไตล์ต่างๆ

ต้นไม้ประจำจังหวัด ภูมิสัญญลักษณ์ของเมือง

มหัศจรรย์โลกพฤกษา

ว่าด้วยเรื่อง.....ดิน....และ..ปุ๋ย

พืชจัดสวนมีพิษที่ควรระมัดระวัง

เปลี่ยนสวนเก่าให้เป็นสวนใหม่

จัดสวนพื้นที่ขนาดใหญ่

จัดสวนด้วยตัวเอง

ชื่อนั้นสำคัญไฉน

การทำบ่อเลี้ยงปลา และระบบกรองรักษาคุณภาพน้ำอย่างง่าย

มุมสวนสวยสำหรับคุณ

ในนี้มีอะไรเยอะแยะ

 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 15/02/2008
ปรับปรุง 19/03/2024
สถิติผู้เข้าชม 17,219,679
Page Views 23,360,058
 
« March 2024»
SMTWTFS
     12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31      

สรรพคุณพืชสมุนไพร2

สรรพคุณพืชสมุนไพร2

สรรพคุณพืชสมุนไพร 2

For information only-the plant is not for sale.


1 เถาวัลย์ด้วน/Cynanchum viminale subs. brunonianum 34 ละมุดอินเดีย/Pouteria campechiana
2 พญาไร้ใบ/Euphorbia tirucalli 35 ละหุ่ง/Ricinus communis
3 พิมเสนต้น/Pogostemon cablin 36 ลำเจียก/Pandanus odoratissimus
4 พิมเสน-Borneo Camphor Tree/Dryobalanops aromatica 37 เล็บครุฑ/Polyscias fruticosa
5 เพชรสังฆาต/Cissus quadrangularis 38 เล็บเหยี่ยว/Ziziphus oenoplia
6 พริกขี้หนู/Capsicum frutescens 39 ว่านนาคราช/Davillia solida
7 พริกไทย/Piper nigrum 40 ว่านมหากาฬ/Gynura pseudochina
8 พลู/ Piper betle 41 ว่านมหาเมฆ/Curcuma aeruginosa
9 พลูคาว/Houttuynia cordata 42 ว่านหางจระเข้/Aloe vera
10 ฟ้าทะลายโจร/Andrographis paniculata 43 ว่านสิงหโมรา/Cyrtosperma johnstonii
11 ฟักข้าว/Momordica cochinchinensis 44 เสนียด/Justicia adhatoda
12 ฟักเขียว/ Benincasa hispida 45 สบู่ดำ/Jatropha Curcas
13 ฟักทอง/Cucurbita moschata 46 สบู่เลือด/Stephania pierrei
14 มะขาม/Tamarindus indica 47 ส้มเช้าบ่ายมัน/ Euphorbia neriifolia
15 มะขามแขก/Senna alexandrina Mill. 48 ส้มมือ/Citrus medica var. sarcodactylis
16 มะเขือขื่น/Solanum aculeatissimum. 49 สลัดไดป่า/Euphorbia antiquorum
17 มะเขือเทศ/Lycopersicon esculentum 50 เสลดพังพอนตัวผู้/Barleria lupulina
18 มะเขือพวง/Solanum torvum 51 เสลดพังพอนตัวเมีย(พญายอ)/Clinacanthus nutans
19 มะเขือยาว/Solonum melongena 52 สะระแหน่/Mentha villosa Huds. (pro sp.)
20 มะรุม/Moringa oleifera 53 สะระแหน่ญี่ปุ่น/Mentha arvensis var. piperascens
21 มะอึก/Solanum stramonifolium 54 สามสิบ/Asparagus racemosus
22 ม้ากระทืบโรง/Ficus sarmentosa 55 สีเสียด/Acacia catechu
23 ม้าทลายโรง/Neuropeltis racemosa 56 หญ้าหนวดแมว/Orthosiphon aristatus
24 มันเทศ/Ipomoea batatas 57 หญ้าหวาน/Stevia rebaudiana
25 มันฝรั่ง/Solanum tuberosum 58 หญ้าลิ้นเป็ด/Ixeris debilis 
26 มันแกว/Pachyrhizus erosus 59 หนอนตายหยาก/Stermona tuberosa
27 แมงลัก/Ocimum × africanum 60 หนานเฉาเหว่ย
28 ยอ/Morinda citrifolia 61 หนุมานประสานกาย/Schefflera leucantha
29 ยี่หร่า/Ocimum gratissimum 62 หมาว้อ/Lepisanthes senegalensis
30 ระงับพิษ/Breynia glauca 63 หอมแดง/Eleutherine bulbosa
31 รางจืด/Thunbergia laurifolia 64 โหระพา/Ocimum basilicum
32 รางจืดต้น/Crotalaria spectabilis 65 อบเชยไทย/Cinnamomum bejolghota
33 เร่วกระวาน/Amomum uliginosum 66 ฮ-ว่านง็อก/Pseuderanthemum palatiferum
67 ฮ่อสะพายควาย/Sphenodesme pentandra


เถาวัลย์ด้วน/Cynanchum viminale subs. brunonianum


ชื่อวิทยาศาสตร์ ---Cynanchum viminale subs. brunonianum (Wight & Arn.) Meve & Liede
ชื่อพ้อง--- Has 2 Synonyms
---Sarcostemma brunonianum Wight & Arn.
---Sarcostemma viminale subs. brunonianum (Wight & Arn.) P.I.Forst.
ชื่อสามัญ---Caustic-creeper, Causticbush, Sacred soma, Rapunzel plant.
ชื่ออื่น ---เถาติดต่อ(นครราชสีมา); เถาวัลย์ด้วน(ภาคกลาง); เถาวัลย์ยอดด้วน(ราชบุรี); เถาหูด้วน(สุพรรณบุรี); เอื้องเถา(กาญจนบุรี) ; [THAI: thao titto (Nakhon Ratchasima); thao wan duan (Central); thao wan yot duan (Ratchaburi); thao hu duan (Suphan Buri); ueang thao (Kanchanaburi).]; [AFRIKAANS: Melktou, Melkbos, Spantoumelkbos, Spantou, Wolfsmelk]; [FRENCH: Liane callé, liane sans feuilles.]
ชื่อวงศ์---APOCYNACEAE
ถิ่นกำเนิด---ทวีปแอฟริกา
เขตกระจายพันธุ์---แอฟริกา เอเซีย ทางเหนือของออสเตรเลีย

 

กระจายอยู่ในแอฟริกาใต้ บอตสวานา นามิเบียและทุกส่วนของแอฟริกาตอนใต้ จนถึงตอนเหนือเคนยาและอินเดีย (อินเดียใต้เบงกอล) และพม่า ในพื้นที่ชายฝั่งของออสเตรเลีย, จีน, อินเดีย, ฟิลิปปินส์, ไทยและนิวแคลิโดเนีย เกิดขึ้นในพื้นที่แห้งบนดินแห้งแล้ง และก้อนหินจากระดับน้ำทะเลถึงระดับความสูง 1,800 เมตร
ไม้ทอดเลื้อยแผ่พันต้นไม้อื่น ยาวไม่เกิน 8-10เมตร มีน้ำยางขาว กิ่งก้านรูปทรงกระบอกเรียวยาว หนา(3-) 5-7 (-10) มม.สีเขียวเป็นข้อๆ ใบลดรูปยาว 1-2 มม. ดอกช่อออกที่ข้อ 20-30ดอก ก้านดอกยาว(2-) 6-12 (-30) มม. กลีบดอกสีเหลืองแกมเขียว5กลีบ ผล(5- 5- 10-13 (-18) ซม เส้นผ่านศูนย์กลาง 8 มม.เป็นฝักเรียวยาวเมล็ด3.6มม.สีน้ำตาลมีขนสีขาว
ใช้ประโยชน์---ใช้เป็นยา ตำรายาไทยใช้ หัวใต้ดิน บำรุงกำลัง บำรุงตับ ปอดและหัวใจ ในประเทศอื่นๆ น้ำยางที่มีรสขมนำไปใช้กับหูด, แผล, แผลไหม้และการติดเชื้อที่ผิวหนัง น้ำยางจะถูกนำไปใช้เป็นยาหยอดหูเพื่อรักษาอาการปวดหู, ยาหยอดตาเพื่อรักษาโรคตาแดงและใช้กับฟันผุและแผลเพื่อให้แมลงวันออกไป ยาต้มก้านหรือรากมักถูกนำมาใช้เพื่อรักษาปัญหาท้องร่วง หนอนในลำไส้ อาการบวมน้ำ หิดและกามโรค ในแอฟริกาตะวันออกกิ่งไม้ถูกใช้เป็นแปรงสีฟันเพื่อรักษาอาการปวดฟันและฟันผุ ในประเทศเคนยามีการแช่ลำต้นและรากในซุปหรือนมเป็นยาบำรุง ในแองโกลามีการแช่รากเพื่อรักษาภาวะโลหิตจางด้วยอาการบวมน้ำ ในโมซัมบิกจะมีการแช่รากเพื่อรักษาวัณโรค ในประเทศมาดากัสการ์ยาต้มก้านนำมารักษาโรคมาลาเรีย ในแอฟริกาใต้และมาดากัสการ์ ใช้ก้านต้มเพื่อรักษาอาการตกเลือดในมดลูก
-ใช้อื่นๆ  ในประเทศเคนยาและแทนซาเนียน้ำยางถูกใช้เบื่อปลา ในนามิเบียเด็ก ๆ วาดลวดลายบนร่างกายของพวกเขาด้วยน้ำยางซึ่งถูกโรยด้วยผงถ่านแล้วทำให้พวกเขามีลักษณะคล้ายกับรอยสักของผู้ใหญ่
ระยะออกดอก---ฤดูแล้งหรือตอนต้นฤดูฝน ช่วงเวลาที่บานสูงสุดในช่วง 2-3 สัปดาห์โดยดอกแต่ละดอกจะเปิดในช่วง 4-5 วัน
ขยายพันธุ์---เมล้ด ปักชำ


 พญาไร้ใบ/Euphorbia tirucalli

ชื่อวิทยาศาสตร์     __ Euphorbia tirucalli L.
ชื่อพ้อง    ---Has 12 synonyms

-Arthrothamnus bergii Klotzsch & Garcke -Euphorbia rhipsaloides Lem.
-Arthrothamnus ecklonii Klotzsch & Garcke -Euphorbia scoparia N.E.Br.
-Arthrothamnus tirucalli (L.) Klotzsch & Garcke -Euphorbia suareziana Croizat
-Euphorbia geayi Costantin & Gallaud -Euphorbia viminalis Mill.
-Euphorbia laro Drake -Tirucalia indica Raf.
-Euphorbia media N.E.Br. -Tirucalia tirucalli (L.) P.V.Heath

ชื่อสามัญ --- Milk Bush, African Milkbush, Finger Tree, Naked lady, Pencil tree, Pencil cactus, Sticks on fire, Indian tree spurge, Milk Hedge, Petroleum Plant, Rubber-hedge Euphorbia.
ชื่ออื่น---เคียะเทียน(ภาคเหนือ); เคียะจีน,พญาไร้ใบ,พญาร้อยใบ(เชียงใหม่) ; [THAI: khia thian (Northern); khia chin, phaya rai bai, phaya roi bai (Chiang Mai) (Chiang Mai).]; [AFRIKAANS: Kraalmelkbos.];[ARABIC: Zaqqume hindi, Injil, Azfur zukkum.];[BENGALI: Siju, Latadaona, Lanka sij.];[CHINESE: Lü yu shu.];[FRENCH: FRENCH: Liane sans feuille, Garde maison.];[GERMAN: Bleistiftstrauch, Milchbusch, Gummihecke, Latex-Wolfsmilch, Benzin-Wolfsmilch.];[HINDI: Sehund, Konpal sehund, Konpal-sehnd, Konpahlsehnd,Barki-sehund.];[ITALIAN: Albero Matita, Pianta del Latte.];Matite, Albero della Benzina[KANNADA: Moṇḍugaḷḷi, Bonta kalli.];[MALAYSIA: Tulang-tulang (Malaysia), Tulang, Tikel tosan (Java), Tentulang, Kayu patah, Kaju tangan (Java), Getih urip (Java).]; [PHILIPPINES: Suerda, Putputud, Konsuerda, Katuit (Tagalog).]; [SANSKRIT: Satala - Sātalā, Saptala, Vajradruma, Trikantaka.];[SINHALESE: Nawa handi.];[SOMALIA: Dana];[SPANISH: Arbusto de Goma, Palitroque, Árbol de los Dedos, Palito, Esqueleto.]; [SWEDISH: Gummieuforbia.];[TAIWAN: Lǜ shānhú.];[TAMIL: Tirukalli, Thiru kaḷḷi, Thadi kaḷḷi, Kompu kaḷḷi, Kodi kaḷḷi, Eli pālai.];[TELUGU: Kada jemudu, Chemudu.];[VIETNAM: San hô xanh, Xương khô, Cây xương khô, Cây xương cá, Cành giao.]
ชื่อวงศ์---EUPHORBIACEAE
ถิ่นกำเนิด--- ทวีปแอฟริกา
เขตกระจายพันธุ์--- แอฟริกา คาบสมุทรอาหรับและเขตร้อนอื่นๆหลายแห่ง
นิรุกติศาสตร์---ชื่อสกุลอาจตั้งตาม Euphorbus นักวิทยาศาสตร์ชาวกรีกโบราณ หรือมาจากภาษากรีก “eu” ดี และ “phorbe” อาหาร หรืออาจเป็นภาษาละติน “euphorbia” ที่ใช้เรียกพืชสกุลนี้ในแอฟริกา


มีการกระจายในภาคตะวันออกเฉียงเหนือภาคกลางและภาคใต้ของแอฟริกา อาจจะมีถิ่นกำเนิดในส่วนอื่น ๆ ของทวีปเช่นเดียวกับเกาะโดยรอบและคาบสมุทรอาหรับ และพบในภูมิภาคเขตร้อนอื่น ๆ เช่นบราซิล, อินเดีย, เวียดนาม, ฟิลิปปินส์และกานา เติบโตในพื้นที่แห้งแล้งโดยเฉพาะอย่างยิ่งทุ่งหญ้าสะวันนา
 ไม้ ยืนต้นสูง4-7เมตร ไม่มีหนาม ส่วนที่เราเห็นเกือบทั้งหมดเป็นส่วนของลำต้น มีสีเขียวเป็นเส้นกลม กิ่งก้านหักออกมามียางสีขาว อวบน้ำแตกกิ่งก้านสาขามาก กิ่งรูปทรงกระบอกเกลี้ยงสีเขียว ใบขนาดเล็กมากเป็นใบเดี่ยว ยาว 1- 2.5 ซม. และกว้าง 3- 4 มม. ออกเฉพาะส่วนที่ข้อและปลายยอด ลดรูปเป็นแผ่นขนาดเล็ก ร่วงง่าย ดอกออกเป็นช่อกระจุกที่ปลายกิ่ง ใบประดับสีเหลืองอ่อน ดอกเพศผู้และเพศเมียไม่มีกลีบดอกอยู่ในช่อเดียวกัน ผลเป็นผลแห้งแตกได้
ใช้ประโยชน์--- ใช้เป็นยาทางเลือกในหลายวัฒนธรรม สรรพคุณและส่วนที่นำมาใช้เป็นยาน้ำต้มจากรากใช้เป็นยาแก้ธาตุพิการ เป็นยาระบาย หรือนำมาต้มรวมกับน้ำมันมะพร้าว ใช้ทาแก้ปวดท้อง รากและใบตำเป็นยาพอกแก้ริดสีดวงทวาร
ทั้งต้นต้มน้ำดื่มแก้ปวดท้องและกระเพาะอาหารอักเสบหรือนำมาตำพอกบริเวณที่มีอาการปวดบวม กระดูกเดาะ น้ำ ยางมีพิษมาก ใช้กัดหูด ทาแก้ปวดข้อ ใช้รักษาอาการพยาธิในท้องเด็กหรือใช้ทาตัวปลาแล้วนำไปย่างทั้งเกล็ด เมื่อสุกขอดเกล็ดออกให้เด็กกินเนื้อปลาแก้ โรคพุงโรก้นปอดได้ น้ำยาง Tthe ถูกใช้อย่างกว้างขวางในบราซิลเพื่อรักษาโรคมะเร็ง แต่ในบางพื้นที่ที่ใช้กันทั่วไปรักษาเนื้องอกของจมูก
-วนเกษตร นี่คือสปีชีส์ที่เหมาะสำหรับวนเกษตรโดยปลูกเพื่อป้องกันเนินทรายและดินเปลือยในพื้นที่แห้งจากการกัดเซาะของลมและน้ำให้ร่มเงาเล็กน้อย มีการใช้กันอย่างแพร่หลายในระบบวนเกษตรในแอฟริกาตะวันออก เป็นพืชที่มีความทนทานต่อความแห้งแล้งและความเค็มสูงสามารถปลูกบนดินที่ไม่เหมาะสำหรับพืช
-ใช้ปลูกประดับ ปลูกเป็นรั้วและปลูกกันอย่างแพร่หลายเพื่อวัตถุประสงค์ในการเป็นไม้ประดับ
-ใช้อื่นๆ มันมีศักยภาพที่จะใช้แก้ปัญหาพลังงานในรูปแบบของชีวมวลที่สามารถเปลี่ยนเป็นเชื้อเพลิงชีวภาพก๊าซของเหลวหรือของแข็ง เช่นเม็ดอัดก้อนถ่าน ถ่านอัดแท่ง
ขยายพันธุ์---เมล็ด ปักชำ


พิมเสนต้น/Pogostemon cablin

ชื่อวิทยาศาสตร์---Pogostemon cablin (Blanco) Benth.
ชื่อพ้อง --- Has 8 synonyms
---Mentha auricularia Blanco
---Mentha cablin Blanco
---Pogostemon battakianus Ridl.
---Pogostemon comosus Miq.
---Pogostemon javanicus Backer ex Adelb.
---Pogostemon mollis Hassk.
---Pogostemon patchouly Pellet.
---Pogostemon tomentosus Hassk.
ชื่อสามัญ ---Pachouli, Patchouli, Patchouly, Patchouli-plant.
ชื่ออื่น---ใบหลม, ใบอีหรม, (ภาคใต้) ผักชีช้าง, พญาสามร้อยราก, พิมเสน(กรุงเทพฯ) ; [THAI: Phimsen (Bangkok).];[CHINESE: Guang Huo Xiang.];[FRENCH: Patchouli.];[GERMAN: Patschulistrauch.];[HINDI: Pachauli.];[INDONESIA: Nilam Wangi (General).]; [KOREA: Hyangdulkkaephul.]; [MALAYSIA: Dhalum Wangi, Tilam Wangi, Nilam.]; [PHILIPPINES: Kabling, karlin (Tagalog); Katluen (Bis.); Sarok (Ig.); Kadlum (Bik., S.L. Bis., Sul.).]; [PORTUGUESE: Patchuli.];[SANSKRIT: Pachi.]; [SPANISH: Cablan, Pachuli.];[SWEDISH: Patchouli.];[VIETNAM: (Ho(aws)c h (uw)(ow)ng).].  
ชื่อวงศ์---LABIATAE (LAMIACEAE)
ถิ่นกำเนิด---ทวีปเอเชีย
เขตกระจายพันธุ์--- จีน อินโดนีเซีย กัมพูชา พม่า อินเดีย มัลดีฟส์ มาเลเซีย มอริเชียส เซเชลส์ มาดากัสการ์ ไต้หวัน ฟิลิปปินส์ ไทย เวียดนาม อเมริกาใต้ และ แคริบเบียน
นิรุกติศาสตร์--- น้ำมัน Patchouli อาจมาจากคำภาษาฮินดี "pacholi," ความหมาย "ถึงกลิ่น" หรืออาจมาจากคำภาษาทมิฬโบราณ "patchai" และ "ellai" หมายถึง "ใบไม้สีเขียว"


มีถิ่นกำเนิดในประเทศอินเดีย เป็นพืชเขตร้อนชื้นซึ่งพบได้ที่ระดับความสูง 1,000 - 2,000 เมตร  เป็น ไม้ล้มลุกขนาดเล็ก สูง 0.30-1 เมตร ลำต้นตั้งตรง มีขนหนาแน่น มีกลิ่นหอม ใบเดี่ยวออกตรงข้าม ใบรูปไข่ กว้าง 5-8 ซม.ยาว 7-10 ซม.ขอบใบจักเป็นซี่ มีขนหนาแน่นปกคลุมทั้งด้านบนและด้านล่าง  ด้านล่างมีต่อมเป็นจุดๆ ดอกออกเป็นช่อตามซอกใบและที่ยอด ยาว2.5-14 ซม. ดอกย่อยมีขนาดเล็ก สีขาวประม่วง ผลแข็ง รูปรี ขนาดเล็ก แห้งไม่แตก
การใช้ประโยชน์---ใช้กิน ใบและยอดอ่อนใช้ในการทำชาสมุนไพร ในบางวัฒนธรรมใบสดจะกินเป็นผักหรือใช้เป็นเครื่องปรุงรส
ใช้เป็นยา นี่คือหนึ่งในสูตรสมุนไพรคลาสสิคที่ใช้บ่อยใน TCM (การแพทย์แผนจีน) ในการควบคุมพลังงานที่สำคัญล้างความชื้นและขับไล่ความเย็น ใช้สำหรับหวัด, ไข้, ปวดหัว, คลื่นไส้, อาเจียน, ท้องเสียและปวดท้อง ต้นพิมเสนเป็นส่วนผสมหนึ่งในตำรับยาหอม ตำรับยาแก้ไข้ ใบสดต้มน้ำดื่มแก้ปวดประจำเดือน ยาชงจากยอดแห้งและรากดื่มเป็นยาขับปัสสาวะและขับลม ผงใบใช้เป็นยานัตถุ์และเป็นยาทำให้จาม ใบอ่อนและยอดอ่อนพิมเสนมีสรรพคุณช่วยบำรุงกำลัง ขับลม แก้บิด ท้องร่วง แก้ปวดเอ็นและกระดูก รักษากลากเกลื้อน - ในมาเลเซียและญี่ปุ่นถูกใช้เป็นยาแก้พิษงูและแมลงกัดต่อย
-อื่นๆ พิมเสนมีน้ำมันหอมระเหยมาก ได้จากการสกัดกิ่งและใบอ่อนของต้นพิมเสน ให้น้ำมัน Patchouli น้ำมันหอมระเหยที่ได้เมื่อเย็นจะตกเป็นผลึกสีขาวมีกลิ่นหอมเย็นซ่า นิยมใช้ปรุงเป็นน้ำหอม ใช้ผสมน้ำอาบเพื่อระงับกลิ่นตัว ช่วยให้ผิวพรรณสะอาด -กิ่งและใบแห้งใส่ไว้ในตู้เสื้อผ้าทำให้มีกลิ่นหอมและช่วยป้องกันแมลงมากัด เสื้อผ้า -ในฟิลิปปินส์ใช้ใบและยอดเป็นยาฆ่าแมลง เป็นยาขับไล่แมลงสาบ แมลงเม่า มดและอื่น ๆ
ขยายพันธุ์---เมล็ด, ปักชำ

พิมเสน-Borneo Camphor Tree/Dryobalanops aromatica


ชื่อวิทยาศาสตร์---Dryobalanops aromatica Gaerth
ชื่อพ้อง---Has 9 synonyms

-Dipterocarpus camphorus (Colebr.) Mart. -Pterigium teres Corrêa
-Dipterocarpus dryobalanops Steud. -Shorea camphorifera Roxb.
-Dryobalanops camphora Colebr. -Shorea costata J.Presl
-Dryobalanops sumatrensis (J.F.Gmel.) Kosterm. -Vatica camphorifera (Roxb.) Voigt
-Laurus sumatrensis J.F.Gmel.

ชื่อสามัญ     ---Borneo Camphor Tree. Camphor tree , Malay camphor, Camphor sumatran, Bornean Camphorwood, Brunei Teak.
ชื่ออื่น     ---พิมเสน ;[MALAYSIA: Kapur, Kapur Barus, Kapur Bukit].
ชื่อวงศ์    ---DIPTEROCARPACEAE
ถิ่นกำเนิด    ---เกาะสุมาตรา, คาบสมุทรมาเลเซียและบอร์เนียว
เขตกระจายพันธุ์    ---เอเซียตะวันออกเฉียงใต้ -มาเลเซีย อินโดนีเซีย
พบในป่าทุติยภูมิป่าเต็งรังผสมที่ไม่ถูกรบกวน เติบโตบนเนินเขาและสันเขาที่มีดินปนทราย ที่ระดับความสูงไม่เกิน 300 เมตร
ต้นไม้ถูกจัดให้อยู่ในสถานะใกล้สูญพันธุ์อย่างยิ่งใน IUCN Red List of Threatened Species (2009) โดยมีประชากรย่อยเพียงเล็กน้อยของสปีชีส์ที่พบในป่าสงวน Borneo Camphor คือพิมเสนในธรรมชาติที่พบแทรกอยู่ในเนื้อไม้ของพืช เป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่สูงได้ถึง 70 เมตร มีกิ่งก้านสาขาใหญ่  ใบเป็นใบเดี่ยว กว้าง2.5-5ซม.ยาว7.5-17.8ซม.ใบที่อยู่ตอนบนของต้นเรียงแบบสลับ ส่วนใบที่อยู่ตอนล่างออกตรงข้าม ใบรูปไข่ ขอบใบเรียบ ใบอ่อนสีแดง ดอกออกเป็นช่อที่ปลายกิ่งและซอกใบ ดอกย่อยมีขนาดเล็ก มีกลิ่นหอม ผลเป็นผลแห้งไม่แตก กลีบนอกแผ่ออกเป็นปีก มี 1 เมล็ด พิมเสน ที่พบมีลักษณะเป็นเกล็ดเล็กๆ สีขาวขุ่นหรือแดงเรื่อๆ มีกลิ่นหอมเย็น ฉุน พิมเสนบริสุทธิ์จะเป็นรูปหกเหลี่ยม ละลายในปิโตรเลียมอีเทอร์ เบนซิน
การใช้ประโยชน์  ต้นไม้เป็นแหล่งของการบูรหลักและดึงดูดพ่อค้าชาวอาหรับยุคแรกมายังบอร์เนียวในเวลานั้นมีค่ามากกว่าทองคำและใช้เป็นเครื่องหอมและน้ำหอม
เป็นแหล่งสำคัญของไม้คุณภาพสูงที่รู้จักกันในชื่อ kapur ซึ่งใช้ในท้องถิ่นวื้อขายและแลกเปลี่ยน พืชนี้มีประวัติการใช้ยามายาวนานโดยมีหลักฐานว่ามีการซื้อขายกันในระดับสากลมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 6เป็นอย่างน้อย
ใช้เป็นยาเป็นสมุนไพรที่มีรสขมฉุนกระตุ้น มันเป็นยาแก้ปวด ต้านเชื้อแบคทีเรีย ต้านการอักเสบติดเชื้อ ซึมเศร้าและเป็นยาแก้ไข้ปัจจุบัน พิมเสนจะได้จากสารสังเคราะห์ซึ่งจะมีรสเผ็ดกัดลิ้น ถ้าเป็นของแท้จากธรรมชาติจะไม่กัดลิ้นแต่จะทำให้เย็นปากคอ สมัยก่อนใส่ในหมากพลู  แพทย์แผนโบราณใช้เป็นยาขับเหงื่อ ขับเสมหะ กระตุ้นการหายใจ กระตุ้นสมอง บำรุงหัวใจ ใช้เป็นยาระงับความกระวนกระวาย ทำให้ง่วงซึม ฉะนั้น อย่าใส่ไว้ในรถอาจเกิดอุบัติเหตุมีอันตรายได้ให้ระวังข้อนี้ด้วย หรือถ้าใช้เกินขนาดอาจทำให้อาเจียน การอบสมุนไพรก็ใช้พิมเสนเป็นส่วนประกอบในตัวยา พิมเสนซึ่งระเหิดเมื่อถูกความร้อนจะ มีกลิ่นหอม
ใช้เป็นส่วน ผสมในลูกประคบเพื่อช่วยแต่งกลิ่น ทำให้คลายเครียด***ขยายพันธุ์---เมล็ด
จาก---หนังสือ คู่มือเภสัชกรรมแผนไทย เล่ม ๒ เครื่องยาพฤกษวัตถุ ผู้เขียน ภก.ศ.ดร. ชยันต์ พิเชียรสุนทร, ภก.ศ.พิเศษ ดร. วิเชียร จีรวงส์ 2556 อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง


เพชรสังฆาต/Cissus quadrangularis

ชื่อวิทยาศาสตร์---Cissus quadrangularis L.
ชื่อพ้อง---Has 3 Synonyms
---Cissus tetragona Harv.
---Vitis quadrangularis (L.) Wall. ex Wight & Arn.
---Vitis succulenta Galpin
ชื่อสามัญ---Veldt-Grape, Devil's backbone, Adamant creeper, Four-angled vine, Winged treebine.
ชื่ออื่น---เพชรสังฆาต, สันชะควด (กรุงเทพฯ); ขั่นข้อ(ราชบุรี); สามร้อยต่อ(ประจวบคีรีขันธ์) ; [THAI: phet sang khat,  san cha khuat (Bangkok); khan kho (Ratchaburi); sam roi to (Prachuap Khiri Khan).];[ASSAMESE: Harjora-lata,Harjora.];[AYURVADA: Hadjod.];[BENGALI: Harbhanga,Hasjora.];[FRENCH: Vigne de Bakel, Cissus de Galam, Raisin de Galam, Vanille du Docteur Burke.];[HINDI: Hadjod,Hadjora.];[KINYARWANDA: Kiharura, Ruya.];[MALAYALAM: Peranta,Chanamparanda.];[MARATHI: Ghanasakande,Ghanasvel.];[PHILIPPINES: Sugpon-sugpon (Bisaya); sulpa-sulpa (Cebu Bisaya).];[SANSAKRIT: Asthisamharaka.];[SPANISH: Vid hiedra.];[SWEDYSH: Kantcissus.];[TAMIL: Pirandai,Changalaparanda,Perandai.];[TELUGU: Nalleru.];[VIETNAM: Hồ đằng bốn cạnh.];
ชื่อวงศ์---VITACEAE
ถิ่นกำเนิด---ทวีปเอเซียและทวีปแอฟริกา แอฟริกา
เขตกระจายพันธุ์---บังคลาเทศ อินเดีย ศรีลังกา แอฟริกา อารเบีย  เอเชียตะวันออกเฉียงใต้  บราซิล และทางใต้ของ สหรัฐอเมริกา


มีถิ่นกำเนิดในแอฟริกาเขตร้อน, อารเบีย, มาดากัสการ์, อินเดีย ศรีลังกาและปหร่ไปยังเวียดนาม, ไทย, ชวา โมลุกกุ ฟิลิปปินส์ อเมริกาใต้ และสหรัฐอเมริกา  เติบโตในพื้นที่แห้งแล้งหรือกึ่งแห้งแล้งใกล้ชายฝั่งที่ระดับความสูงถึง 300 เมตร และถึงกว่า2,000เมตรในแอฟริกา
ไม้ เถาลำต้นเป็นรูปเหลี่ยมเป็นครีบคล้ายถั่วพู สูง 5 เมตร. เส้นผ่านศูนย์กลางลำต้น 1–1.5 (-5) ซม. ไม่รวมปีก ผิวเรียบมีรอยคอดบริเวณข้อ ใบเดี่ยวออกข้อละ1ใบบริเวณปลายเถา รูปสามเหลี่ยม กว้าง3-8ซม.ยาว4-10ซม. ขอบใบหยักมน เนื้อใบค่อยข้างหนา ตรงข้ามใบมีมือเกาะ  ช่อดอกออกตามข้อ ดอกย่อยขนาดเล็ก กลีบดอกด้านนอกสีเขียวแกมเหลือง โคนกลีบมีสีแดง กลีบด้านในสีขาวแกมเขียว ผลเป็นผลสดรูปกลมสีแดงเมื่อสุก มีเมล็ดกลม1-2เมล็ด ขนาดเมล็ดยาว 5 มม. กว้าง 4 มม
การใช้ประโยชน์---ใช้กิน  ลำต้นสีเขียวอ่อน - สุก มักจะทอดหรือแกง ใบและหน่ออ่อนใช้แกง เถ้าของพืชถูกใช้แทนผงฟู
-ใช้เป็นยา  Cissus Quadrangularis ชื่อในภาษาสันสกฤตคือ Asthisamharaka ซึ่งแปลว่า "ตัวตั้งกระดูก" เป็นสมุนไพรอายุรเวทที่ใช้สำหรับเสริมสร้างกระดูกและข้อต่อและส่งเสริมการเจริญเติบโตของกระดูก มันเพิ่มความหนาแน่นของกระดูกและเพิ่มอัตราการรักษากระดูกหัก รวมทั้งความหนาแน่นของแร่กระดูกต่ำและโรคกระดูกพรุน นอกเหนือจากการใช้ในความผิดปกติของกระดูกและข้อต่อแล้วมันยังใช้รักษาอาการเบื่ออาหาร อาหารไม่ย่อย ริดสีดวงทวาร หนอนลำไส้ เกาต์ เลือดออกภายในและระดูขาว มีประสิทธิภาพ ในการลดการอักเสบ เพิ่มความแข็งแรงของกระดูกปรับปรุงสภาพระบบทางเดินหายใจ เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันและบรรเทาอาการปวด นอกจากนี้ยังช่วยลดปัญหาเกี่ยวกับประจำเดือนไม่ปกติ ปกป้องฟันผุ ป้องกันโรคเบาหวาน เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของหัวใจและหลอดเลือดและลดปัญหาการสูญเสียน้ำหนัก นอกจากนี้ยังมีผลต่อการเจริญเติบโตของเซลล์ผิวและยังช่วยลดการตายของเซลล์จากการเกิดออกซิเดชั่น พืชมีศักยภาพเป็นสารออกฤทธิ์ในการเตรียมการรักษาริ้วรอยผิวในผู้หญิงในวัยหมดประจำเดือน นอกจากนี้ยังมีการใช้เป็นยาโป๊ใช้ในการปรับปรุงความแข็งแกร่งของผู้ชาย ถูกใช้ทั่วโลกในฐานะตัวแทนการรักษาแบบดั้งเดิมมีถิ่นกำเนิดในแอฟริกาและบางส่วนของเอเชียโดยเฉพาะอินเดียศรีลังกาและไทย มันถูกส่งออกไปยังพื้นที่ทางตอนใต้ของสหรัฐอเมริกาและบราซิล สารสกัดจากพืชได้พิสูจน์แล้วว่าเป็นประโยชน์อย่างมากในยาสมุนไพรและตอนนี้สามารถเข้าถึงได้ในรูปแบบอาหารเสริมในหลายส่วนของโลก -ในสหรัฐอเมริกาผู้คนใช้ Cissus quadrangularis สำหรับเงื่อนไขที่หลากหลาย มันถูกใช้โดยนักเพาะกายและนักกีฬาเป็นทางเลือกที่เป็นธรรมชาติของสเตียรอยด์
สรรพคุณอื่น และส่วนที่นำมาใช้เป็นยา น้ำคั้นจากต้น ใช้หยอดหูแก้หูน้ำหนวก หยอดจมูกแก้เลือดกำเดา ขับน้ำเหลืองเสียในสตรีประจำเดือนไม่ปกติ เป็นยาธาตุเจริญอาหาร  ใบยอดอ่อนรักษาโรคลำไส้อาหารไม่ย่อย ส่วนใบและรากเป็นยาพอก  
ตำรา ยาไทยใช้เถาสดกินแก้ริดสีดวงทวาร วันละ1ปล้องจนครบ3วัน โดยหั่นบางๆ ใช้เนื้อมะขามเปียกหรือเนื้อกล้วยสุกหุ้ม กลืนทั้งหมด เพราะเถาสดอาจทำให้คันคอ
-ใช้ปลูกประดับ มันได้รับการปลูกฝังในสวนทั้งในฐานะพืชสมุนไพรและเพื่อการตกแต่ง
-ใช้อื่นๆ ลำต้นและรากให้เส้นใยที่แข็งแรง ใช้รากแช่เป็นสารกำจัดศัตรูพืชกับปลวก บดลำต้นในน้ำเป็นยาขับไล่และฆ่าหมัด ในประเทศอินเดียสารสกัดจากใบถูกนำไปใช้ในการควบคุมเพลี้ยจักจั่นและไรอย่างประสบความสำเร็จ
ขยายพันธุ์---เมล็ด ปักชำ เพาะเนื้อเยื่อ


พริกขี้หนู/Capsicum frutescens

ชื่อวิทยาศาสตร์ --- Capsicum frutescens L.
ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์---Has 13 Synonyms  
---Capsicum frutescens L
---Capsicum frutescens var. frutescens,
---Capsicum minimum Mill.--(more)
ชื่อสามัญ---Cayenne Pepper, Chilli, Capsicum Pepper,Mexican chilies, Paprika, Sweet peppers, Tabasco pepper,
ชื่ออื่น---พริกแด้ พริกแต้ พริกนก พริกแจว พริกน้ำเมี่ยง (ภาคเหนือ), หมักเพ็ด (ภาคอีสาน), พริก พริกขี้หนู พริกชี้ฟ้า (ภาคกลาง), ดีปลีขี้นก พริกขี้นก (ภาคใต้), พริกมะต่อม (เชียงใหม่), ปะแกว (นครราชสีมา), มะระตี้ (สุรินทร์), ดีปลี (ปัตตานี), ครี (กะเหรี่ยง-กำแพงเพชร); [THAI: phrik dae, phrik tae, phrik tae nu, phrik kon chi, phrik kon pin, phrik luang,  phrik nok, phrik nam miang, phrik num (Northern); di pli, di pli mueang, di pli khi nok, phrik khi nok (Peninsular);  phrik kaeo, phrik khi nu, phrik khi nu suan, phrik som, phrik tum,  phrik pum (Central);  phrik, phrik sai pla lai, phrik yak, phrik chinda,  phrik yuak, phrik wan, phrik chi fa (General); pa-kaeo (Chaobon-Nakhon Ratchasima); phrik lueang, phrik muang, phrik man (Bangkok); phrik laeng, phrik ma tom (Chiang Mai); phrik ma yom (Lampang);  phrik nio mue nang (Northeastern); ma-ra-ti (Khmer-Surin); mue-sa-si-su, mue-sa-pho, mue-sa-pha-du (Karen-Mae Hong Son); luk phet (Surat Thani); mak phet (Northeastern); khri (Karen-Kamphaeng Phet).];[BRAZIL: Cumarim , Cumari.]; [FRENCH: Piment; Piment de Cayenne; Piment d'oiseau.];[GERMANY: Cayenne- Pfeffer; Chilli- Pfeffer.]; [ITALY: Peperone rabbioso.];[SPANISH: chile.]; [PORTUGUESE: Pimantão; Pimento.];
ชื่อวงศ์---SOLANACEAE
ถิ่นกำเนิด---ทวีปอเมริกา
เขตกระจายพันธุ์---ประเทศในเขตร้อน
เป็นพืชเพาะปลูกแลพบในธรรมชาติ ในเขตร้อนของแอฟริกาช่วง แอฟริกาเหนือและตะวันตกเฉียงใต้ ยุโรป หมู่เกาะในมหาสมุทรอินเดียอินเดีย ปาปัวนิวกีนี นิวแคลิโดเนีย ออสเตรเลีย มักพบในพื้นที่เพาะปลูกที่ถูกทิ้งร้างขอบป่า พุ่มไม้ ริมแม่น้ำ ริมถนนด้าน ที่ระดับความสูง 150–1,250 เมตร
ไม้ ล้มลุกสูง 90-100 ซม. ใบเดี่ยวเรียงสลับ รูปไข่หรือรูปรี กว้าง 2-4 ซม.ยาว 3-8 ซม. โคนใบเฉียง ปลายใบแหลม แผ่นใบเรียบเป็นมัน ก้านใบ (0.5–) 1–2.2 (–4) ซม. ดอกช่อออกที่ซอกใบช่อละ2-3ดอกกลีบดอกสีขาวหรือเขียวอ่อน ผลยาว 7.5 ซม.กว้าง 1 ซม.ผลสดสีเขียวเมื่อสุกสีแดงมีเมล็ดจำนวนมาก
การใช้ประโยชน์ ---สายพันธุ์นี้ปลูกกันอย่างแพร่หลายทั่วโลก แต่โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเขตอบอุ่นถึงภูมิอากาศเขตร้อนสำหรับผลไม้ที่กินได้ซึ่งใช้เป็นเครื่องปรุงอาหารและสำหรับสรรพคุณทางยา
-ใช้เป็นอาหาร ผลไม้ - ดิบหรือสุก ร้อนมากและใช้เป็นสารแต่งรส ผลไม้แห้งและบดเป็นผงเพื่อใช้เป็นเครื่องปรุง
-ใช้เป็นยา ตำรา ยาไทยใช้ผลซึ่งมีรสเผ็ดร้อนขับเสมหะ แก้ไข้ แก้ตานซางซึ่งเป็นโรคที่มักพบในเด็ก มีอาการซูบซีด พุงโร ก้นปอด สันนิษฐานว่าเกิดจากพยาธิในลำไส้ ต้นสุมเป็นถ่านแช่น้ำดื่ม ช่วยขับปัสสาวะ แก้ปวดเมื่อยตามร่างกาย แก้กษัย แก้เส้นเอ็นพิการ
-ใช้อื่นๆ ปัจจุบันใช้เป็นส่วนผสมในยาขับลมและยาขี้ผึ้งทาถูนวด และเป็นพืชใช้ขับไล่แมลง
ขยายพันธุ์---เมล็ด


พริกไทย/Piper nigrum


ชื่อวิทยาศาสตร์ ---Piper nigrum L.
ชื่อพ้อง---Has 7 Synonyms
---Muldera multinervis Miq.
---Piper aromaticum Lam.
---Piper colonum C.Presl
---Piper denudatum Opiz
---Piper glyphicum Hoffmanns. ex Kunth
---Piper malabarense C.DC.
---Piper nigrum var. hirtellosum Asokan Nair & Ravindran
ชื่อสามัญ---Pepper, Pepper-Plant, Black pepper, White pepper
ชื่ออื่น--- พริกน้อย,พริกขี้นก, พริกไทยดำ ; [THAI: Prik thai, Prik thai dam (Central); phrik-noi (Northern).];[CAMBODIA: Mréch.];[CHINESE: Hu jiao, Hu-chiao.]; [FRENCH: Poivre.];[GERMAN: Pfeffer.]; [HINDI: Kali mirch, Gol mirch, Gulki.];[INDONESIA: Lada, Merica.]; [JAPANESE: Koshō.]; [KOREAN: Huchu.]; [LAOS: Ph'ik no:yz, ph'ik th'ai.];[MALAYALAM: Kurumulagu.];[MALAYSIA: Lada hitam.];[MYANMAR: Ngayoke-kaung, Mawrite nawa (Mon).];[PHILIPPINES: Paminta, paminta-liso (Cebuano), pamienta (Ilocano).];[SANSKRIT: Maricha.];[SPANISH: pimienta.]; [VIETNAM:  Ti[ee]u, h[oof] ti[ee]u.];
ชื่อวงศ์ ---PIPERACEAE
ถิ่นกำเนิด---- ทวีปเอเซีย
เขตกระจายพันธุ์---ประเทศในเขตร้อน
นิรุกติศาสตร์---ชื่อสกุลมาจากภาษากรีก “peperi” หมายถึงพริกไทย
มีถิ่นกำเนิดใน Ghats ตะวันตกของรัฐ Kerala ประเทศอินเดีย ใน Malabar ภูมิภาคหนึ่งในชายฝั่งตะวันตกของอินเดียใต้
ไม้เถาเนื้อแข็ง รากฝอยออกบริเวณข้อที่โป่งนูนเพื่อใช้ยึดเกาะ ใบเดี่ยวเรียงสลับ กว้าง5-8ซม.ยาว8-11ซม.ดอกช่อ ออกที่ซอกใบ ดอกย่อยสมบูรณ์เพศ สีขาวแกมเขียว ผลอ่อนสีเขียวเมื่อสุกสีแดง
ข้อกำหนดสิ่งแวดล้อม---เติบโตได้ดีที่สุดในตำแหน่งที่กำบังในแบบกึ่งเงา ชอบดินที่เป็นกลางซึ่งเต็มไปด้วยอินทรียวัตถุ ชอบค่าความเป็นกรด - ด่างในช่วง 6 - 7 ซึ่งทนได้ 5 - 7.5
ใช่้ประโยชน์---พืชนี้ถูกใช้เป็นเครื่องเทศและยารักษาโรคมานานนับพันปี มันได้รับการปลูกฝังกันอย่างแพร่หลายในพื้นที่เขตร้อนสำหรับเมล็ดของมันซึ่งใช้เป็นเครื่องปรุงรสร้อนในอาหาร มันมักจะปลูกเป็นพืชผลรองในร่มเงาของพืชสูง
-ใช้กิน สำหรับในครัวพริกไทยใช้เป็นเครื่องเทศสำหรับแต่งกลิ่นรสอาหารและช่วยถนอม อาหาร พริกไทยที่ขายในท้องตลาดมี2ชนิดคือ พริกไทยดำละพริกไทยล่อน พริกไทยดำเป็นผลแก่แต่ยังไม่สุก นำมาตากแห้ง ส่วนพริกไทยล่อนได้จากผลสุกที่นำมาแช่น้ำเพื่อลอกเปลือกชั้นนอกออก แล้วจึงตากแห้ง
-ใช้เป็นยา เป็นสมุนไพรฉุนกลิ่นหอมร้อนที่ลดไข้เป็นน้ำยาฆ่าเชื้อและปรับปรุงการย่อยอาหาร สามารถใช้ในการรักษาอาการปวดไขข้ออักเสบรูมาตอย หนาวสั่นไข้หวัด ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มการไหลของน้ำลายกระตุ้นความอยากอาหารกระตุ้นการบีบตัวของกล้ามเนื้อลำไส้ใหญ่และเป็นยาชูกำลัง ในฐานะที่เป็นน้ำยาบ้วนปากมันมีค่าสำหรับลิ้นไก่ผ่อนคลายอัมพาตของลิ้น -ได้รับการยกย่องว่าเป็นยาขับเสมหะในการแพทย์แผนตะวันตกและอายุรเวท-ใช้ภายนอกในการแพทย์อายุรเวทในการรักษาคัดจมูก, ไซนัสอักเสบ, โรคลมชักและผิวหนังไวแสง -ในการแพทย์แผนจีนมันถูกใช้เป็นสมุนไพรร้อนในการรักษาอาการหนาวสั่นในกระเพาะอาหาร, อาหารเป็นพิษ, อหิวาตกโรค, บิด, ท้องเสียและอาเจียนที่เกิดจากความหนาวเย็น-ตำราไทยใช้ผลเป็นยาขับลมแก้อาการท้องอืดเฟ้อ บำรุงธาตุ เจริญอาหาร ขับเหงื่อ ขับปัสสาวะ และกระตุ้นประสาท
-อื่น ๆ พบว่าผลมีน้ำมันหอมระเหยและแอลคาลอยด์piperineซึ่งมีฤทธิ์กระตุ้นประสาทและเป็นยาฆ่าแมลงโดยเฉพาะอย่างยิ่งแมลงวัน
ขยายพันธุ์---เมล็ด ปักชำยและแอลคาลอยด์piperineซึ่งมีฤทธิ์กระตุ้นประสาทและเป็นยาฆ่าแมลงโดยเฉพาะอย่างยิ่งแมลงวัน
ขยายพันธุ์---เมล็ด ปักชำ


พลู/ Piper betle

ชื่อวิทยาศาสตร์---Piper betle L.
ชื่อพ้อง---Has 32 Synonyms    
---Artanthe hexagyna Miq.
---Betela mastica Raf.
---Chavica auriculata Miq.
---Chavica betle (L.) Miq.
---Piper betel Blanco [Spelling variant]
---Piperi betlum (L.) St.-Lag.---(more)
ชื่อสามัญ--- Betel, Betel Vine, Betel Pepper, Betle Pepper
ชื่ออื่น---ซีเก๊ะ(มาเลย์-นราธิวาส); พลู(ทั่วำป); [THAI: si-ke (Malay-Narathiwat); phlu (General).];[AYURVADA: Nagavallari.];[CHINESE: Ju jiang, Ch'ing Chu.]; [HINDI: Paan, Nagar-bel.];[INDONESIA: Bakik serasa.]; [KANNADA: Ambaadi yele, Veeleyada yele.];[KHMER: Maluu.]; [MALAYALAM: Beetla, Vettila.];[MALAYSIA: Daun sirih.]; [MARATHI: Khavayache-pan, naagavaela.];[MYANMAR: kun, pu (Shan), bu, buru (Kachin).]; [NEPALI: Paan.];[PHILPPINES: Buyo-anis (Tag.).]; [SANSKRIT: Mukhbhushan, Tambula, Nagavalli.];[TAMIL: Vettilai, Akilatam, Vetrilai.];[VIETNAMESE: Trầu, Trâu cay,Trâu không.].
ชื่อวงศ์ ---PIPERACEAE
ถิ่นกำเนิด---ทวีปเอเซีย
เขตกระจายพันธุ์--- ศรีลังกา อินเดีย มาเลเซีย อินโดนีเซีย-บาหลี อินดีสต์ตะวันออก และแอฟริกาตะวันออก


มีต้นกำเนิดในเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  เดิมทีพืชนี้อาจมีถิ่นกำเนิดในประเทศมาเลเซีย แต่มันถูกนำไปปลูกมากกว่า 2,500 ปีแล้วและไม่เป็นที่รู้จักในป่าอีกต่อไป
ไม้ เถาเนื้อแข็ง รากฝอยออกบริเวณข้อที่ใช้ยึดเกาะ ข้อโป่งนูน ใบเดี่ยวเรียงสลับรูปหัวใจ กว้าง8-12 ซม.ยาว 12-16ซม.  มีกลิ่นเฉพาะและมีรสเผ็ด ดอกช่อออกที่ซอกใบ ดอกย่อยขนาดเล็กอัดแน่นเป็นรูปทรงกระบอก ดอกแยกเพศสีขาว ผลเป็นผลสด กลมเล็กเบียดอยู่บนแกน พลูมีหลายพันธุ์เช่น พลูเหลือง พลูทองหลาง
การใช้ประโยชน์---เป็นที่นิยมใช้เป็นส่วนหนึ่งของส่วนผสมที่บดเคี้ยวซึ่งเกี่ยวข้องกับต้นพลู (Areca spp.) และยังมีการใช้เป็นยา แก้อาการหลายชนิด ใบรากและเมล็ดล้วนใช้เพื่อการรักษาโรคในเอเชีย
-ใช้เป็นยา สรรพคุณทางสมุนไพร รากรักษาโรคเอดส์ ใบ รสเผ็ดเมา แก้ปวดฟัน แก้รำมะนาด แก้ปากเหม็น ขับลมในลำไส้ แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ แก้ปวดท้อง ท้องเสีย ใช้ภายนอกแก้ปวดบวมฟกช้ำ ฆ่าเชื้อโรค แก้การอักเสบของเยื่อจมูกและคอ แ้ก้กลาก แก้น้ำกัดเท้า แก้คัน แก้ลมพิษ ตำราไทยใช้คั้นใบสดเอาน้ำกินเป็นยาขับลม ใบปิ้งหรือลนไฟประคบลดอาการอักเสบฟกช้ำเรือนกาย ใช้ใบ3-4ใบขยี้หรือตำให้ละเอียด ผสม เหล้าขาวพอกทาแก้ลมพิษ หายคันดีนัก(อาการลมพิษ คืออาการที่มีผื่นตามผิวหนัง เป็นปื้น ขอบนูนแข็งเป็นแผ่น  ยิ่งเกายิ่งคัน บวม ขึ้นได้ทั้งตัว)- ในฟิลิปปินส์ใช้ใบสดบดเป็นยาฆ่าเชื้อสำหรับบาดแผล ใบไม้พร้อมกับมะนาวและเมล็ดพลูเป็นส่วนประกอบของการบดเคี้ยวของฟิลิปปินส์ การใช้มันเชื่อว่าจะช่วยรักษาฟันและป้องกันโรคกระเพาะอาหาร ใช้กับน้ำมันหมูหรือน้ำมันงา ใช้เป็นยาขับลม นำไปใช้กับ เด็กที่ปวดท้องจากความผิดปกติของกระเพาะอาหาร -ในประเทศจีน น้ำคั้นจากใบใช้เป็นยาแก้ปวดท้อง ใช้น้ำมันแก้อาการบวมช้ำแผลที่เจ็บปวดและต่อมน้ำเหลืองโต -ในประเทศอินเดียใบใช้สำหรับรักษาโรคเรื้อนกวาง, โรคหอบหืดและโรคไขข้อ -ในศรีลังกาใช้น้ำคั้นสดจากใบพลูเพื่อใช้รักษาโรคผิวหนัง
-ใช้อื่นๆ  สีน้ำตาลอมเหลืองที่ได้จากใบมีส่วนประกอบของน้ำมันหอมระเหย การเคี้ยวพลูเป็นประเพณีที่ได้รับการยอมรับ 10-20% ของประชากรโลก องค์การอนามัยโลกประเมินว่าประมาณ 600 ล้านคนใช้หมากพลูในบางรูปแบบ มันเป็นหนึ่งในสารออกฤทธิ์ทางจิตที่เป็นที่นิยมมากที่สุดอันดับสี่ รองจากนิโคติน แอลกอฮอล์และคาเฟอีน
ขยายพันธุ์---เมล็ด ปักชำ


พลูคาว/Houttuynia cordata


ชื่อวิทยาศาสตร์---Houttuynia cordata Thunb.
ชื่อพ้อง  ---Has 5 Synonyms
---Houttuynia cordata f. polypetaloidea T.Yamaz.
---Houttuynia cordata f. viridis J.Ohara
---Houttuynia emeiensis Z.Y.Zhu & S.L.Zhang  
---Polypara cochinchinensis Lour.   
---Polypara cordata Kuntze
ชื่อสามัญ---Fish mint, Fish leaf, Lizard tail, Chameleon plant, Heartleaf, Fishwort, Bishop's weed, Chinese lizard tail, Rainbow plant.
ชื่ออื่น---ผักก้านตอง (แม่ฮ่องสอน); ผักเข้าตอง, ผักคาวตอง (ภาคเหนือ); ผักคาวทอง, พลูแก (ภาคกลาง) [THAI: phak kan tong (Mae Hong Son); phak khao tong, phak khao tong (Northern); phak khao thong, phlu kae (Central).];[ASSAMESE: Masundari,Mosondoi,Mochondori,Mosundori.];[CHINESE: Yu Xing Cao.]; [FRENCH: Plante caméléon.]; [JAPANESE: Dokudami.]; [LAOS: Khautong, Pak Khautong.].[VIETNAMESE: Diep ca, Giap ca, Ngu tinh thao, Vap ca, Dap ca.].
ชื่อวงศ์--- SAURURACEAE
ถิ่นกำเนิด---ทวีปเอเชีย
เขตกระจายพันธุ์---แถบเทือกเขาหิมาลัยไปจนถึงเวียดนาม ญี่ปุ่น ไทย
นิรุกติศาสตร์---ชื่อสกุลตั้งตามนักพฤกษศาสตร์ชาวดัตช์ Maarten Houttuyn (1720-1798)
เป็นพืชผักพื้นเมืองในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ส่วนใหญ่เป็นที่นิยมในภูมิภาคเอเชียของโลกโดยเฉพาะเวียดนาม จีน ญี่ปุ่น อินเดียและเกาหลี มักถูกพิจารณาว่าเป็นวัชพืช ในออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อเมริกาเหนือและหมู่เกาะแปซิฟิกพบที่ระดับความสูงใจากระดับน้ำทะเลถึง 2,500 เมตร ในประเทศไทยส่วนมากพบทางภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ขึ้นตามที่โล่งที่ชื้นแฉะ ที่ระดับความสูงถึงประมาณ 1000 เมตร
ไม้ล้มลุก สูง15-30ซม.ลำต้นล้มทอดเลื้อยไปตามผิวดิน แตกรากตามข้อ ใบเดี่ยวเรียงสลับรูปหัวใจคล้ายใบพลู กว้าง4-6 ซม.ยาว6-10 ซม. ดอกช่อออกตรงปลายยอด มีใบประดับสีขาว4ใบ ดอกย่อยขนาดเล็กไม่มีกลีบดอก และก้านดอก ผลแห้งแตกที่ปลาย รูปคนโท ยาว 2-3 มม. เมล็ดรูปไข่ ยาวประมาณ 1 มม.
การใช้ประโยชน์--- ใช้เป็นอาหารและยา
-ใช้กิน ต้นสด มีกลิ่นคาวค่อนข้างแรงมากเหมือนคาวปลา ต้นแห้งรสจืดหอมอมเปรี้ยวกลิ่นคาวหายไป  ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดียมักใช้ในสลัดหรือปรุงกับผักอื่น ๆ และใช้เป็นเครื่องเคียง ปรุงพร้อมกับปลาเป็นแกงเผ็ดปลา ในญี่ปุ่นและเกาหลีใบแห้งของมัน ถูกใช้เป็นชา ในอาหารเวียดนามเรียกว่า diếpcá ใช้กับเนื้อย่างและสลัด และถูกใช้เป็นเครื่องปรุงอาหารเวียดนามหลายอย่างเช่นCuon Goiเนื้อวัวผัดกับผักคาวตอง
-ใช้เป็นยา พลูคาว รสคาวเย็น ตำรายาไทยใช้ใบแก้กามโรค ทำให้น้ำเหลืองแห้ง แก็โรคผิวหนังทุกชนิด ตำรายาจีนใช้ทั้งต้นเป็นยาขับปัสสาวะ ฆ่าเชื้อในทางเดินปัสสาวะ ที่ผ่านมานักวิจัยต่างชาติได้ศึกษาสารสกัด พลูคาวพบว่ามีคุณสมบัติต้านเชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย และเชื้อไวรัสได้ดี อีกทั้งยังมีความเป็นไปได้ในการยับยั้งเชื้อมะเร็งและมีแนวโน้มที่จะต้าน ไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่2009ได้ ซึ่งจะต้องมีข้อมูลทางวิชาการมารองรับ ก่อนจะพัฒนาเป็นยาต้านเชื้อไวรัสต่อไป - เป็นยาพื้นบ้านในประเทศจีนที่ใช้เป็นยาต้านเชื้อแบคทีเรียโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการติดเชื้อของระบบทางเดินหายใจและมีการใช้ในการแพทย์แผนจีนรวมถึงนักวิทยาศาสตร์จีนในความพยายามที่จะรักษาโรคซาร์สและความผิดปกติอื่น ๆ อีกมากมาย
ระยะออกดอก/ติดผล---เมษายน-มิถุนายน/กรกฎาคม-สิงหาคม
การขยายพันธุ์---แยกหน่อ เหง้า


ฟ้าทะลายโจร/Andrographis paniculata

ชื่อวิทยาศาสตร์ --- Andrographis paniculata (Burm.f.)  Wall. ex  Nees
ชื่อพ้อง---Has 3 synonyms
---Justicia latebrosa Russell ex Wall.
---Justicia paniculata Burm.f.
---Justicia stricta Lam. ex Steud.
ชื่อสามัญ---Kariyat, The Creat, Green chireta, King of bitter, Indian snake grass.
ชื่ออื่น---ซีปังกี (จีน); ฟ้าทะลาย, ฟ้าทะลายโจร (กรุงเทพฯ); หญ้ากันงู (สงขลา); [THAI:  si-pang-ki (Chinese); fa thalai, fa thalai chon (Bangkok); ya kan ngu (Songkhla).];[ARABIC: Quasabhuva'];[ASSAMESE: Kalpa-tita, Kalmegh, Kalmegh.];[AYURVADC: Kalmegh, Bhunimba.]; [BENGALI: Kalamegh, Chirota..];[BRUNEI: Daun pahit.];[BURMESE: Say gah gyi, Nga yoke gah.];[CHINESE:  Si fang lian, Chuan xin lian..]; [HINDI: Kirayat,Kalpanath.];[INDONESIA: Sambiloto, Sambiroto.];[JAPANESE: Andorogurafizu paniikuraata, Senshinren.];[KANNADA: Nelaberu.];[KHMER: Smau pramat manuss.];[LAOTIAN: La xa bee.];[MALAYALAM: Nelavepu,Kiriyattu,Nilavepu.];[MALAYSIA:  Hempedu bumi, Akar cerita, Pokok cerita, Empedu tanah.];[MARATHI: Kalpa,Oli-kiryata.];[PHILIPPINES: Aluy, Likha, Serpentina, Sinta (Tag.).];
[RUSSIA: Andrografis.];[SANSKRIT: Bhunimba,Kalmegha, Kirata, Mahateet, Mahatikta.];[SIDHA: Nilavembu(Tamil).];[SINHALESE: Hin kohomba, Heen kohomba, Bim kohomba.]; [TAMIL: Nilavembu,Siriya nangai,Nila vaembu.];[TELUGU: Nilavembu.];[UNANI: Kiryaat.]; [VIETNAMESE: Xuyen tam lien.].
 ชื่อวงศ์---ACANTHACEAE
ถิ่นกำเนิด--- ทวีปเอเซีย
เขตกระจายพันธุ์--- ภาคใต้และตะวันออกเฉียงใต้ของ เอเชีย พบได้ทั่วไปในประเทศไทย ลาว กัมพูชา มาเลเซีย อินโดนีเซีย เวียดนาม จีน และหมู่เกาะในทะเลแคริบเบียน


ถิ่นกำเนิด ฟ้าทะลายโจรเป็นพืชที่เติบโตตามธรรมชาติในอินเดียและศรีลังกา มีการกระจายในประเทศในเอเชียเขตร้อน พบได้ในที่อยู่อาศัยที่หลากหลายเช่นที่ราบเนินเขาชายฝั่งทะเลและพื้นที่ที่ถูกรบกวน  เช่นริมถนน ฟาร์ม และดินแดนรกร้าง พบได้ในระดัความสูงถึง 500เมตร
พืช ล้มลุก มีรสขม สูงประมาณ 30-60 เซนติเมตร ลำต้นสี่เหลี่ยมตั้งตรง แตกกิ่งเล็กๆออกทางด้านข้าง ใบเดี่ยวเรียงตรงข้าม รูปไข่หรือรูปใบหอก กว้าง 2-3 ซม.ยาว 4-8 ซม.สีเขียวเข้มเป็นมัน ดอกเป็นช่อออกที่ปลายกิ่งและซอกใบ ดอกย่อยขนาดเล็ก กลีบดอกสีขาว โคนกลีบดอกติดกัน ปลายแยกออกเป็น2ปาก ปากบนมี3กลีบ ปากล่างมี2กลีบ ผลเป็นฝักยาวประมาณ 1.5 ซมสีน้ำตาลอมเขียว เมื่อแก่แตกออกเป็นสองซีก ดีดเมล็ดออกมา เมล็ดสีน้ำตาลเหลือง
การใช้ประโยชน์---ใช้กันอย่างแพร่หลายเป็นสมุนไพรเป็นพืชที่ปลูกในพื้นที่เขตร้อนของโลกและได้กลายเป็นธรรมชาติในหลายพื้นที่ บางครั้งพืชก็ปลูกเป็นไม้ประดับ
-ใช้เป็นยา สมุนไพรที่พบได้บ่อยมากในการแพทย์แผนจีน (TCM) เนื่องจากมีผลในการรักษาความร้อนล้างพิษล้างพิษและต่อต้านการอักเสบ นอกเหนือจากการใช้ทางการแพทย์สมุนไพรนี้ยังกินได้และกลายเป็นหนึ่งในอาหารที่จำเป็นโดยเฉพาะในมณฑลกวางตุ้ง ชาวจีนใช้ฟ้าทะลายโจรมาแต่โบราณ และมาเป็นที่นิยมใช้ในประเทศไทยไม่นานนี้ โดยใช้เฉพาะใบหรือทั้งต้นบนดินซึ่งเก็บก่อนที่จะมีดอก เป็นยาแก้เจ็บคอ แก้ท้องเสีย แก้ไข้ เป็นยาขมเจริญอาหาร สำหรับ ในการรักษาอาการเจ็บคอและแก้ไข้นั้น ขนาดที่ใช้ พืชสด1-3กำมือ ต้มน้ำดื่มก่อนอาหาร3ครั้ง หรือใช้พืชแห้งบด โดยนำใบตากแห้งบดเป็นผงละเอียดบรรจุในแคปซูล หรือปั้นเป็นเม็ดกับน้ำผึ้งเพื่อให้รับประทานได้ง่ายเนื่องจากมีรสขมมาก นอกจากนั้นใช้ดองเหล้ารักษาโรคท้องร่วงและบิดไม่มีตัว แก้พิษงูกัดและแมลงต่อย(ทั้งกินทั้งทา)  ใช้ต้มเป็นชาดื่มรักษาอาการหวัดมีน้ำมูก เสริมสร้างภูมิคุ้มกันไวรัส รักษาระบบทางเดินหายใจ ปาก คอ จมูก ช่วยรักษาเกี่ยวกับโลหิตเสีย โรคโลหิตจาง โลหิตเป็นพิษ สตรีระดูพิการ เบาหวาน ฟ้าทะลายโจรมีการใช้ในสิทธา และยาอายุรเวท ในยาแผนโบราณของอินเดียมีการใช้ต้นฟ้าทะลายโจรในการรักษาโรคไข้หวัดและไข้หวัดใหญ่ และในการรักษาโรคดีซ่าน
-อื่น ๆ สารสกัดใบฟ้าทะลายโจรมีรายงานว่ามีฤทธิ์ในการต่อต้านและป้องกันการตกไข่จากแมลงศัตรูพืชหลายชนิด
ระยะออกดอก---สิงหาคม-กันยายน
ขยายพันธุ์---เมล้ด


ฟักข้าว/Momordica cochinchinensis

ชื่อวิทยาศาสตร์---Momordica cochinchinensis (Lour.) Spreng.
ชื่อพ้อง---Has 8 synonyms

-Momordica macrophylla Gage -Momordica sphaeroidea Blanco
-Momordica meloniflora Hand.-Mazz. -Momordica suringarii Cogn.
-Momordica mixta Roxb. -Muricia cochinchinensis Lour.
-Momordica ovata Cogn. -Zucca commersoniana Ser.

ชื่อสามัญ--- Gac, Gac Fruit, Baby Jackfruit, Spiny Bitter Gourd, Sweet Ground, Cochinchin Goud,  Spiny Bitter Cucumber, Balsampear.
ชื่ออื่น---ขี้กาเครือ (ปัตตานี); ผักข้าว (ภาคเหนือ); พุคู้เด๊าะ (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน); ฟักข้าว (ภาคกลาง),; [THAI: Phak khao, fak khao, Khika khrua.];[ASSAMESE: Bhat kerala.];[CHINESE: Nuo fan guo, Lao shu la dong gua, Tu mu bie, Teng tong, Da ye mu bie zi, Fan mu bie.];[FRENCH: Margose à piquants.];[HINDI: Kakur, Kantola, Kakrol.];[INDONESIAN: Pupia, Teruah, Torobuk.];[ITALIAN: Cetriolino spinoso.];[JAPANESE: Mokube tsushi, nanban kikarasuuri];[KHMER: Makkao.];[LAOTIAN: Khaawz.];[NEPALESE: Jhuse karelaa.];[PHILIPPINES: Balbas-bakiro, Buyok-buyok (Tag.); Malakaban (C. Bis.); Tambalosan (P. Bis.); Sugod-sugod, Parog-parog-ti-noang (Ilk.).];[SINHALESE: Tumba karavila.];[SPANISH: Pepino amargo espinoso, Pepinillo del diablo, Cundeamor.];[VIETNAMESE: Gac.].
ชื่อวงศ์--- CUCURBITAECEAE
ถิ่นกำเนิด---ตั้งแต่ประเทศจีนตอนใต้ พม่า ไทย ลาว เขมร เวียดนาม มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และบังกลาเทศ
เขตกระจายพันธุ์ ---ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตั้งแต่ ทางใต้ ไปจนถึงตะวันออกเฉียงเหนือของ ออสเตรเลีย
นิรุกติศาสตร์---ชื่อสกุลมาจากภาษาละติน “momordi” หรือ “mordeo” ขม หมายถึงพืชที่มีรสขม


พบในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตั้งแต่ ทางใต้ ไปจนถึงตะวันออกเฉียงเหนือของ ออสเตรเลีย ในธรรมชาติพบตามขอบป่าและริมถนนบนเนินเขาที่ระดับความสูง 400 - 1,100 เมตร
ฟักข้าวเป็นไม้เถาเลื้อย เช่น พืชตระกูลแตงทั่วไป แต่มีขนาดใหญ่ ชอบพันต้นไม้ใหญ่ และมีอายุยืนยาวได้ถึง 50 ปี เลื้อยได้ไกลถึง 20เมตรมีขนดกเล็กน้อยหรือเกือบเรียบ ใบรูปไข่กว้าง 8- 18 เซม.ปลายใบแหลมโคนใบรูปหัวใจ ก้านใบยาว 5- 15 ซม.ดอกเพศเมียมีก้านดอกยาว 2.5- 5ซม.กลีบดอกมีสีเหลืองอ่อนแกมรูปขอบขนานแกมรูปไข่มีแต้มสีเข้มขนาดใหญ่ที่โคน ผลไม้มีขนาดใหญ่รูปไข่ถึงกลม เส้นผ่านศูนย์กลาง 8- 12 ซม.สีเหลืองและมีหนามกระจัดกระจาย เมล็ดมีขนาดใหญ่แบนเป็นวงกลมฝังอยู่ในเนื้อสีส้มเหลือง
การใช้ประโยชน์--- ผลของฟักข้าวรวมถึงเนื้อเยื่อหุ้มเมล็ดที่มีสีแดงสดมีคุณค่าทางโภชนาสูงผลฟักข้าวประกอบด้วย สารเบตาแคโรทีนสูงมาก มากกว่าแครอทถึง 10 เท่า นอกจากนี้ผลของฟักข้าวยังอุดมไปด้วยสารไลโคปีน และกรดไขมันไม่อิ่มตัวสูง มีการสกัดเอาสารสำคัญเหล่านี้เพื่อใช้เป็นส่วนประกอบสำคัญในการทำเครื่องสำอางสำหรับใช้บนใบหน้า เพื่อชะลอความเหี่ยวย่นบนใบหน้า เนื่องจากสารสำคัญเหล่านี้มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระสูง
-ใช้เป็นอาหาร เนื้อสีแดงมันเยิ้มรอบเมล็ดพร้อมปรุงแต่งเพื่อให้ได้รสชาติและให้สีแดงแก่จานข้าว 'xoi gac' ซึ่งเสิร์ฟในงานรื่นเริงเช่นงานแต่งงานในเวียดนาม ผลไม้ - สุก และผลไม้อ่อนที่ยังไม่สุกสามารถนำมาต้มและกินเป็นผักยัดไส้ผัดหรือปรุงในแกง ใบอ่อนและยอดอ่อน - ลวกและเสิร์ฟพร้อมซอสพริกหรือเพิ่มในซุป
-ใช้เป็นยา สรรพคุณทางยา ฟักข้าวได้ถูกใช้เป็นองค์ประกอบของยามาแต่โบราณ ไม่ว่าจะเป็นยาพื้นบ้านในตำหรับยาจีนหรือยาไทย ใบฟักข้าว ใช้ปรุงเป็นยาเขียว ใช้ถอนพิษ ดับพิษทุกชนิด ตำพอกแก้ปวดหลัง เมล็ดฟักข้าว ใช้บำรุงปอด แก้ท่อน้ำดีอุดตัน และแก้วัณโรค รากฟักข้าว ใช้ต้มน้ำดื่มหรือตากแห้ง บดเป็นผงแล้วปั้นรับประทาน จะช่วยขับเสมหะ ดับพิษไข้หรือใช้รากแช่น้ำแก้ผมร่วงและรักษาเหา
ในเวียดนามเยื่อหุ้มเมล็ดใช้สำหรับบรรเทาอาการตาแห้งและเพื่อส่งเสริมการมองเห็นที่ดีต่อสุขภาพ ยังใช้ในการทำยาชูกำลังสำหรับเด็ก สตรีให้นมบุตรและสตรีมีครรภ์
-ใช้อื่นๆ รากผลิตฟองเมื่อผสมกับน้ำ ใช้เป็นสบู่สำหรับซักเสื้อผ้า ในอินโดจีนน้ำมันที่ได้จากเมล็ดถูกใช้เป็นเชื้อไฟ
ระยะออกดอก/ติดผล---กรกฎาคม-ตุลาคม--- ผลแก่--- มกราคม-กุมภาพันธ์
ขยายพันธุ์---เมล็ด


ฟักเขียว/ Benincasa hispida


ชื่อวิทยาศาสตร์--- Benincasa hispida Thunb.
ชื่อพ้อง ---Has 14 Synonyms
---Benincasa pruriens f. hispida (Thunb.) de Wilde & Duyfjes---(more)
ชื่อสามัญ---Chinese Watermelon, Wax gourd, White pumpkin, Ash gourd, Fuzzy melon, Hairy melon, Chinese Preserving Melon, Chinese squash, Chinese vegetable marrow.
ชื่ออื่น---มะฟักหอม (แม่ฮ่องสอน),ลุ่เค้ส่า, ดีหมือ(กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน); ฟักขี้หมู ฟักจิง มะฟักขม มะฟักหม่น มะฟักหม่นขม (ภาคเหนือ),ฟัก ฟักขาว ฟักเขียว ฟักเหลือง ฟักจีน แฟง ฟักแฟง ฟักหอม ฟักขม (ภาคกลาง), ขี้พร้า (ภาคใต้) ; [THAI: ma fak hom (Mae Hong Son); lu-khe-sa, di-mue (Karen-Mae Hong Son);  fak khi mu,  fak ching, ma fak khon, ma fak mon, ma fak mon khom (Northern); faeng, fak khiao, fak khao, fak chin (Central); khi phra (Peninsular); fak (General).];[ASSAMESE: Komora.];[BENGALI: Chalkumra,Kumra.];[CAMBODIA: Trâllaach.];[CHINESE: Dong gua, tung kua, pai kua, ti chih, shui chih.]; [FRENCH: Courge à la cire, Courge cireuse.]; [GERMAN: Wachsgurke.]; [HINDI: Pethakaddu, Petha.]; [INDONESIA: Kundur, bligo, kundo (Aceh).];[JAPANESE: Tôgan,Toga.]; [KANNADA: Boodu Gumbala.];[LAOS: Tônx.];[MALAYALAM: Elavan, Kumbalanga, Kumbalam.];[MALAYSIA: Kundor, Kundor china, Kundoe jawa.];[MARATHI: Kohla.];[NEPALI: Kubindo.]; [PHILIPPINES: Kondol (Tagalog); tibiayon (Bisaya); rodal (Bicol).];[SANSKRIT: Kushmanda.];  [SINGAPORE: Tang kua.]; [SPANISH: Calabaza blanca, Calabaza amarilla.]; [TAMIL: Neer Poosanikai.];[TELUGU: Boodida Gummadikaaya.];[VIETNAMESE: Bi dao, bi bee].
ชื่อวงศ์---CUCURBITACEAE
ถิ่นกำเนิด---เอเชียใต้ และ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เขตกระจายพันธุ์ --- แพร่กระจายอย่างกว้างขวางทั่วเอเชียรวมทั้ง ชวา และญี่ปุ่น


พืชล้มลุกจำพวกไม้เถา อายุสั้น ใบหยักเป็นเหลี่ยม แยกออกเป็น 5-11 แฉก ดอกสีเหลืองออกเดี่ยวๆตามข้อต้น ตามง่ามใบ ดอกเพศผู้ และดอกเพศเมียอยู่กันคนละดอก แต่อยู่บนต้นเดียวกันดอกบานเต็มที่กว้าง 6 – 12 ซม.ดอก เพศผู้มีลักษณะเป็นหลอดยาว 5–10 ซม. ปลายแยกเป็น 5 กลีบ กลีบเลี้ยง 5 กลีบ ดอกเพศเมียก้านดอกจะสั้นกว่าดอกเพศผู้ ปลายเป็น 3 แฉก มีรังไข่อยู่ภายในผลเป็นรูปกลมยาว เปลือก สีเขียวมีขนอ่อนเล็กน้อย เนื้อในจะมีสีขาว เนื้อแน่น ฉ่ำน้ำ ตรงกลาง มีเมล็ด
ข้อกำหนดสิ่งแวดล้อม---ปลูกได้ในดินร่วนปนทรายระบายนํ้าได้ดีเป็นผักที่มีอายุการปลูกสั้น ปลูกเพียง3ดือนก็สามารถเก็บผลผลิต ได้
การใช้ประโยชน์--- พืชนี้เป็นพืชผักที่มีความสำคัญในตลาดเอเชียเขตร้อนและร้อนชื้นสำหรับผลที่กินได้และมักจะใช้เป็นยาโดยเฉพาะในประเทศจีน
-ใช้กินได้ ผล-ดิบสุก,ผลอ่อน ใช้เป็นผักและผักดอง ใบอ่อนและดอกตูมนึ่งและกินเป็นผักหรือเพิ่มเป็นเครื่องปรุงรสให้ซุป เมล็ดสุกอุดมไปด้วยน้ำมันและโปรตีน
-ใช้เป็นยา มีสรรพคุณ ทางสมุนไพรใช้ เถาสด ซึ่งมีรสขมและเย็น ใช้รักษาอาการริดสีดวงทวารหลุด แก้ปอดอักเสบ มีไข้สูง เอาเถาตำเอาแต่น้ำหรือเอาต้มน้ำทาน ใช้จำนวนพอสมควร แต่ถ้าภายนอกก็ใช้ชะล้าง ใบ แก้โรคบิดท้องเสีย ร้อนในกระหายน้ำ มาลาเรีย ผึ้งต่อย แก้บวมอักเสบมีหนอง ให้ใช้ใบสดต้มหรือคั้นเอาแต่น้ำทาน ใบ แก้ฟกซํ้า แก้พิษผึ้งต่อย ช่วยรักษาบาดแผล แก้โรคบิด แก้ร้อนในกระหายน้ำ แก้บวมอักเสบมีหนอง ผล ขับปัสสาวะ ขับเสมหะ แก้ไอ แก้ธาตุพิการ แก้โลหิตเป็นพิษ บวมนํ้า เมล็ด ใช้ลดไข้ แก้ริดสีดวงทวาร แก้โรคทางเดินปัสสาวะ แก้ไต อักเสบ บำรุงผิว เป็นยาละลายเสมหะ ขับปัสสาวะ บำรุงปอด แก้บวมน้ำ ไอเสมหะ ลำไส้อักเสบ วัณโรค หนองใน ริดสีดวงทวาร แผลมีหนองตกสะเก็ด ใช้เมล็ดที่ตากแห้งแล้ว ล้างให้สะอาดก่อนใช้ประมาณ 9-30 กรัมบดเป็นผงหรือต้มกับน้ำทาน หรือใช้ทาและชะล้าง ราก ต้มดื่มแก้ไข้ แก้กระหายน้ำ ถอนพิษ เปลือก เป็นยาแก้บวม ขับปัสสาวะ แก้ท้องเสีย แผลบวมอักเสบ มีหนอง ในตำรายาจีนบอกว่า เปลือกชั้นนอกของฟักเขียวที่ตากแดดให้แห้ง แล้วนำมารวมกับเยื่อหุ้มถั่วแระ เต็งซัมฮวย (ดอกต้นกก) นํ้าตาลกรวด นำมาล้างรอให้สะเด็ดน้ำจนแห้งใส่ในหม้อดิน เติมน้ำพอประมาณ ต้มด้วยไฟแรง ประมาณ 1 ชั่วโมง กรองเอานํ้าแช่ดู้เย็นเก็บไว้จะเป็นยา ขับปัสสาวะ แก้บวม บำบัดอาการบวมน้ำ ขัดเบา แก้ร้อนใน คอแห้ง ในอายุรเวทใช้สำหรับอาการไอ, โรคลมชัก, โรคหอบหืด, แผลในกระเพาะอาหาร นอกจากนี้ยังเป็นส่วนผสมหลักใน "Kusumanda Lehyam" ใช้เป็นยาชูกำลังและสำหรับเงื่อนไขต่าง ๆ เช่นโรคลมชัก, ท้องผูก, ริดสีดวงทวาร, อาการอาหารไม่ย่อย, ซิฟิลิสและโรคเบาหวาน ในอินเดียใช้สำหรับรักษาแผลในกระเพาะอาหาร น้ำผลไม้ถูกบีบออกมาจากน้ำเต้าขูด ใช้น้ำปริมาณเท่ากันทุกวันในขณะท้องว่างโดยไม่ต้องกินอาหารเป็นเวลา 2 ถึง 3 ชั่วโมง น้ำผลไม้ใช้สำหรับคนบ้าคลั่ง ลมบ้าหมู
-ใช้อื่น ๆ ขี้ผึ้งที่เคลือบผลไม้ใช้ทำเทียน
ขยายพันธุ์---เมล็ด


ฟักทอง/Cucurbita moschata

ชื่อวิทยาศาสตร์ ---Cucurbita moschata Duchesne
ชื่อพ้อง ---Has 1 Synonyms
--- Cucurbita pepo moschata Lam
ชื่อสามัญ--- Pumpkin, Butternut Squash, Butternut pumpkin, winter crookneck squash
ชื่ออื่น--- เหลืองเคส่า, หมักคี้ส่า(กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน); หมากฟักเหลือง(เงี้ยว-แม่ฮ่องสอน); น้ำเต้า(ภาคใต้); ฟักเขียว,มะฟักแก้ว (ภาคเหนือ); ฟักทอง(ภาคกลาง); มะน้ำแก้ว (เลย); หมักอื้อ(เลย,ปราจีบุรี); [THAI: lueang-khe-sa, mak-khi-sa (Karen-Mae Hong Son);  mak-fak-lueang (Shan-Mae Hong Son); namtao (Peninsular); fak khiao, ma fak kaeo (Northern); fak thong (Central); ma nam kaeo (Loei); mak ue (Loei, Prachin Buri).];[ASSAMESE: Mitha-lao,Mishti-kumra,Ronga-lao.];[CHINESE: Zhong Guo, Nan-kua Tz’u, Nan Gua, Fan Gua.]; [FRENCH: Courge musquee, Citrouille, Pâtisson.]; [GERMAN: Bisam- Kuerbis, Moschuskürbis.];[HINDI: Halwa kaddu.]; [INDONESIA: Waluh (Java).];[ITALIAN: Zucca, Zucca moscata, Zucca torta.];[JAPANESE: Kabocha, Kikuza-kabocha.];[KOREA: Hobag.];[MALAYALAM: Mathanga.];[MALAYSIA: Labu Merah, Labu Parang, Ketola.];[PHILIPPINES: Kalabasa (Tagalog).];[PORTUGUESE: Abóbora menina, Abóbora para doce, Jerimum, Abóbora-rasteira.];[RUSSIAN: Tykva.];[SPANISH: Auyama, Ayote, Calabaza, Calabaza moscada, Calabaza Pellejo, Chicamita, lacayote, sequaloa, Zapallo.];[SWEDISH: Myskpumpa.];
ชื่อวงศ์--- CUCURBITACEAE
ถิ่นกำเนิด--- ทวีปอเมริกา
เขตกระจายพันธุ์---เอเชียเขตร้อน อเมริกาเหนือ อเมริกาใต้


ถิ่นกำเนิดไม่แน่ชัด เป็นพืชเพาะปลูกไม่พบในป่า ปลูกกันอย่างกว้างขวางในเขตอบอุ่นและเขตร้อนชื้น สามารถปลูกได้ในระดับความสูงถึง 2,400 เมตรในเขตร้อน
ไม้ เลื้อยล้มลุกอายุปีเดียว เลื้อยยาวได้ 3-10เมตร ใบเดี่ยวเรียงสลับขอบใบหยักเว้าเป็น5-7แฉก ผิวใบด้านล่างมีขนสีขาว ดอกเดี่ยวออกที่ซอกใบ แยกเพศอยู่ร่วมต้น กลีบดอกเชื่อมติดกันเป็นรูประฆังสีเหลืองเข้มหรือเหลืองแกมส้ม ผลสดรูปกลมแป้น เนื้อในสีเหลืองส้ม เมล็ดรูปไข่สีขาวหม่นหรือเหลืองอ่อน
ข้อกำหนดสิ่งแวดล้อม---ต้องใช้ดินที่อุดมไปด้วยความชื้นที่ระบายน้ำได้ดีและตำแหน่งที่อบอุ่นแดดจัดและมีที่กำบัง ต้องการ pH ในช่วง 5.5 ถึง 7.5 ซึ่งทนได้ 4.5 - 8.3
การใช้ประโยชน์--- ใช้เป็นอาหาร ใบและลำต้นอ่อน - สุกและใช้เป็น potherb หรือเพิ่มซุปสตูว์  ผลสุก เนื้อแห้งบดเป็นแป้งทำขนมปัง เมล็ด - ดิบหรือสุก อุดมไปด้วยน้ำมัน
-ใช้เป็นยา ตำรา ยาไทยใช้เมล็ดแก่ ขับพยาธิไส้เดือน โดยใช้ 60กรัมทุบให้แตกผสมนมหรือน้ำแบ่งกิน3ครั้งห่างกันทุก2ชั่วโมง แล้วกินน้ำมันละหุ่งหลังจากกินครั้งสุดท้ายแล้วครึ่งชั่วโมง (เมล็ดคั่วจะไม่มีฤทธิ์) และตำพอกดูดพิษหนามตำ รากบำรุงกำลัง สรรพคุณในตำรายาทั่วไป ลำต้นหรือเถา จืดเย็น ยอดอ่อนรับประทานเป็นอาหาร ผลรสหวานมันเย็น ใช้เป็นอาหาร สามารถเก็บไว้ได้นานเมื่อแก่จัด ใช้เป็นยาพอกแก้ฟกช้ำ แก้ปวดอักเสบ น้ำมันจากผลเป็นยาบำรุงประสาท เมล็ดรสมันเมา เนื้อเมล็ดสดเป็นยาขับพยาธิตัวตืด และพยาธิไส้เดือนได้อย่างปลอดภัย รากรสเย็น ต้มน้ำดื่มเป็นยาบำรุงกำลัง แก้ไอและถอนพิษของฝิ่น
ขยายพันธุ์---เมล็ด


มะขาม/Tamarindus indica


ชื่อวิทยาศาสตร์ ---Tamarindus indica Linn.
ชื่อพ้อง ---Has 6 synonyms
---Cavaraea elegans Speg.
---Tamarindus erythraeus Mattei
---Tamarindus occidentalis Gaertn.
---Tamarindus officinalis Hook.
---Tamarindus somalensis Mattei
---Tamarindus umbrosa Salisb.
ชื่อสามัญ---Tamarind, Sweet tamarind
ชื่ออื่น---มะขาม, มะขามหวาน (ทั่วไป) ; [THAI: Bakham somkham,Ma khaam, Ma kham wan(General).];[AFRIKAANS: Tamarinde.];[ARABIC: Aradeib, Ardeib, Tamar el hindi, Hhawmar, Humar, Sbar, Tamar hindi.];[ASSAMESE: Teteli.];[BENGALI: Ambli, Amli, Tentul, Tentuli.];[BURMESE: Ma gyi, Ma jee pen, Ma gyi thi.];[CHINESE: Suan dou, Suan mei, Suan jiao, Luo wang zi, Luo huang zi, Da ma lin.];[FRENCH: Tamar indien (Assam-India), Tamarin, Tamarinier, Tamarinier des Indes.];[GERMAN: Indische Dattel, Sauerdattel, Tamarinde, Tamarindenbaum.];[HINDI: Ambli, Amili.];[JAPANESE: Tamarindo]; [KHMER: 'âm'puul, Ampil (Cambodia), Ampil khui, Ampil tum, Khoua me.];[KOREAN: Ta ma rin du.];[LAOS: Khaam, Kok mak kham, Mak kham, Naam maak khaam.];[MALAYALAM: Amlam, Amlika, Madhurappuli, Puli];[MALAYSIA: Asam, Asam jawa, Asam kuning, Kemal (Java), Tambaring.];[MARATHI: Ambali, Chicha.];[NEPALESE: Amilii, Titrii.];[PHILIPPINES: Sampalok (Tag); Salamagi (Ilk.); Sambalagi (Bik.); Sambag (P. Bis.).]; [PORTUGUESE: Tamarindo (Brazil), Tamarindeiro, Tambarina.];[SANSKRIT: Amla, Amli, Amlika, Chukra, Sarvamda, Tintiri, Tintiddii.];[SINHALESE: Siyambala, Siyambula.];[SPANISH: Tamaríndo, Tamaríndo de la India.];[SWAHILI: Mkwaju, Msisi, Ukwaju.];[SWEDISH: Tamarind.];[TAMIL: Ambilam, Amilam, Indam, புளி Puli.];[TELUGU: Amlika, Chinta, Chinta chettu, Chintapandu, Sinja, Sinta.];[VIETNAMESE: Cây me, Me, Me chua.].
ชื่อวงศ์---FABACEAE
ถิ่นกำเนิด---ทวีปแอฟริกา
เขตกระจายพันธุ์ --- แอฟริกาตะวันออก  มาดากัสการ์ เอเซีย และอินเดีย
สกุลTamarindusเป็น monotypic ซึ่งหมายความว่ามันมีเพียง1สายพันธุ์คือ Tamarindus indica
มีถิ่นกำเนิดในมาดากัสการ์ และกระจายไปยังภูมิภาคอื่นๆ มีการปลูกกันทั่วโลกในเขตร้อนและกึ่งเขตร้อน ที่ระดับความสูงไม่เกิน 1,500 เมตร
ไม้ต้นสูง20-25เมตร เปลือกของต้นสีน้ำตาล ส่วนใบเป็นใบประกอบแบบขนนก ยาว 6 - 10 ซม.ใบย่อย20-40ใบรูปขอบขนานเรีงกันค่อนข้างชิด ใบที่ร่วงอยู่ตามโคนต้นทำให้ดินบริเวณนั้นเป็นกรดอ่อนๆ  กลีบรองดอก สีเหลืองอ่อนมี4กลีบ กลีบดอกมี3กลีบและมีลายแดงบนพื้นเหลือง ผลที่เรียกว่าฝักยาว 6 - 15 ซม. กว้าง 2- 3 ซม. เมื่อแก่จะเปราะและแตกง่าย
การใช้ประโยชน์--- ใช้เป็นอาหารและยา ใบอ่อน - ดิบหรือปรุงสุก รสเปรี้ยว ฝักอ่อน หลากหลายวิธีการกิน กินสด หรือผสมกับเครื่องเทศ เนื้อมะขามสุก กินดิบ ใช้ทำเครื่องดื่ม ใส่ในแกงส้ม เมล็ดสุก - นำไปตากแห้งหรือต้มแล้วนำเปลือกออก บดเป็นแป้ง เมล็ดคั่วบด ใช้ชงดื่มแทนกาแฟ
-ใช้เป็นยาสรรพคุณทางสมุนไพรของมะขาม แก้ อาการเบื่ออาหารในฤดูร้อน อาการคลื่นไส้อาเจียนในหญิงมีครรภ์ แก้เด็กเป็นตานขโมย รักษาฝี ใช้เนื้อมะขามผสมปูนแดงทาบริเวณที่เป็นฝี ขับเลือด ขับลมแก้สันนิบาต ใช้เนื้อมะขามผสมเกลือและข่า แก้หวัดคัดจมูกในเด็ก ใช้ใบมะขามแก่ต้มรวมกับหอมหัวแดง2-3หัว โกรกศรีษะเด็กในเวลาเช้ามืด หรือต้มน้ำอาบหลังคลอดทำให้สดชื่น
ใช้เมล็ดแก่คั่วให้เกรียมกระเทาะเปลือกออก ใช้ประมาณ20-30เมล็ด นำมาแช่น้ำเกลือจนอ่อนนุ่ม กินแก้ท้องร่วงและอาเจียน
ใช้เปลือกผสมเกลือเผาในหม้อดินจนเป็นเถ้าขาวกินครั้งละ60-120มก.แก้เจ็บปากเจ็บคอ และใช้เถ้านี้ผสมน้ำบ้วนปาก
ใน อินเดียชาวชนบท ที่ใช้น้ำแร่จากธรรมชาติซึ่งให้ปริมาณฟลูออไรด์สูง ผลไม้มะขามจำนวนเล็กน้อยจะถูกเติมลงในหม้อน้ำข้ามคืนเพื่อใช้ในการดื่ม ( การแก้ไขความเป็นพิษของฟลูออไรด์) แพทย์ชาวฮินดูใช้ใบโขลกรักษาไฟลามทุ่ง
-ใช้อื่นๆ เนื้อผลไม้ ผสมกับเกลือ ใช้ในการขัดเงินทองแดงและทองเหลือง น้ำมันเมล็ดสีอำพัน - ซึ่งมีลักษณะคล้ายน้ำมันลินซีด - เหมาะสำหรับการทำสีและน้ำมันชักเงา ทั้งใบและเปลือกอุดมไปด้วยแทนนิน สามารถนำไปใช้ในหมึกหรือสำหรับการย้อมสี กระพี้เป็นสีเหลืองอ่อนแก่นไม้สีน้ำตาลอมม่วงเข้ม แข็งมากทนทานและแข็งแกร่ง ขัดเงาได้ดี ใช้ทำเครื่องมือการเกษตร ครก เขียง ไม้กระดานเรือ และเฟอร์นิเจอร์ ในทวีปอเมริกาเหนือมีการซื้อขายไม้มะขามภายใต้ชื่อ 'Madeira mahogany'
ระยะออกดอก---เมษายน---ตุลาคม
ขยายพันธุ์---เมล็ดปักชำ ตอนกิ่ง

มะขามแขก/Senna alexandrina Mill.

 

ชื่อวิทยาศาสตร์---Senna alexandrina Mill.
ชื่อพ้อง---Has 21 Synonyms

-Cassia acutifolia Delile -Cassia lanceolata Forssk.
-Cassia aethiopica Guibourt -Cassia lanceolata Wight & Arn.
-Cassia alexandrina (Mill.) Spreng. -Cassia lenitiva Bisch.
-Cassia angustifolia Vahl -Cassia ligustrinoides Schrank
-Cassia decipiens Desv. -Cassia medica Forssk.
-Cassia ehrenbergii Bisch. -Cassia medicinalis Bisch.
-Cassia elongata Lem.-Lis. -Cassia orientalis Pers.
-Cassia forsskalii Royle -Cassia ovata Mérat & Lens ex Geiger
-Cassia italica Lam. ex Steud. -Cassia senna L.
-Cassia lanceolata Collad. -Senna alexandrina Garsault
-Senna angustifolia (Vahl) Batka

ชื่อสามัญ---Alexandria senna, Alexandrian senna, Indian senna, Egyptian Senna, Tinnevelly Senna, East Indian Senna, Bombay Senna.
ชื่ออื่น---มะขามแขก(ภาคกลาง) ; [THAI: ma kham khaek (Central).];[ARABIC: Senna makki.];[CHINESE: Fan xia ye.];[FRENCH: Séné de la palthe, Séné d'Egypte, Casse.]; [GERMAN: Alexandrinische Senna.];[HINDI: Bhuikhakhasa, Hindisana.];[INDIA: Nilavarai, nelavakai.];[JAPANESE: Sen'na.];[MALAYALAM: Chunnamukkiyila, Sunnamukkiyila.];[MALAYSIA: Senna mekah.];[MYANMAR: Pwe-gaing, Thinbaw-mezali.]; [RUSSIAN: Afrikanskaya Senna, Kassiya Ostrolistnaya.];[SOMALI: Jalelo.];[SPANISH: Sen de España, Sena alejandrina.];[SWEDISH: Senna.].
ชื่อวงศ์--- FABACEAE (LEGUMINOSAE- CAESALPINIOIDEAE)
ถิ่นกำเนิด---ประเทศอียิปต์ ซูดาน อินเดีย โซมาเลีย
เขตกระจายพันธุ์---ทวีปแอฟริกา และเอเซียเขตร้อน
นิรุกติศาสตร์---ชื่อสกุลมาจากภาษาอารบิค “sana” ที่ใช้เรียกพืชที่ใบและฝักมีคุณสมบัติเป็นยาระบาย


เติบโตขึ้นตามธรรมชาติในอียิปต์ตอนบน ในภูมิภาคนูเบียและใกล้กับคาร์ทูม ( ซูดาน ) ซึ่งเป็นพื้นที่เพาะปลูกในเชิงพาณิชย์ นอกจากนี้ยังมีการเติบโตที่อื่น ๆ  โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศอินเดียและประเทศโซมาเลีย พบในพื้นที่กึ่งทะเลทรายและทุ่งหญ้า ก้นหุบเขาที่ราบน้ำท่วมถึงและบนฝั่งแม่น้ำ ตั้งแต่ระดับน้ำทะเลจนถึงระดับความสูง 1,300 เมตร
เป็นไม้พุ่ม สูงประมาณ 0.5-1.5 เมตร ใบประกอบแบบขนนก 4-6คู่เรียงสลับ ใบย่อยเป็นรูปวงรีและใบรูปหอก ขอบใบเรียบ ปลายและโคนใบแหลม โคนใบทั้งสองมีขนาดไม่สมมาตร และมีขนนุ่มปกคลุม ใบกว้างประมาณ 1-1.5 ซ.ม.ยาว 2.5-5 ซ.ม.ดอกออกเป็นช่อตามซอกใบใกล้ปลายกิ่ง กลีบดอกมีสีเหลือง ผลเป็นฝักแบน รูปขอบขนาน ฝักอ่อนมีสีเขียว ฝักแก่สีน้ำตาล ดำ
การใช้ประโยชน์---
-ใช้เป็นยา มะขามแขกเป็นหนึ่งในยาระบายที่ใช้กันมากที่สุดในโลกโดยมีประวัติการใช้มายาวนานนับพันปี และยังคงใช้รักษาทั้งในยาแผนโบราณและยาสามัญ ที่สำคัญ มีสรรพคุณที่โดดเด่นในเรื่องของการใช้เป็นยาถ่าย เหมาะสำหรับผู้สูงอายุ ผู้ที่มีกำลังน้อย เด็ก คนที่เป็นริดสีดวง หรือผู้ที่มีปัญหาท้องผูกอยู่บ่อย ๆ ใช้ใบและฝักมะขามแขกปรุงเป็นยาถ่าย ยาระบายได้ดี และช่วยแก้อาการท้องผูก งานวิจัยทางการแพทย์จำนวนมากได้รับการเผยแพร่เกี่ยวกับความเสี่ยงต่อสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้พืชชนิดนี้เป็นยาระบาย ไม่พบผลการก่อมะเร็งของการใช้เป็นเวลานาน แต่ถึงกระนั้นก็ควรใช้กับอาการท้องผูกเป็นครั้งคราวเนื่องจากการใช้เป็นเวลานานสามารถนำไปสู่อาการลำไส้ใหญ่เรื้อรัง ulcerative
รู้จักอันตราย---การใช้ยา มีข้อห้ามในกรณีที่ลำไส้อุดตันและลำไส้อักเสบเฉียบพลัน ไม่ควรใช้กับเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีและสำหรับหญิงตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร หรือในหญิงมีประจำเดือน ห้ามรับประทานมะขามแขก การใช้ เพื่อลดน้ำหนักเป็นสิ่งที่อันตราย
ระยะออกดอกติดผล--ตลอดปี
ขยายพันธุ์---เมล็ด


มะเขือขื่น/Solanum aculeatissimum

ชื่อวิทยาศาสตร์---Solanum aculeatissimum Jacq.
ชื่อพ้อง---Has 11 Synonyms

-Solanum angustispinosum De Wild. -Solanum angustispinosum De Wild.
-Solanum campechiense Banks ex Aiton -Solanum campechiense Banks ex Aiton
-Solanum cavaleriei H.Lév. & Vaniot -Solanum cavaleriei H.Lév. & Vaniot
-Solanum horridissimum Sendtn. -Solanum horridissimum Sendtn.
-Solanum horridum Salisb. -Solanum horridum Salisb.
-Solanum macinae A.Chev.

ชื่อสามัญ---Yellow berried nightshade, Cockroach berry, Indian Love Apple, Soda Apple, Devils Apple, Dutch eggplant
ชื่ออื่น--- มะเขือเปราะ,  มะเขือเสวย (ภาคกลาง), มะเขือแจ้, มะเขือจาน, มะเขือแจ้ดิน (เหนือ), เขือพา, เขือหิน (ใต้), มะเขือหืน (ภาคอีสาน); มะเขือเปราะเจ้าพระยา, มะเขือเปราะลายคางกบ(ทั่วไป); มะเขือคางกบ, มะเขือคำ(ภาคเหนือ) ; [THAI: ma khuea pro, ma khuea sawoei,  ma khuea khuen (Central); ma khuea pro chao phra ya, ma khuea pro lai khang kop (General); ma khuea chae,  ma khuea chae din (Northern); khuea phao,  khuea hin (Peninsular); ma khuea khang kop,  ma khuea kham (Northern); mang-khi-ke (Karen-Mae Hong Son).];[ASSAMESE: Bon-bengena,Kotahi-bengena.];[AYURVEDA: Brihati.];[CHINESE: Ka xi qie, Kā xī jiā.];[JAPANESE: kinginnasubii, nishikiharinasubi.];[MALAYALAM: Kandakarichunda ,Kandankathiri.];[MALAYSIA: Terong belanda, Terong perak, Terong pokok, Terong puyoh, Terong rapok, Terong tenang.];[PORTUGUESE: Arrebenta-boi, Arrebenta-cavalo , Gogoia,  Joá-vermelho, Jua-arrebenta-cavalo, Jua-vermelho,  Jurubeba, Melancia-vermelha da praia.];[SPANISH: Mata cucaracha.].
ชื่อวงศ์---SOLANACEAE
ถิ่นกำเนิด--- ทวีปอเมริกา
เขตกระจายพันธุ์---ประเทศในเอเซียเขตร้อน และแอฟริกา
นิรุกติศาสตร์---ชื่อสายพันธุ์ aculeatissimum หมายถึง เต็มไปด้วยหนามมาก


อาจมีถิ่นกำเนิดในบราซิล  แพร่หลายในเอเชียเขตร้อนและแอฟริกา ตามคูน้ำ ริมถนน ดินแดนรกร้าง ทุ่งหญ้าหนาทึบ ป่าเปิดที่ระดับความสูงถึง 600-2,300 เมตร
ไม้พุ่มสูงประมาณ0.60-1.20เมตร ใบเดี่ยว เรียงตัวแบบสลับ แผ่นใบมีหลายรูปร่าง แผ่นใบรูปไข่ ปลายใบแหลมหรือมน โคนใบเป็นรูปหัวใจ ฐานใบทั้งสองด้านจะเยื้องกันเล็กน้อย ส่วนขอบใบหยักเว้าเป็นพูตื้น ๆ ประมาณ 5-7 พู มีขนาดกว้างประมาณ 4-12 ซม. และยาวประมาณ 4.5-18 ซม. หลังใบเป็นสีเขียว ส่วนท้องใบเรียบเป็นมัน แผ่นใบมีขนรูปดาวทั้งสองด้าน มีหนามแหลมตามเส้นกลางใบ ก้านใบอ้วนสั้น ยาวได้ประมาณ 3-7ซม.และอาจพบหนามตามก้านใบ ออกดอกเป็นช่อสั้นแบบช่อกระจะ มีดอกย่อยประมาณ 4-6 ดอก ดอกสีม่วงหรือสีขาว ผลกลมแบนหรือรูปไข่ อาจมีสีขาว เขียว เหลือง ม่วง ขึ้นอยู่กับพันธุ์ ผลเมื่อแก่มีสีเหลืองขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 2-3 ซม. เนื้อในผลสีเขียวเป็นเมือก มีรสขื่น เมล็ดมีลักษณะเป็นรูปกลมแบนขนาดเล็กสีน้ำตาลอ่อน มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 2-2.8 มม.
ใช้ประโยชน์---พืชนี้มีการใช้เป็นอาหารและยาในท้องถิ่นหลากหลาย
-ใช้กิน ผลกินเป็นผักจิมน้ำพริก
-ใช้เป็นยา สรรพคุณ ลดการบีบตัวของกล้ามเนื้อเรียบ ต้านมะเร็ง บำรุงหัวใจ ลดความดันเลือด บรรเทาอาการของโรคเบาหวานเนื่องจากมะเขือเปราะมีสรรพคุณคล้ายกับอินซูลิน ลดปริมาณน้ำตาลในเลือด  ช่วยขับพยาธิ ลดการอักเสบช่วยให้ระบบย่อยและระบบขับถ่ายทำงานดี
-ใช้อื่นๆ ผลไม้หั่นบาง ๆ ใช้เป็นเหยื่อล่อแมลงสาบ สารสกัดจากเอทานอลของใบแสดงให้เห็นว่าสามารถยับยั้งการงอกของสปอร์ของเชื้อราโรคกะหล่ำปลีจุดด่างดำ สารสกัดจากใบและผลไม้แสดงให้เห็นว่ามีการขับไล่ แต่ไม่ใช่ผลของยาฆ่าแมลงในเพลี้ยกะหล่ำปลี
ระยะออกดอก/ติดผล---มีนาคม-สิงหาคม/พฤศจิกายน-ธันวาคม
ขยายพันธุ์---เมล็ด


มะเขือเทศ/Lycopersicon esculentum


ชื่อวิทยาศาสตร์Lycopersicon esculentum Mill.
ชื่อพ้อง---Has 3 synonyms
---Lycopersicon lycopersicum (L.) H. Karst.
---Solanum pomiferum Cav.
---Solanum lycopersicum L.
ชื่อสามัญTomato, Beefsteak tomato, cherry tomato, Italian tomato, Gold-apple, Love-apple.
ชื่ออื่นมะเขือส้ม, มะเขือเครือ มะเขือน้อย, ตรอบ,ตีรอบ, น้ำนอ, [THAI: makhua-thet (general), makhua-som (northern).];[AFRIKAANS: Tamatie.];[ARABIC: Tamatim (Egypt).]; [CAMBODIA: peeng pâh.];[CHINA: fan qie.];[CZECH: Tomatový.][FRENCH : Tomate, Tomates.];[GERMAN : Liebesäpfel, Paradeiser.];[HINDI: Tamaatar.];[INDONESIA: tomat.];[LAOS: khüa sômz];[MALAYSIA: Terung masam, Tomato, Tomat (Indonesia).];[NEPALESE: Golbhedaa, Raamabhendaa.];[PAPUA NEW GUINEA: tamato.]; [PHILIPPINES: kamatis (Tagalog)];[PORTUGUESE: Tomate, Tomateiro.];[RUSSIAN: Pomidor.];[SPANISH: Jitomate (Mexico).[;[VIETNAM: Cà chua, Cà tômách.];[ZULU: Utamatisi.].
ชื่อวงศ์---SOLANACEAE
ถิ่นกำเนิด---ทวีปอเมริก
เขตกระจายพันธุ์---ทั่วโลก


พืชพื้นเมืองอเมริกากลางและอเมริกาใต้ มีถิ่นกำเนิดในแถบเทือกเขาแอนดีส ตั้งแต่เอกวาดอร์ตอนกลางไปจนถึงชิลีตอนเหนือผ่านเปรู มะเขือเทศที่ปลูกเข้าสู่ยุโรป จากยุโรปมีการนำมะเขือเทศมาใช้ในเอเชียใต้และเอเชียตะวันออก ต่อมาในสหรัฐอเมริกาแอฟริกาและตะวันออกกลาง และทั่วโลก
พืช ล้มลุกอายุปีเดียว ลำต้นตั้งตรงเป็นพุ่มหรือนอนราบ มีขนอ่อน ๆ ปกคลุมสูง2-(.4)เมตร ใบประกอบ15-50 ซม. × 10-30 ซม ออกสลับกัน ก้านใบยาว 3-6 ซม.  ใบย่อยมีขนาดไม่เท่ากันโดยทั่วไปจะมีขนาดใหญ่ 7-9 ใบแต่ละใบรูปไข่จะมีรูปขอบขนานยาว 5-10 ซม. รูปร่างมีทั้งกลม กลมแบน หรือกลมรี ผิวนอกเรียบเป็นมัน ผลมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 2-15 ซม.ดิบมีสีเขียว หรือเขียวอมเทา เมื่อสุกสีเหลือง สีส้ม หรือสีแดง เนื้อภายในฉ่ำด้วยน้ำมีรสเปรี้ยว เมล็ดรูปไข่แบน 3-5 มม. × 2-4 มม.มีเป็นจำนวนมาก มะเขือเทศมีหลายพันธุ์ เช่น พันธุ์สีดา พันธุ์โรมาเรดเพียร์ เป็นต้น
การใช้ประโยชน์--- ใช้กิน ผลของมะเขือเทศ กินดิบในสลัดหรือปรุงในซอส ใช้เพื่อให้รสชาติกับซุป ทำขนมผลไม้แห้งและไวน์   ผลิตภัณฑ์แปรรูปเช่น  น้ำผลไม้, ซอสมะเขือเทศ, มะเขือเทศบรรจุกระป๋องทั้งหมดหรือเป็นชิ้น ๆ ซึ่งมี ความสำคัญทางเศรษฐกิจ
-ใช้เป็นยา มะเขือ เทศมีสรรพคุณทางยาค่อนข้างสูง เพราะมะเขือเทศมี วิตามินพี (citrin) ซึ่งจะช่วยป้องกันการแข็งตัวของหลอดเลือด มีฤทธิ์ขับปัสสาวะสามารถแก้อาการความดันโลหิตสูง มีวิตามินเอสามารถรักษาโรคตาได้ ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือมีวิตามินซีมากทำให้สามารถป้องกันและรักษา โรคลักปิดลักเปิด ช่วยระบบการย่อยและช่วยการขับถ่ายได้ดี มะเขือเทศมีสารที่สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อรา ดังนั้นจึงใช้เป็นยารักษาโรคที่เกี่ยวกับปากที่เกิดจากเชื้อราได้ยัง มีสารแอนตี้ออกซิแดนท์ คือ ไลโคปีน ที่มีคุณสมบัติสามารถลดการเกิดมะเร็งลำไส้ และมะเร็งต่อมลูกหมากได้ หากทานมะเขือเทศ 10 ครั้ง/สัปดาห์ จะช่วยลดอัตราการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมากในเพศชายได้ถึง 45% นอกจากนี้มะเขือเทศยังมีบีตา-แคโรทีน และฟอสฟอรัสมาก ที่มะเขือเทศมีรสชาติอร่อยนั้น เพราะมีกรดอะมิโนที่ชื่อกลูตามิคสูง กรดอะมิโนนี้เองเป็นตัวเพิ่มรสชาติให้อาหาร ทั้งยังเป็นกรดอะมิโนตัวเดียวกับที่อยู่ในผงชูรสด้วย ยัง รวมถึงเป็นสมุนไพรเพื่อสุขภาพและความงามรักษาสิว สมานผิวหน้าให้เต่งตึง โดยใช้น้ำมะเขือเทศพอกหน้า หรืออาจจะนำมะเขือเทศสุกฝานบาง ๆ แปะบนใบหน้า จะช่วยให้ผิวหน้าอ่อนนุ่มไม่แห้งกร้าน ระบบการหมุนเวียนเลือดดีขึ้น และยังสามารถต้านมะเร็งได้
-ใช้อื่น ๆ ใช้มะเขือเทศหมักผมจะช่วยป้องกันการเปลี่ยนไปของสีผม อันเนื่องมาจากการว่ายน้ำในสระที่มีคลอรีน -มะเขือเทศนำมาใช้ขัดเครื่องประดับเงินให้เงางามเหมือนเดิม
ขยายพันธุ์---เมล็ด


มะเขือพวง/Solanum torvum


ชื่อวิทยาศาสตร์---Solanum Torvum Sw.
ชื่อพ้อง---Has 6 synonyms
---Solanum acanthifolium Par. ex Dunal
---Solanum ficifolium Ortega
---Solanum largiflorum C.T.White
---Solanum mannii C.H.Wright
---Solanum mayanum Lundell
---Solanum stramonifolium Jacq.
ชื่อสามัญ---Turkey berry, Prickly nightshade, Shoo-shoo bush, Wild eggplant, Pea eggplant, Pea aubergine, Devil’s fig, Prickly Solanum, Terongan, Wild tomato.
ชื่ออื่น---มะเขือละคร , มะแว้งช้าง , มะแคว้งกุลา , หมากแข้ง , เขือน้อย, เขือพวง, เขือเทศ, ลูกแว้ง;[THAI: Ma khuea phuang, Ma kae, Makhua phuong, Ma khwaeng.];[ASSAMESE: Bhi-tita,Hati bhekuri,Bhit tita.];[BENGALI:Tita Bagoon.];[CHINESE: Dian qie zi,Shui qie,Ci qie,Qing qie,Shan dian qie.];[FRENCH: belangere batarde];[FIJI: Katai; kausoni];[GERMAN: Teufels-Nachtschatten.];[HINDI: Bhankatiya,Bhurat.];[ITALIAN: Morella della Giamaica.];[JAPANESE: Suzume nasubi.];[KANNADA: Sundekkayi.];[LAOTIAN: Kh'èèngz f'aaz, Kh'èèngz saph'au.];[MALAYALAM: Chunda, Parachunda, Cheriyamodumutticka.];[MALAYSIA: Terong rembang, Terong pipit (Sumatra), Pokak (Java), Takokak (Indonesia).];[MARATHI: Marang.];[PHILIPPINES: Tandang aso, Takapasin (Tagalog).];[PORTUGUESE: Jurubeba (Brazil).];[SANSKRIT: Brihati.];[SINGAPORE: shu qie zi; terong pipit];[SPANISH: Belangera cimarrona, Terongan.];[TAMIL: Sundaikkai,Soondai.];[TELUGU: Kottuvastu.];[VIETNAM: Cà dai hoa trang, Cà hoang, Cà nong.];
ชื่อวงศ์--- SOLANACEAE
ถิ่นกำเนิด---ทวีปอเมริกา
เขตกระจายพันธุ์---เกือบทั่วเขตร้อน ตั้งแต่รัฐฟลอริดา หมู่เกาะเวสต์ อินดีส์ เม็กซิโก จนถึงอเมริกากลางและทวีปอเมริกาใต้แถบประเทศบราซิล
ถิ่นกำเนิด เบลีซ, บราซิล, โคลัมเบีย, คอสตาริก้า, เอกวาดอร์, เฟรนช์เกียนา, กัวเตมาลา, กายอานา, ฮอนดูรัส, เม็กซิโก, นิการากัว, ปานามา, เวเนซุเอลาและแคริบเบียน เติบโตในที่อยู่อาศัยหลากหลายในเขตร้อนและกึ่งเขตร้อน ที่ระดับความสูงถึง2,000เมตร
ทรงพุ่มสูง 1- 2 เมตรขึ้นไป ลำต้นตั้งตรงมีขนนุ่มขึ้นปกคลุม มีหนามเล็กๆ3-7มม. ใบรูปรีมีหยักเว้า ดอกออกตามง่ามใบเป็นกระจุก มะเขือพวงมีผลขนาดเล็ก และมีผลออกรวมกันเป็นกลุ่มหลาย ๆ ผล อยู่บนช่อเดียวกันจึงได้ชื่อว่า มะเขือพวง ดอกมีขนาดเล็กกลีบดอก5กลีบสีขาวหรือม่วง เกสรสีเหลืองผลกลมขนาดเล็ก เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1-1.5ซม. ก้านผลยาวอยู่รวมกันเป็นช่อกลม ผลอ่อนมีเปลือกสีเขียวหนาเหนียว ผลแก่เปลี่ยนเป็นสีเหลือง เมื่อสุกสีส้มภายในผลมีเมล็ดขนาด1.5-2มม.มีมากมายแทบจะไม่มีเนื้อในผลเลย
ข้อกำหนดสิ่งแวดล้อม---ประสบความสำเร็จในอาทิตย์เต็มและในที่ร่ม เจริญเติบโตได้ดีในดินที่อุดมสมบูรณ์ชุ่มชื้นและมีเนื้อดี ชอบ pH ในช่วง 5 - 6 ทนได้ 4.3 - 6.8 พืชสามารถทนต่อความแห้งแล้งได้
การใช้ประโยชน์--- วัชพืชที่พบได้ทั่วไปในเขตร้อนพืชมักถูกรวบรวมจากป่าเพื่อใช้ในท้องถิ่นเป็นอาหารและยา มันกำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเป็นอาหารและได้รับการปลูกเลี้ยงเป็นพืชสวนในบ้านโดยได้รับความนิยมเป็นพิเศษในประเทศไทย
-ใช้เป็นอาหาร ผลกินดิบในเอเชียซึ่งมีการปรุงและเสิร์ฟพร้อมกับข้าวหรือเติมลงในสตูว์ซุป แกง และอื่น ๆ
-ใช้เป็นยา มักใช้ในยาแผนโบราณ คุณสมบัติ ที่เด่นชัดของมะเขือพวงคือการเสริมสร้างระบบภูมิคุมกันลำไส้เพื่อตอบสนองต่อ สารพิษที่เข้ามาในระบบทางเดินอาหาร มีฤทธิ์ต้านออกซิเดชั่นช่วยป้องกันความเสื่อมและแก่ก่อนวัย มีฤทธิ์่ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในโรคเบาหวาน สรรพคุณทางสมุนไพร ใบสดตำคั้น นำไปพอกหัวฝีที่มีหนองช่วยดูดหนองออก ผลดิบของมะเขือพวงใช้เป็นยาแก้ไอ ขับปัสสาวะ และช่วยย่อยอาหาร รับประทานเป็นประจำป้องกันเบาหวาน รากฝนแทรกขี้ผึ้ง ทารอยแผลแตกที่เท้า และตาปลา
-ใช้อื่นๆ ใช้เป็นต้นตอของมะเขือเทศ ซึ่งบ่งบอกถึงความต้านทานต่อโรคเหี่ยวจากแบคทีเรียและไส้เดือนฝอย
ขยายพันธุ์---เมล็ด


มะเขือยาว/Solonum melongena

ชื่อวิทยาศาสตร---Solonum melongena Linn.
ชื่อพ้อง---Has 39 Synonyms
---Solanum esculentum Dunal    
---Solanum insanum L.    
---Solanum melongena var. depressum L.    
---Solanum melongena var. esculentum (Dunal) Nees    
---Solanum melongena var. serpentinum L.---(more)
ชื่อสามัญ---Eggplant, Potato Tree, Aubergine
ชื่ออื่น--- มะเขือม่วง ,มะเขือยาว ; [THAI: Makhua, Ma khuea yao, Makhua chan, Ma khuea khao.];[AFRIKAANS: Eiervrug.];[ARABIC: Badinjan.];[AYURVEDA: Bhantaki, Bhantaa, Vaartaaka, Vaartaaku, Vaartaakini, Vrintaaka..];[BENGALI: Begun.];[BURMESE: Kayan.];[CHINESE: Qie, Qie zi, Ai gua / ngai gwa (Cantonese name).];[CZECH: Lilek, Lilek baklažán.]; [FRENCH: Aubergine, Bringelle, Mélongène.];[GERMAN: Eierfrucht, Eierpflanz.];[HINDI: Baigan.]; [JAPANESE: Daimaru nasu, Daimaru nasu, Nasu.];[KHMER: Trâb vèèng, Trâb put lonhoong.];[LAOTIAN: Khüa ham maaz, Khüa hlèèz, Khüa poom.];[MALAY: Terong, Terung (Indonesia), Encung (Indonesia), Tiung (Sumatra).];[MALAYALAM: Vazhudhanaikkai, Vazhuthananga.];[MARATHI: Vangi.];[PHILIPPINES: Talong (Bik., Tag., Bis., Bon.); Tarong (Ilk.); Tolung (Sul.).];[RUSSIAN: Baklazhan.];[SANSKRIT: Bhantaki , Nattingan, Vatinganah, Varttaka.];[SIDDHA/TAMIL: Kathirikai.];[SPANISH: Berenjena, Albergínia];[SWAHILI: Mbilingani, Mbiringanya.];[SWEDISH: Äggplanta.];[TAMIL: Kathiri , Kathirikai, ]Kattiri.];[TELUGU: Vankaya.];[UNANI: Baingan.];[VIETNAMESE: Cà tim, Cà bat, Cà tin.].  
ชื่อวงศ์ --- SOLONACEAE
ถิ่นกำเนิด --- ภูมิภาคอินโดจีน
เขตกระจายพันธุ์ ---อนุทวีปอินเดีย เอเซียตะวันออกเฉียงใต้ แอฟริกาใต้
นิรุกติศาสตร์---ชื่อสายพันธุ์มาจากละติน ' melongena' มีรากฐานมาจากชื่อภาษาอิตาลี 'melanzane' ซึ่งมาจาก 'mela insane' หมายถึง 'mad apple'
แหล่งกำเนิดในประเทศจีน อินเดียและพม่า ได้รับการปลูก เป็นพืชผักที่นั่นและกระจายในอนุทวีปอินเดียและทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ในที่สุดก็แพร่หลายไปทั่วโลก
ไม้พุ่มขนาดเล็กอายุประมาณ 1-2 ปี ลำต้นมีขนอ่อนๆปกคลุม ใบ เป็นใบเดี่ยว ออกเรียงสลับกัน ขนาด 3-25 x 2-15 ซม.มีลักษณะทรงเรียวรี ใบใหญ่ยาว ปลายใบแหลม ขอบใบเป็นรอยหยัก ใบมีสีเขียว มีขนอ่อนๆปกคลุมทั่วใบ ก้านใบยาว 6-10 ซม.ดอกออกเป็นดอกเดี่ยว มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 3-4 ซม.ดอกมีลักษณะรูปกรวย กลีบดอกมีสีม่วง มีเกสรสีเหลือง มีกลีบเลี้ยงสีเขียว ก้านช่อดอกจะยาว ดอกออกบริเวณซอกใบ ข้อกิ่งและปลายยอด ผลทรงกลมเรียวยาว ยาว 2-35 ซมและกว้าง 2-20 ซม. ผิวบางเรียบเป็นมัน ผลมีสีเขียวอ่อน สีม่วง หรือสีขาว ตามสายพันธุ์ เนื้อนุ่มฉ่ำน้ำ มีรสชาติหวานขื่น มีเมล็ดกลมแบนเล็กๆ ขนาด 3 x 4 มม. อยู่ข้างในเนื้อ มีกลิ่นเฉพาะตัว
การใช้ประโยชน์--- ใช้กิน นิยมปรุงเป็นอาหาร กินเป็นประจำจะช่วยให้เส้นเลือดไม่เปราะ ป้องกันโรคความดันโลหิตสูง
-ใช้เป็นยา ประโยชน์ทางสมุนไพร ผล ช่วยรักษาหลอดเลือด และหัวใจให้เป็นปกติ ป้องกันเส้นเลือดความดันโลหิต เสริมการทำงานของสมอง ช่วยความจำ ลดอาการอ่อนเปลี้ยของสมอง ลดอาการบวม ถอนพิษไข้ แก้ปวด แก้ตกเลือดในลำไส้ เป็นยาแก้บิดเรื้อรัง บิดอุจจาระเป็นเลือดดอกสดหรือดอกแห้ง เผาไฟให้เป็นเถ้า นำมาบดเป็นผงใช้อุดรูฟันที่ปวด แก้ปวดฟัน ฟันผุ ผลสดตำให้ละเอียดพอกบริเวณที่เป็นแผลอักเสบที่มีหนอง หรือโรคผิวหนังเรื้อรัง ผื่นคัน
ขยายพันธุ์---เมล็ด


มะรุม/Moringa oleifera


ชื่อวิทยาศาสตร์ ---Moringa oleiferaLam
ชื่อพ้อง---Has 14 Synonyms 

-Guilandina moringa L. -Moringa erecta Salisb.
-Anoma moringa (L.) Lour. -Moringa nux-eben Desf.
-Hyperanthera decandra Willd. -Moringa octogona Stokes
-Hyperanthera moringa (L.) Vahl -Moringa polygona DC.
-Moringa amara Durin -Moringa robusta Bojer
-Moringa domestica Buch.-Ham. -Moringa sylvestris Buch.-Ham.
-Moringa edulis Medik.- Moringa zeylanica Pers.






ชื่อสามัญ---Moringa Tree, West Indian ben ,Ben-oil-tree, Benzolive-tree, Drumstick tree, Horse-radish-tree.
ชื่ออื่น--- ผักอีฮุม, ผักอีฮึม (อีสาน), มะค้อมก้อน(เหนือ) ; [THAI: makhonkom,ma-rum,phakihum];[ARABIC:  Rawag; Ruwag.];[BRAZIL: Quiabo-da-quina.];[CAMBODIA: Mrum'.];[CHINESE: Nugge, La mu.];[FRENCH: Ben oléifère, Ben ailée, Moringa ailée, Pois quénique.]; [GERMAN: Pferderettichßaum, Meerrettichßaum.];[INDONESIA: Kelor, Daem mrom; Kalor; Marunga.];[JAPANESE: Wasabinoki.];[LAOS: Sino-Tibetan; 'ii h'um.]; [MALAYSIA: Gemunggai; Meringgai; Muringa; Merunggai.];[MYANMAR: Dandalonbin; Dan-da-lun, Sort-htmaine (Mon).];[NEPALI: Shobhanjan,sohijan.];[PALAU: Malungkai.];[PHILIPPINES: Malunggay (Tagalog).];[SANSKRIT: Shobhanjana.];[SENEGAL: Ben alle; Neverdaya.];[SPANISH: Moringa, Marango, Resedá, Arbol de rábano, Arbol de los espárragos.];[SWAHILI:  mlonge.];[TAMIL: Murunga,murangai.];[VIETNAMESE: chùm ngây.];[ZIMBABWE: Zakalanda.].
ชื่อวงศ์ ---MORINGACEAE
ถิ่นกำเนิด---ทวีปเอเชีย - ประเทศอินเดีย ศรีลังกา
เขตกระจายพันธุ์--- เอเชียไมเนอร์และแอฟริกา
นิรุกติศาสตร์---ชื่อสกุล Moringa มาจากคำภาษาทมิฬ murungai (murungai ความหมาย "ฝักบิด"); ชื่อสปีชีส์ฉายาของoleifera หมายถึง "ด้วยน้ำมัน"

 

มีถิ่นกำเนิดในประเทศอินเดีย, ศรีลังกา , อารเบีย, และอาจเป็นแอฟริกาและอินเดียตะวันออก  มีการเพาะปลูกอย่างแพร่หลายในแอฟริกาเขตร้อน อเมริกาเขตร้อน เม็กซิโก มาลาบา มาเลเซียและหมู่เกาะฟิลิปปินส์
ไม้ยืนต้นผลัดใบสูงประมาณ 10 เมตร กิ่งก้านและลำต้นเปราะมีเปลือกไม้ก๊อก ใบประกอบแบบขนนก ยาว30-60ซม.มีใบย่อยจำนวนมากยาว1.3-2 ซม. กว้าง 0.6–0.3 ซม.  ดอกมีกลิ่นหอมสีขาวหรือครีมสีขาวเส้นผ่านศูนย์กลาง 2.5 ซม ฝักอ่อนสีเขียวรูปสามเหลี่ยม ยาว 30–120 ซม กว้าง1.8 ซม..ฝักแก่สีน้ำตาลแตกตามยาวเมื่อแห้ง มีเมล็ดประมาณ 20 เมล็ด สีน้ำตาลเข้มมีปีก
การใช้ประโยชน์---มะรุมใช้เป็นอาหารและยา  โดยมีอารยธรรมก่อนหน้านี้นานกว่า 4,000 ปี
-ใช้เป็นยา ใช้เพื่อช่วยบรรเทาโรคโลหิตจาง โรคข้ออักเสบ ปวดข้อและท้องผูก ที่เรียกได้ว่าเป็นยาวิเศษ แก้ได้ สารพัดโรค กล่าวกันไว้ว่า มะรุมเป็นพืชที่สามารถรักษาทุกโรค ไม่ว่าจะเป็นความดันโลหิตสูง  โรคลำไส้อักเสบ โรคปอดอักเสบ ฆ่าจุลินทรีย์หรือยาปฎิชีวนะ และแต่ละส่วนของต้นมะรุมยังมีคุณสมบัติเฉพาะที่สามารถเป็นยาได้ เช่น ราก มีรสเผ็ด หวาน ขม แก้อาการบวมบำรุงธาตุไฟ เปลือกต้นรสเผ็ดร้อน รับประทานเป็นยาขับลมในลำไส้ ทำให้ผายเรอ คุมธาตุอ่อนๆ ตัดต้นลมดีมาก กระพี้แก้ไข้สันนิบาตเพื่อลม ใบแก้เลือดออกตามไรฟัน แก้อักเสบ ใบสดมีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อนๆ มีโปรตีนสูงกว่านมสด2เท่า แร่ธาตุและสารต้านอนุมูลอิสระสูงมาก ดอกบำรุงร่างกายขับปัสสาวะ ใช้ต้มทำน้ำชาดื่มช่วยให้หลับสบาย ฝักรสหวานแก้ไข้หรือลดไข้ เนื้อในมะรุมช่วยแก้ไอได้ดี รับประทานประจำช่วยเพิ่มภูมิต้านทานให้ร่างกายได้ ใช้รักษาโรคขาดอาหารในเด็กแรกเกิดถึง10ขวบ และลดสถิติการเสียชีวิต พิการและตาบอดได้เป็นอย่างดี ใช้รักษาโรคเบาหวานที่อยู่ในภาวะควบคุม ช่วยเพิ่มและเสริมภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย ทานผลิตผลจากมะรุมระหว่างตั้งครรภ์ เด็กที่เกิดมาจะไม่ติดเชื้อ HIV และช่วยรักษาผู้ป่วยโรคเอดส์ให้อยู่ในภาวะควบคุมได้
-อื่นๆ กากของเมล็ดมะรุมที่เหลือจากการทำน้ำมัน สามารถนำมาใช้ในการกรองหรือทำน้ำให้บริสุทธิ์เป็นน้ำดื่มได้ กากของเมล็ดมีคุณสมบัติเป็นยาฆ่าเชื้อประสิทธิภาพสูงเป็นอย่างยิ่ง และยังสามารถนำมาทำเป็นปุ๋ยต่อได้ด้วย ปัจจุบันผลิตภัณฑ์สุขภาพหลายชนิดใช้ใบมะรุมเป็นส่วนผสมหลักเนื่องจากมีสารอาหารในปริมาณที่เข้มข้น ผลิตภัณฑ์เหล่านี้รวมถึงผงมะรุมน้ำเชื่อมใบและอาหารเสริมมะรุม
ระยะออกดอกติดผล---ตลอดปี
ขยายพันธุ์---เมล็ด ตอนกิ่ง ปักชำ    


มะอึก/Solanum stramonifolium

ชื่อวิทยาศาสตร์--- Solanum stramonifolium Jacq.
ชื่อพ้อง--- Solanum ferox Linn.
ชื่อสามัญ--- Solanum, Bolo Maka, Hairy-fruited pea-eggplant, Red-fruited nightshade.
ชื่ออื่น---มะเขือปู่, มะปู่,มะเขือขน, หมากขน, หมากอึก, บักอึก, อึกอพวง, [THAI: Ma-uk (General), mapu (Northern), yangkhuidi (Karen).];[BRUNEI: Tarong pasai.];[FRENCH: Fausse tomate-pois du Venezuela.];[INDONESIA: Terong asam, cung bulu (South Sumatra), terong perat (Madura).];[LAOS: Khüa khôn, khüa puux.];[MALAYSIA: Terong iban, terong asam, terong dayak.];[MYANMAR: Sinkade, tarabi.];[PHILIPPINES: Tabanburo (Tagalog), bal­-balusangi (Ilocano),tagatum (Bisaya).];[SPANISH: coconilla,tupirillo];[VENEZUELA:Tupirito sin espinas.];[VIETNAM:C[af] bung.].
ชื่อวงศ์---SOLANACEAE
ถิ่นกำเนิด---ทวีปอเมริกา
เขตกระจายพันธุ์---ประเทศในเขตกึ่งร้อนทั่วโลก


เกิดขึ้นทางตอนเหนือของบราซิล, เปรู, เอกวาดอร์, โคลัมเบีย, เวเนซุเอลา, กีอานา และ ประเทศในเขตกึ่งร้อนทั่วโลก ระหว่างป่าและสะวันนา เปิดป่าตามริมฝั่งแม่น้ำ มักจะเป็นวัชพืช รอบที่อยู่อาศัยของมนุษย์  ที่ระดับความสูง 0- 600 เมตร
ไม้ พุ่ม ลำต้นตั้งตรง สูง1-2เมตร ทุกส่วนมีขนละเอียด สีน้ำตาลอ่อน ใบเดี่ยวเรียงสลับ รูปไข่กว้าง ขอบใบหยักเว้าเป็นพู ผิวใบมีขนสองด้าน ดอกช่อออกเป็นกระจุกที่ซอกใบ กลีบดอกสีขาว ผลสดรูปทรงกลมขนาด1.2-2.4ซม. เมล็ดสีเหลืองแกมน้ำตาลมี เมล็ดจำนวนมาก
การใช้ประโยชน์--- พืชที่เก็บเกี่ยวจากป่าเพื่อใช้ในท้องถิ่นเป็นอาหารบางครั้งมีการเพาะปลูกในโคลัมเบียและเปรูสำหรับผลไม้ที่กินได้
-ใช้เป็นยา มีสรรพคุณทางสมุนไพร ราก และผล แก้ไข้สันนิบาต  บำรุงถุงน้ำดี แก้ถุงน้ำดีอักเสบ ขับเสมหะ กัดฟอกเสมหะ  ดับพิษร้อนภายใน ระงับปวด กระทุ้งพิษไข้หัวทุกชนิด รักษาแผล แก้เสมหะ แก้ไอ เมล็ด แก้ปวดฟัน ใบ รักษาโรคฝี เป็นยาพอก ใช้ภายนอก ตำพอก หรือต้มน้ำชะล้างแผล ตำรายาไทยใช้ละลายเสมหะ แก้ไอ รากกระทุ้งพิษไข้หัวทุกชนิด(อาการออกตุ่มออกผื่นตามผิวหนังเช่นหัด อีสุกอีใส
ขยายพันธุ์---เมล็ด


ม้ากระทืบโรง/Ficus sarmentosa


ชื่อวิทยาศาสตร์---Neuropeltis racemosa Wall.
ชื่อพ้อง---Has 3 synonyms
---Erycibe integripetala Merr. & Chun    
---Neuropeltis integripetala (Merr. & Chun) C.Y. Wu    
---Sinomerrillia bracteata Hu
ชื่อสามัญ--- None
ชื่ออื่น ---พญานอนหลับ,นอนหลับ,มาดพล้ายโรง, มันฤาษี ;  [THAI: Mat plai rong, Ma thalai rong, Sae ma thalai]; [CHINESE: dun bao teng, dun bao teng shu];
ชื่อวงศ์ --- CONVOLVULACEAE
ถิ่นกำเนิด---ทวีปเอเซีย
เขตกระจายพันธุ์---จีนตอนใต้-ไหหนาน พม่า ไทย เวียดนาม คาบสมุทรมลายู และสุมาตรา
มีถิ่นกำเนิดในมณฑลยูนนาน (สิบสองปันนา) มณฑลกวางตุ้ง (ไหหลำ) กระจายไปยัง  พม่า  ไทย เวียดนาม ทางตะวันตกเฉียงเหนือของคาบสมุทรมลายู กาลิมันตัน อินโดนีเซีย (สุมาตรา ชวา) เกิดขึ้นตามหุบเขาและพุ่มไม้หนาแน่น ที่ระดับความสูงจากระดับน้ำทะเล 400-1,100 เมตร
ไม้พุ่มรอเลื้อย เป็น เถาขนาดใหญ่มีเนื้อไม้ แข็ง สูงได้ถึง 25 เมตร เปลือกมีสีน้ำตาลและสาก มีปุ่มขึ้นคล้าย ๆ หนาม เนื้อไม้สีขาวและมีน้ำยางสีขาว  กิ่งอ่อนมีขนนุ่มสีน้ำตาล ใบเดี่ยวรูปไข่หรือรูปขอบขนานยาว 6-12 ซม. กว้าง 3-6.5 ซม.ปลายยอดแหลมสั้นฐานใบกว้างเรียงสลับ2ด้าน ก้านใบยาว 1-1.5 ซม  ช่อดอกออกที่ซอกใบ 1 หรือ 2 หรือ 4 กลุ่ม ยาว 3-6 ซม กลีบดอกย่อยเชื่อมติดกันรูประฆัง ผลแห้ง รูปค่อนข้างกลม ใบประดับเจริญขึ้นเป็นรูปวงรีกว้าง หรือรูปโล่ยาว (3) -4-4.5 (-5) ซม. แห้งแล้วแตก เมล็ดกลมเรียบเส้นผ่านศูนย์กลาง 5-6 มม.
การใช้ประโยชน์---  ใช้เป็นยา จากการวิจัยพบว่า ลำต้นของม้าทะลายโรง มีปริมาณสารประกอบ ฟินอลิกสูง ซึ่งให้ฤทธิ์ในการยับยั้งอ็อกซิเดชั่นได้ดี มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระได้สูงถึง100% ตำรายาไทยใช้ เนื้อไม้ดองเหล้า กินบำรุงกำลัง บำรุงกำหนัด และขับน้ำย่อย หรือต้มน้ำดื่ม แก้ปวดหลังปวดเอว บำรุงกำลัง บำรุงโลหิต
ระยะออกดอก/ติดผล---มิถุนายน-ธันวาคม และขยายผลไปจนถึงเดือนเมษายนของปีถัดไป
ขยายพันธุ์---เมล็ด ตอนกิ่ง ปักชำ


ม้าทลายโรง/Neuropeltis racemosa

 

ชื่อวิทยาศาสตร์---Neuropeltis racemosa Wall.
ชื่อพ้อง---Has 3 synonyms
---Erycibe integripetala Merr. & Chun    
---Neuropeltis integripetala (Merr. & Chun) C.Y. Wu    
---Sinomerrillia bracteata Hu
ชื่อสามัญ--- None
ชื่ออื่น ---พญานอนหลับ,นอนหลับ,มาดพล้ายโรง, มันฤาษี ;  [THAI: Mat plai rong, Ma thalai rong, Sae ma thalai]; [CHINESE: dun bao teng, dun bao teng shu];
ชื่อวงศ์ --- CONVOLVULACEAE
ถิ่นกำเนิด---ทวีปเอเซีย
เขตกระจายพันธุ์---จีนตอนใต้-ไหหนาน พม่า ไทย เวียดนาม คาบสมุทรมลายู และสุมาตรา
มีถิ่นกำเนิดในมณฑลยูนนาน (สิบสองปันนา) มณฑลกวางตุ้ง (ไหหลำ) กระจายไปยัง  พม่า  ไทย เวียดนาม ทางตะวันตกเฉียงเหนือของคาบสมุทรมลายู กาลิมันตัน อินโดนีเซีย (สุมาตรา ชวา) เกิดขึ้นตามหุบเขาและพุ่มไม้หนาแน่น ที่ระดับความสูงจากระดับน้ำทะเล 400-1,100 เมตร
ไม้พุ่มรอเลื้อย เป็น เถาขนาดใหญ่มีเนื้อไม้ แข็ง สูงได้ถึง 25 เมตร เปลือกมีสีน้ำตาลและสาก มีปุ่มขึ้นคล้าย ๆ หนาม เนื้อไม้สีขาวและมีน้ำยางสีขาว  กิ่งอ่อนมีขนนุ่มสีน้ำตาล ใบเดี่ยวรูปไข่หรือรูปขอบขนานยาว 6-12 ซม. กว้าง 3-6.5 ซม.ปลายยอดแหลมสั้นฐานใบกว้างเรียงสลับ2ด้าน ก้านใบยาว 1-1.5 ซม  ช่อดอกออกที่ซอกใบ 1 หรือ 2 หรือ 4 กลุ่ม ยาว 3-6 ซม กลีบดอกย่อยเชื่อมติดกันรูประฆัง ผลแห้ง รูปค่อนข้างกลม ใบประดับเจริญขึ้นเป็นรูปวงรีกว้าง หรือรูปโล่ยาว (3) -4-4.5 (-5) ซม. แห้งแล้วแตก เมล็ดกลมเรียบเส้นผ่านศูนย์กลาง 5-6 มม.
การใช้ประโยชน์---  ใช้เป็นยา จากการวิจัยพบว่า ลำต้นของม้าทะลายโรง มีปริมาณสารประกอบ ฟินอลิกสูง ซึ่งให้ฤทธิ์ในการยับยั้งอ็อกซิเดชั่นได้ดี มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระได้สูงถึง100% ตำรายาไทยใช้ เนื้อไม้ดองเหล้า กินบำรุงกำลัง บำรุงกำหนัด และขับน้ำย่อย หรือต้มน้ำดื่ม แก้ปวดหลังปวดเอว บำรุงกำลัง บำรุงโลหิต
ระยะออกดอก/ติดผล---มิถุนายน-ธันวาคม และขยายผลไปจนถึงเดือนเมษายนของปีถัดไป
ขยายพันธุ์---เมล็ด ตอนกิ่ง ปักชำ


มันเทศ/Ipomoea batatas


ชื่อวิทยาศาสตร์---Ipomoea batatas ( L.) Lam
ชื่อพ้อง---Has 4 Synonyms
---basionym: Batatas batatas (L.) H.Karst.
---Convolvulus batatas L.
---Convolvulus esculentus Salisb.
---Ipomoea chrysorrhiza Hook.f.
ชื่อสามัญ--- Sweet Potato
ชื่ออื่น---มันแกว , ยอดมันแกว , ยอดมันเทศ , มันหลา , ยอดมันหลอง , มันแกว, มันแก๋วแดง, หมักอ้อย, [THAI: man-thet];[ASSAMESE: Goria alu,Mitha Alu.];[BENGALI: Sakarakhanda.];[CAMBODIA: dâmlông chvië]; [CHINESE:fan shu, gan shu, hong shu];[FRENCH: batate, patate douce];[HAWII: Uala, uwala ];[HINDI: Mitha alu, Sakarkand, Shakar kanda.];[INDONESIA: huwi boled; ketela rambat; ubi jalar];[JAPANESE: Satsuma imo, Ryuukyuu imo, Kara imo, Kan sho.];[KOREAN: Ko gu ma.];[LAOS: man kèw];[MALAYSIA: ubi keladi];[MYANMAR: myonk-ni];[PAPUA NEW GUINEA: kaema; kaukau];[PHILIPPINES: kamote(Tagalog)];[PORTUGUESE: Batata-da-terra, Batata-Doce,];[SANSKRIT:  Pindalu, Sthulakanda, Raktalu.];[SPANISH: batata; boniato; camote];[SWEDISH: Batat.];[TAMIL: Sarkaraivallikizangu.];[TELUGU:  Kanda Gadda, Genusu Gadda.];[VIETNAM: khoai lang];
ชื่อวงศ์--- CONVOLVULACEAE
ถิ่นกำเนิด--- เขตร้อนของทวีปอเมริกา
เขตกระจายพันธุ์---ประเทศในเขตร้อน กึ่งเขตร้อน และเขตมรสุม
มีต้นกำเนิดมาจากคาบสมุทรยูคาตาน ในเม็กซิโกและปากแม่น้ำโอรีโนโกในเวเนซุเอลา สายพันธุ์นี้มีอายุถึง 8,000 ปีถูกค้นพบในเปรู หลังจากนั้นพืชได้แพร่กระจายไปยังแคริบเบียนและโพลินีเซีย ตอนนี้ได้รับการปลูกอย่างกว้างขวาง ในหลายประเทศในเขตร้อนและกึ่งเขตร้อน กลายเป็นพืชอาหารที่สำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศอินเดีย, จีน, หมู่เกาะฟิลิปปินส์และหมู่เกาะแคริเบียน
มันเทศจัดเป็นพวกพืชไร่เป็นพืชเลื้อยราบไปตามพื้นดินมีรากสะสมอาหาร เป็นหัวอยู่ใต้ดิน มีชนิดเนื้อสีเหลืองกับสีขาวครีม ทั้งสองชนิดมี เบต้า แคโรทีน สูงอาจช่วยป้องกันมะเร็งบางชนิดได้ อีกทั้งยังมี ใยอาหาร วิตามินซี แคลเซียมและโปแตสเซียมปริมาณมาก เป็นแหล่งวิตามิน B6 ซึ่งเชื่อว่าบรรเทาอาการก่อนมีประจำเดือน และช่วยให้ร่างกายผลิตพลังงานจากอาหารได้มากแต่จะปล่อยพลังงานออกมาช้า ส่วนใยอาหารทำให้อิ่มท้อง จึงมีส่วนสำคัญในการใช้มันเทศในการลดน้ำหนัก
มีประโยชน์หลากหลายเป็นอาหารแสนอร่อย มีคุณค่าทางโภชนาการสูง นอกจากนี้ยังเป็นพืชสมุนไพรที่มีคุณค่าซึ่งมีฤทธิ์ต้านมะเร็งเบาหวานและต้านการอักเสบ ปัจจุบันนี้มันเทศถือว่าเป็นแหล่งที่มีคุณค่า ของผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติที่มีเอกลักษณ์  ซึ่งมีคุณค่าทางโภชนาการเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ  รวมถึงบางอย่างที่สามารถนำมาใช้ในการพัฒนายารักษาโรคต่างๆ
ขยายพันธุ์---ปักชำ


มันฝรั่ง/Solanum tuberosum

ชื่อวิทยาศาสตร์---Solanum tuberosum L
ชื่อพ้อง---Has Has 360 Synonyms
---Solanum andigenum Juz. & Bukasov
---Solanum apurimacense Vargas
---Solanum aquinas Bukasov
---Solanum chiloense Berthault
---Solanum chilotanum Hawkes
---Solanum cultum Berthault
---Solanum diemii Brücher---more
ชื่อสามัญ---Potato, Irish potato, White potato, Common Potato
ชื่ออื่น ---มันอาลู, มันอีลู, [THAI: man-alu; man-farang];[CAMBODIA: Dâmlông barang.];[CHINESE: Ma ling shu; yang shu.];[CZECH: Brambor.];[FRENCH: Pomme de terre.];[GERMAN: Kartoffel.];[HAITI: Parmentiére; Pomme té; Prome té.];[INDONESIA: Kentang.];[ITALY: Patata; pomo di terra.];[LAOS: Man fàlangx.];[MALAYSIA: ubi kentang; ubi kenteng.];[MYANMAR: ah-lu; ahr-lu; ar-loo.];[NETHERLANDS: Aardappel.];[PHILIPPINES: Papas; Patatas.];[RUSSIA: Kartofel'.];[SPANISH: Papa, turma.];[TURKEY: Patates.];[UKRAINE: Kartoplya.];[VIETNAM: Khoai taay.];
ชื่อวงศ์---SOLANACEAE
ถิ่นกำเนิด---ทวีปอเมริกา
เขตกระจายพันธุ์---อเมริกาใต้-อาร์เจนติน่า, เม็กซิโก, ชิลี, เวเนซูเอล่า, เปรู, โบลิเวีย
นิรุกติศาสตร์---ชื่อสปีชีส์ tuberosum หมายถึง การใช้ทั่วโลกของ tuber เป็นอาหาร
มีถิ่นกำเนิดในอเมริกากลางและอเมริกาใต้ แต่ตอนนี้ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางนอกเหนือจากถิ่นกำเนิดในภูมิภาคเขตร้อนพิเศษและได้รับการพิจารณาว่าเป็นวัชพืชในหลายสถานที่เช่น ออสเตรเลี ยอินโดนีเซีย ไมโครนีเซีย อินเดียและตุรกี  ( Randall, 2012 ) และได้รับการจดทะเบียนในรายการ "สายพันธุ์บุกรุกที่เลวร้ายที่สุดในดินแดนพันธมิตรของ American Lands Alliance ( Randall, 2012 ) ถูกพิจารณาว่าเป็นวัชพืชทางการเกษตรในสวนและพื้นที่เพาะปลูกในส่วนของหมู่เกาะแปซิฟิก เนื่องจากความสำคัญระดับโลกของสปีชีส์ ในฐานะพืชอาหารหลัก ทั้งในอุตสาหกรรมการค้าระหว่างประเทศและในระดับท้องถิ่น ความระมัดระวังเป็นสิ่งสำคัญเมื่อทำการเพาะพันธุ์เพื่อลดการหลบหนีจากการเพาะปลูกเข้าไปในป่า มีผลกระทบด้านลบต่อสิ่งแวดล้อมหากได้รับโอกาสที่จะเป็นวัชพืช
มันฝรั่งเป็นพืชล้มลุก หัวมันฝรั่งเกิดจากส่วนของลำต้น ทำหน้าที่สะสมอาหาร และขยายพันธุ์  มันฝรั่งจะมีไหลที่เกิดจากตาของลำต้นที่อยู่ใต้ดิน ถ้าปลายไหลอยู่ใต้ดินก็จะเกิดเป็นหัวแต่ถ้าอยู่พ้นดินก็จะเกิดเป็นต้น ลักษณะหัวของมันฝรั่งจะมีตั้งแต่รูปร่างกลมถึงกลมรี และรูปร่างยาว มีผิวสีขาว เหลือง ส้มแดง หรือสีม่วงแล้วแต่สายพันธุ์
ลำต้นจะตั้งตรงสูง50-100 ซม.มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางไม่เกิน 1.5 ซม.  ใบประกอบ ขนาด10-30 ซม. x 5-15 ซม.  เรียงสลับ 3-4คู่ขนาดไม่เท่ากัน ใบย่อยทั้งหมดมีขนาดเล็ก มีขนหนาแน่น สีเขียวเข้ม ก้านช่อดอกยาว 5-15 ซม. แตกแขนงออกไป ก้านดอกยาวสูงสุด 3.5 ซม. ดอก สีขาว ขาวอมชมพู หรือสีม่วง ตรงกลางดอก สีเหลืองแกมเขียว กลีบเลี้ยง เส้นผ่านศูนย์กลาง 1.5-2 ซม. ผล สีเหลืองอมเขียว มีเนื้อขนาด เส้นผ่านศูนย์กลาง 2ซม.มีหลายเมล็ด เมล็ดแบนรูปไข่ ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 1-3 มม. สีเหลือง-น้ำตาลอ่อน
การใช้ประโยชน์--- เป็นอาหารและยา -ใช้เป็นอาหาร หัวของมันฝรั่งใช้สำหรับการบริโภคของมนุษย์ทั่วโลกโดยตรง เป็นแหล่งอุดมไปด้วยโปรตีนวิตามินซีและแป้ง ความสามารถในการเก็บรักษาที่ค่อนข้างดีของหัวดิบนอกเหนือจาก การแปรรูปเป็นหัวอบแห้ง แช่แข็งและบรรจุกระป๋อ งหลายรูปแบบส่งผลให้เกิดอุปทานที่เหมาะสมโดยไม่ขึ้นกับฤดูกาล วิธีการปรุงอาหารที่เรียบง่ายนี้ช่วยส่งเสริมความสำคัญของมันฝรั่งในฐานะพืชเศรษฐกิจสำคัญของโลก
-ใช้เป็นยา มันฝรั่ง มีรสหวาน ช่วยย่อยมีคุณสมบัติทางเป็นสมุนไพรคือ รักษาโรคคางทูม โดยใช้มันฝรั่ง 1 ลูก ฝนกับน้ำส้มสายชู ทาบริเวณที่เป็น แห้งแล้วทาซ้ำจนหายรักษาไฟไหม้น้ำร้อนลวกโดย ใช้น้ำคั้นจากมันฝรั่งทาบริเวณแผลบ่อยๆ หรือตำให้ละเอียดพอก แล้วเปลี่ยนหลายๆครั้ง
-อื่น ๆ มันฝรั่งดัดแปรพันธุกรรมได้รับการออกแบบมาเพื่อสร้างการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันต่อการติดเชื้อEscherichia coliในมนุษย์และมีศักยภาพเป็นกลยุทธ์ใหม่สำหรับการพัฒนาวัคซีนที่ปลอดภัยและราคาไม่แพงต่อโรคต่างๆ เช่นโรคบาดทะยัก คอตีบและไวรัสตับอักเสบบี เพื่อปรับปรุงสายพันธุ์เพื่อการเกษตร ในฐานะสมาชิกของSolanum สกุลS. tuberosum ยังได้รับการศึกษาเพื่อผลิตอัลคาลอยด์ที่อาจเป็นยา
รู้จักอันตราย--- หัวพืชที่มีพิษ พืชที่กลายเป็นสีเขียวมีพิษเนื่องจากสีเขียวแสดงว่าหัวพืชเหล่านี้ผลิตอัลคาลอยด์
ขยายพันธุ์---หัวใต้ดิน, ผ่าหัว

มันแกว/Pachyrhizus erosus

ชื่อวิทยาศาสตร์ ---Pachyrhizus erosus(L.) Urb.
ชื่อพ้อง---Has 19 Synonyms

-Cacara erosa (L.) Kuntze -Pachyrhizus erosus var. palmatilobus (DC.) R.T.Clausen
-Cacara palmatiloba (DC.) Kuntze -Pachyrhizus jicamas Blanco
-Dolichos articulatus Lam. -Pachyrhizus palmatilobus (DC.) Benth. & Hook.f. ex Hemsl.
-Dolichos bulbosus L. -Pachyrhizus strigosus R.T.Clausen
-Dolichos erosus L. -Pachyrhizus trilobus DC.
-Dolichos mammosus Noronha -Phaseolus tuberosus Lour.
-Dolichos palmatilobus DC. -Robynsia macrophylla M.Martens & Galeotti
-Pachyrhizus angulatus Rich. ex DC. -Stizolobium bulbosum Spreng.
-Pachyrhizus articulatus Duchass. ex Walp. -Stizolobium domingense Spreng.
-Taeniocarpum articulatum Desv.

ชื่อสามัญ---Yam bean, Jicama, Mexican yam bean,  Mexican turnip, Mexican-potato
ชื่ออื่น---หมากบ้ง (เพชรบูรณ์), เครือเขาขน ถั่วกินหัว ถั่วหัว ถั้วบ้ง ละแวก มันละแวก มันแกวละแวก มันลาว มันแกวลาว (ภาคเหนือ), มันเพา มันเภา (ภาคอีสาน), มันแกว (ภาคกลาง), หัวแปะกัวะ (ภาคใต้) ; [THAI: huapaekua; man-kaeo; man-lao];[ASSAMESE: Sakalu.];[BURMESE: Pre myit.];[CHINESE: Sha ge, Dou shu, Liang shu, Tu gua, Bai tu gua, Fan ge.];[CAMBODIA: pe' kuëk];[FRENCH: Dolique bulbeuse, Pois patate, Pois manioc.];[GERMAN: Yambohne, Yamsbohne, Knollige Bohne.];[HINDI: Mishrikand.];[INDONESIA: bangkowang; bengkuang; besusu.];[ITALY: Fagiolo patata]; [LAOS: man ph'au];[JAPANESE: Mame imo.];[LAOTIAN: Man ph'au.];[MALAYSIA: mengkuwang; sengkuwang.];[NEPALESE: Keshaura.];[PHILIPPINES: kamias; sinkamas.];[PORTUGUESE: Jacatupé, Jacutupé, Jocotupé.];[SPANISH: Judia batata.]; [SUNDANESE : Bangkowang (Bangkooang).];[TAGALOG : Sinkamas, Singkamas, Iguama.];[TAMIL:Tani uttan kai.];[VIETNAM: cur daaju; sawsn].
ชื่อวงศ์---FABACEAE (LEGUMINOSAE-PAPILIONOIDEAE)
ถิ่นกำเนิด---ทวีปอเมริกา
เขตกระจายพันธุ์---อเมริกากลาง แอฟริกาตะวันออก ประเทศในแถบเอเชีย-จีน อินโดจีน ฟิลิปปินส์ อินเดีย อินโดนีเซีย มาเลเซีย
มันแกว เป็นพืชพื้นเมืองของประเทศเม็กซิโก และประเทศในแถบอเมริกากลาง จัดเป็นพืชตระกูลถั่วชนิดหนึ่ง  ต้นมีขนเป็นเถาเลื้อย ยาวได้ถึง 5.5เมตร ไม่แตกแขนง หัวอวบ มีขนาดใหญ่ เป็นส่วนของรากแก้วที่เราใช้รับประทาน โคนต้นแข็ง ใบเป็นใบประกอบแบบขนนกประกอบด้วยใบย่อย3 ใบ ขอบใบจัก ดอกสีชมพูหรือขาว ฝักแก่เรียบมี 8-10 เมล็ด  เมล็ดแบนมีสีน้ำตาลหรือแดง ต้นมันแกว 1 ต้นมีเพียงหัวเดียว หัวอาจเป็นหัวรียบๆ หรือเป็นพู ส่วนที่อยู่ใต้ดินมีอายุข้ามปี แต่ส่วนบนดิน คือ ต้นใบมีอายุปีเดียว
การใช้ประโยชน์--- ใช้เป็นอาหาร หัวกิน ดิบ-สุก ฝักอ่อนเมล็ดอ่อน - สุก ใช้กินเป็นผัก (ใช้ความร้อนอย่างทั่วถึงเพื่อทำลาพิษ)) นอกจากนี้ยังมีการใช้เป็นยาท้องถิ่นหลากหลายชนิดและสามารถใช้เป็นยาฆ่าแมลงได้ บางครั้งมันก็ใช้ทำเป็นปุ๋ยพืชสด
-ใช้เป็นยา มันแกวประกอบด้วยน้ำเป็นส่วนใหญ่ประมาณ90% นอกนั้นเป็นแป้งและน้ำตาล มันแกวไม่มีเส้นใยอาหาร ความหวานของมันแกวนั้นมาจาก Oligofructose inulin ซึ่งในร่างกายมนุษย์ไม่สามารถเผาผลาญได้ มันแกวจึงเหมาะสำหรับผู้เป็นเบาหวานและ ควบคุมน้ำหนัก สรรพคุณของมันแกว ใช้เป็นยารักษาโรคผิวหนัง ยาต้มของรากใช้เป็นยาขับปัสสาวะและในการรักษาไข้และตกเลือด เมล็ดเป็นยาระบาย ทิงเจอร์ที่ทำจากเมล็ดใช้ในการรักษาโรคเริม เมล็ด ต้านเชื้อรา ต้านเชื้อแบคทีเรีย
-ใช้อื่น ๆ   ใช้ต้นและ เมล็ดแก่ของมันแกวป่นหรือบดใช้เป็นยาฆ่าแมลงหรือใช้เป็นยาเบื่อปลา
รู้จักอันตราย--- ฝักแก่ ใบแก่และเมล็ดแก่ เป็นพิษต่อการบริโภคของคนและสัตว์ มีสารกลูโคไซด์ที่เป็นพิษ กลูโคไซด์นี้เป็นพิษต่อสัตว์เลือดเย็นมากกว่าสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม
ขยายพันธุ์---เมล็ด, หัวใต้ดิน, ปักชำ


 แมงลัก/Ocimum × africanum


ชื่อวิทยาศาสตร์ ---Ocimum × africanum Lour.
ชื่อพ้อง---Has 4 Synonyms
---Ocimum × citriodorum Vis.
---Ocimum × graveolens A.Br.
---Ocimum × petitianum A.Rich.
---Ocimum × pilosum Willd.
ชื่อสามัญ--- Lemon basil, Hoary basil, Hairy basil, Thai lemon basil, Lao basil
ชื่ออื่น--- ก้อมก้อข้าว (ภาคเหนือ), มังลัก อีตู่ (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) ; [THAI: kom kor khao (Northern); mang luck, i tu (North Easthern); [CHINESE: Shu rou mao bian zhong.];[INDIA: Tukhmariya, Sabjache Bee (Marathi)];[INDONESIA: Daun kemangi.];[KOREA: Lemonbajil.];[SWEDISH: Citronbasilika.].
ชื่อวงศ์---LAMIACEAE
ถิ่นกำเนิด---แอฟริกา เอเซีย
เขตกระจายพันธุ์ --- แอฟริกา เปอร์เซีย จีน ไต้หวัน อินเดีย อินโดจีน มาเลย์เซีย
นิรุกติศาสตร์---ชือ่สายพันธุ์ africanum = แอฟริกัน
แมงลัก ( Ocimum × africanum ) เป็นลูกผสมระหว่างโหระพา ( Ocimum basilicum ) และโหระพาอเมริกัน ( Ocimum americanum ) เผยแพร่ในเอเชียและแอฟริกา [2]ประเทศต้นทางคือเอเชียตะวันออก ( จีน ), เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ( ลาว , มาเลเซีย , เวียดนาม , กัมพูชา , ไต้หวัน , ไทย ) เอเชียใต้ ( อินเดีย ), แอฟริกาตะวันออก ( เอธิโอเปีย , ยูกันดา , เคนยา , แทนซาเนีย)ภาคกลางของแอฟริกา ( แคเมอรูน,สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก),แอฟริกาใต้ (มาดากัสการ์, มาลาวี, แองโกลา ) พบได้ที่ระดับความสูงจากระดับน้ำทะเล ถึง 500 เมตร แต่บางครั้งถึง 2,000 เมตร
พืช ล้มลุกขนาดเล็กสูง 0.20-0.40 เมตร ลักษณะคล้ายกระเพราและโหระพา แต่กลิ่นจะแตกต่างกัน โคนลำต้นแข็งแตกกิ่งก้านมาก สีเขียวออกขาวเล็กน้อย กิ่งอ่อนเป็นเหลี่ยม และตามข้อมีขนสีขาวปกคลุมทุกส่วนมีกลิ่นหอมใบเดี่ยวออกตรงข้ามรูปไข่ หรือรูปรี โคนใบรูปลิ่มปลายใบแหลม ขอบใบจักฟันเลื่อย แผ่นใบสีเขียวตามขอบใบและเส้นใบมีขนละเอียดปกคลุม ดอกออกเป็นช่อแบบช่อฉัตร ดอกสีขาว ผลมีขนาดเล็กภายในผลมี4เมล็ด เปลือกแข็งมีเมล็ดสีดำ เมื่อแช่น้ำจะเกิดวุ้นหุ้มรอบๆเมล็ดพองได้ถึง 45 เท่า
การใช้ประโยชน์--- ใช้เป็นเครื่องปรุงในอาหารหลากหลายชนิด เป็นสมุนไพรที่นิยมในอาหารอาหรับ , อินโดนีเซีย , ฟิลิปปินส์, ลาว , มาเลย์ , เปอร์เซียและอาหารไทย ในขณะที่เครื่องดื่มเย็น ๆ สามารถทำจากเมล็ด พืชที่รวบรวมจากป่าใช้เป็นยาแต่มักจะเกิดจากการเพาะปลูก
-ใช้เป็นยา มีสรพคุณ ใบรสหอมร้อน เป็นยาขับลม ขับเหงื่อ แก้ไอและโรคเกี่ยวกับลำไส้ ใช้อมบ้วนปากเพื่อบรรเทาอาการปวดฟัน ใช้ใบสดโขลกให้ละเอียดคั้นเอาแต่น้ำดื่มเป็นยาแก้หวัดในเด็ก เมล็ดหอมร้อน แช่น้ำให้พองเต็มที่ รับประทาน เป็นเป็นยาระบายแก้ท้องผูก ทำให้ถ่ายอุจจาระได้สะดวกเพราะเมือกขาวทำให้ลื่น อุจจาระไม่เกาะลำไส้ ช่วยดูดซึมน้ำตาลในเลือด เป็นยาลดความอ้วน ขับปัสสาวะ ใบถูกนำไปทำเป็นยาที่ใช้ในการรักษาโรคผิวหนังนอกจากนี้ยังใช้กับบาดแผลและแผลไหม้ที่ไม่ได้รับการรักษาอย่างดีและยังใช้เป็นยาฆ่าเชื้อในการรักษาแผลเปื่อย
-ใช้อื่นๆ น้ำมันหอมระเหยสามารถสกัดได้จากพืช มันถูกใช้ในสบู่และเครื่องสำอาง  และมีสารออกฤทธิ์ที่มีประสิทธิภาพในการขับไล่แมลง
ขยายพันธุ์---เมล็ด


ยอ/Morinda citrifolia

ชื่อวิทยาศาสตร์ ---Morinda citrifolia L.
ชื่อพ้อง---Has 21 Synonyms

-Morinda angustifolia Roth -Morinda multiflora Roxb.
-Morinda aspera Wight & Arn. -Morinda nodosa Buch.-Ham.
-Morinda chachuca Buch.-Ham. -Morinda pubescens var. aspera (Wight & Arn.) M.Gangop.
-Morinda citrifolia f. potteri (O.Deg.) H.St.John -Morinda quadrangularis G.Don
-Morinda coreia var. stenophylla (Spreng.) Chandrab. -Morinda stenophylla Spreng.
-Morinda elliptica (Hook.f.) Ridl. -Morinda teysmanniana Miq.
-Morinda ligulata Blanco -Morinda tinctoria Noronha
-Morinda littoralis Blanco -Morinda zollingeriana Miq.
-Morinda macrophylla Desf. -Platanocephalus orientalis Crantz
-Morinda mudia Buch.-Ham. -Samama citrifolia (L.) Kuntze
-Sarcocephalus leichhardtii F.Muell.

ชื่อสามัญ--Great morinda, Indian mulberry, Noni,Tahitian noni, Beach mulberry Cheese fruit,Awl Tree,Brimstone Tree
ชื่ออื่น--- ยอ แย่ใหญ่ (แม่ฮ่องสอน), ตาเสือ มะตาเสือ (ภาคเหนือ), ยอบ้าน (ภาคกลาง) ; [THAI: Mata suea (Northern Thailand); Yae yai (Karen); Yor , Yo ban (General).];[BENGALI: Hurdi.];[CHINESE: Hai bin mu ba ji.];[FIJI: Kura, Kura kana, Kuru.];[FRENCH: Bois douleur.];[HAWII: Noni.]; [HINDI: Bartundi.];[INDONESIA: mangkudu, wangkudu, kudu, cengkudu.]; [JAPANESE:  Yaeyamaaoki.];[KANNADA: Tagase Maddi.];[MALAYALAM: Kattapitalavam,Mannapavatta.];[MYANMAR: nibase, noni, nyagyi.];[MARATHI: Nagakunda.];[PORTUGUESE: Pau-azeitona.];[SANSKRIT: Achuka, Achchhuka, Ashyka, Ashyuka.];[SINHALESE: Ahugaha, Yhugaha.];[SPANISH:  Huevo de reuma (Dominican Republic), Mora de la India, Noni (Puerto Rico).];[TAGALOG: Bankudo.];[TAHITI: Nono.]; [TAMIL: nuna.];[TELUGU: Mogali.];[TONGA: nonu].[VIETNAMESE: Cây nhàu, Trái nhàu.].
ชื่อวงศ์--- RUBIACEAE
ถิ่นกำเนิด---ทวีปเอเซีย และออสเตรเลีย
เขตกระจายพันธุ์ --- ออสเตรเลีย อินเดีย อินโดนีเซีย เอเซียตะวันออกเฉียงใต้ หมู่เกาะแปซิฟิก

 

มีถิ่นกำเนิดอยู่ในเขตร้อนและเอเชียกึ่งเขตร้อนถึง ตอนเหนือของออสเตรเลีย
ไม้ยืนต้นขนาดกลาง ลำต้นตรงสูง ประมาณ2-6 เมตร เปลือกต้นสีน้ำตาลเทา แตกเป็นสะเก็ดแล้วหลุด กิ่งอ่อนรูปสี่เหลี่ยม
ใบเดี่ยว เรียงตรงข้าม ใหญ่หนา สีเขียวสด มีหูใบ ดอกช่อออกที่ซอกใบออกรวมกันเป็นช่อกลม กลีบดอกสีขาว
ผลสด เป็นผลรวม ผลกลมยาวรี ผิวผลเป็นตุ่มพอง มีตาเป็นปุ่มรอบผล ผลอ่อนมีสีเขียวสด ผลสุกสีขาวนวล เมล็ดสีน้ำตาลไหม้มีจำนวนมาก
ข้อกำหนดสิ่งแวดล้อม---ชอบดินทรายที่มีการระบายน้ำดีและอยู่ในที่ที่มีแสงแดดส่องถึงบางส่วน ประสบความสำเร็จในดินที่หลากหลาย ชอบ pH ในช่วง 5 - 6.5 ทน 4.3 - 7 ทนทานต่อความแห้งแล้งมาก
การใช้ประโยชน์--- -ใช้กิน ใช้เป็นอาหารความอดอยาก แต่ในบางวัฒนธรรมก็ยังคงเป็นอาหารหลักอยู่ เช่นในอินเดีย ผลไม้สุกใช้ในการปรุงอาหาร ใน Sambals และแกง -ผลสุกจัดทำเป็นเครื่องดื่มใส่น้ำตาลหรือน้ำเชื่อม ใบอ่อนและยอดลวก - ดิบหรือนึ่ง, เพิ่มในแกง ฯลฯ ใบเป็นแหล่งอุดมไปด้วยวิตามินเอ โปรตีน 4.5 - 6% ในตลาดผู้บริโภคจะได้รับการแนะนำว่าเป็นอาหารเสริมในรูปแบบต่างๆเช่นแคปซูลผลิตภัณฑ์ผิวหนังและน้ำผลไม้
-ใช้เป็นยา ใช้ในยาแผนโบราณ ใบอ่อนมีรสขมเฝื่อน มีสรรพคุณช่วยลดความร้อนในร่างกาย แก้ไข้ แก้กระษัย คั้นเอาน้ำสระผมแก้เหา ทาแก้ปวดข้อของนิ้วมือ นิ้วเท้า แก้โรคเก๊า แก้ปวดบวม อักเสบ ผลรสเผ็ดร้อนช่วยขับลมในลำไส้แก้อาเจียน ตำรา ยาไทยใช้ผลสดดิบหรือห่าม ฝานเป็นชิ้นบางย่างหรือคั่วไฟอ่อนให้เหลือง ต้มหรือชงกับน้ำ ดื่มแก้คลื่นไส้อาเจียน ผลสุกมีกลิ่นฉุนสรรพคุณช่วยขับลมในลำไส้ ราก รสเฝื่อนเป็นยาระบาย นำมาใช้โดยนำรากยอขนาดนิ้วชี้ยาวไม่เกิน6นิ้วฟุต สับเป็นชิ้นๆใส่น้ำ2แก้วต้ม10-15นาที กิน1แก้วก่อนเข้านอน ตอนเช้าท้องไส้จะระบายดี เหมาะสำหรับคนท้องผูก และเป็นริดสีดวงทวาร (ถ้าต้องการถ่ายมากให้เพิ่มรากยอ) -แพทย์ทางเลือกสมัยใหม่ ใช้บำบัดและรักษาโรคมะเร็ง โรคเกี่ยวกับสมอง โรคติดสุราหรือยาเสพติด ใช้ลดอาการแพ้ ใช้รักษาโรคหอบหืด โรคเบาหวาน โรคเส้นเลือดหล่อเลี้ยงหัวใจ โรคอ่อนเพลียเรื้อรัง โรคเกี่ยวกับทางเดินอาหารต่าง ๆ โรคเซลล์เจริญเติบโตนอกมดลูก (Endometriosis) โรคภูมิคุ้มกันต่ำ โรคความดันโลหิตสูง โรคเส้นโลหิตตีบ โรคโปลิโอ ไซนัส  
-วนเกษตร พืชชนิดนี้เป็นสายพันธุ์บุกเบิกโดยธรรมชาติปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็วในพื้นที่เพาะปลูกหลังจากไฟไหม้ป่า มันสามารถใช้ในโครงการปลูกป่าและด้วยความหลากหลายของการใช้ ทำให้เป็นสายพันธุ์บุกเบิกที่ดีเมื่อสร้างสวนป่า
-ใช้อื่น ๆ นำรากมาทำสีย้อมสีเหลืองในขณะที่เปลือกใช้สำหรับย้อมสีแดง
รู้จักอันตราย---  ไม่ควรใช้สำหรับวัตถุประสงค์ทางการแพทย์โดยไม่ปรึกษาแพทย์ก่อน ลูกยอสามารถรบกวนการใช้ยาบางชนิดที่คุณอาจใช้อยู่เช่น coumadin หรือ warfarin ผู้ที่มีโพแทสเซียมที่จำกัด ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานลูกยอเนื่องจากปัญหาเกี่ยวกับตับไตและหัวใจ
ระยะออกดอกติดผล---ตลอดปี
ขยายพันธุ์---เมล็ด ตอนกิ่ง ปักชำ


ยี่หร่า/Ocimum gratissimum


ชื่อวิทยาศาสตร์     __ Ocimum gratissimum L.
ชื่อพ้อง----Has 21 Synonyms

-Geniosporum discolor Baker -Ocimum paniculatum Bojer
-Ocimum anosurum Fenzl -Ocimum petiolare Lam.
-Ocimum arborescens Bojer ex Benth. -Ocimum robustum B.Heyne ex Hook.f.
-Ocimum caillei A.Chev. -Ocimum sericeum Medik.
-Ocimum dalabaense A.Chev. -Ocimum suave Willd.
-Ocimum febrifugum Lindl. -Ocimum trichodon Baker ex Gürke
-Ocimum frutescens Mill. -Ocimum urticifolium Roth
-Ocimum guineense Schumach. & Thonn. -Ocimum villosum Weinm.
-Ocimum heptodon P.Beauv. -Ocimum viride Willd.
-Ocimum holosericeum J.F.Gmel. -Ocimum viridiflorum Roth
-Ocimum zeylanicum Medik.

ชื่อสามัญ--- Clove basil, Shrubby basil ,African basil, Wild basil, Tree basil, Caraway friut, Caraway seed.
ชื่ออื่น---ยี่หร่า กะเพราญวณ (กรุงเทพมหานคร), จันทร์หอม เนียม (เชียงใหม่), จันทร์ขี้ไก่ เนียมต้น (แม่ฮ่องสอน), สะหลีดี (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน), หอมป้อม (ภาคเหนือ), โหระพาช้าง กะเพราควาย (ภาคกลาง), หร่า (ภาคใต้) ; [THAI: horapha-chang; kaphrao-chang; yira.];[ASSAMESE: gandha-tulasi, ram tulsi.];[BENGALI: ram tulsi.];[BRAZIL: alfavaca brava.];[CAMBODIA: ling leak kranam.];[CHINESE: wu mao ding xiang luo le.];[FRENCH: basilic, basilic sauvage, menthe gabonaise.];[HAITI: basilic à petites fleurs; basilic grandes feuilles; folle basin.];[HINDI: ram tulsi, ban tulsi.];[INDONESIA: kemangi hutan; ruku-ruku rimba; selaseh mekah.];[MALAYALAM: karpoorathulasi, anathuasi, ramathulasi.];[MALAYSIA: ruku-ruku hitam; selaseh besar.];[MARATHI: ramatulasi,ajavala,tanatulasu.];[PANAMA: origanum de castilla.];[PORTUGUESE: alfavaca-de-caboclo; alfavacão.];[SANSKRIT: bilvaparni, doshakleshi, ajaka,ajeka.];[SPANISH: albahaca africana; albahaca cimarrona; albahaca de limón.];[TAHITIAN: miri papa‘ā, miri taratoni.];[TAMIL: peruntulasi,elumichantulasi,elumiccam tulaci.];[TELUGU: nimma-tulasi,nimmatulasi,rama-tulasi.];[VIFTNAM: é lá lớn; hương nhu trắng.].
ชื่อวงศ์--- LAMIACEAE ( LABIATAE)
ถิ่นกำเนิด--- แอฟริกา มาดากัสการ์ เอเชียใต้  หมู่เกาะบิสมาร์ก
เขตกระจายพันธุ์---แอฟริกาเขตร้อน เอเชียตะวันออก อนุทวีปอินเดีย อินโดจีน มาเลย์เซีย อินโดนีเซีย
มีถิ่นกำเนิดในแอฟริกา, มาดากัสการ์, เอเชียใต้และหมู่เกาะบิสมาร์กและแปลงสัญชาติในโปลินีเซีย, ฮาวาย, เม็กซิโก, ปานามา, เวสต์อินดีส, บราซิลและโบลิเวีย พบเลียบชายฝั่งทะเลสาบในทุ่งหญ้าสะวันนาในป่าดิบเขาและดินแดนที่ถูกรบกวนที่ระดับความสูงจากระดับน้ำทะเลถึง 2,382 เมตรในแอฟริกาตะวันตก
ไม้พุ่มเตี้ย สูงประมาณ 50-80 เซนติเมตร ลำต้นมีสีน้ำตาลแก่ แตกกิ่งก้านสาขาขนาดเล็ก กิ่งก้านไม่ใหญ่ ในช่วงปีแรกและปีที่สองจึงออกดอกออกผล ใบเดี่ยวออกตรงข้ามกันเป็นคู่ ๆ ลักษณะของเป็นรูปกลมรี โคนใบสอบ ปลายใบแหลม ขอบใบหยักเป็นฟันเลื่อย ใบสีเขียวสด ผิวใบสากมือ ใบยี่หร่ามีกลิ่นหอมเฉพาะตัว มีรสร้อน จึงช่วยดับกลิ่นคาวจากอาหารจำพวกเนื้อสัตว์เนื้อปลาได้เป็นอย่างดี ดอกเป็นช่อที่บริเวณปลายยอด ผล หรือ เมล็ด เป็นรูปกลมรี แต่ละผลมีขนาดประมาณ 1 มิลลิเมตร เมื่อยังอ่อนจะเป็นสีเขียว แต่พอสุกหรือแก่แล้วจะกลายเป็นสีดำหรือสีน้ำตาลอ่อน ภายในผลมีเมล็ดขนาดเล็กจำนวนมาก
ข้อกำหนดสิ่งแวดล้อม---เจริญเติบโตได้ดีในดินร่วนซุยและมีความชื้นปานกลางในสภาพกลางแจ้ง เปิดโล่งมีแสงแดดมาก สามารถปรับให้เหมาะกับดินประเภทต่าง ๆ ที่มีค่าความเป็นกรดเป็นด่างในช่วง 5.6-7.5
ใช้ประโยชน์---เป็นสมุนไพรปรุงอาหารที่พบได้ทั่วไปในแอฟริกาตะวันตกและถูกใช้โดยชาวแคริบเบี้ยน พืชมักได้รับการปลูกเป็นส่วนใหญ่ มีการใช้งานด้านการเป็นอาหารและยา ให้ผลผลิตน้ำมันหอมระเหยที่ปลูกในเชิงพาณิชย์น้ำมันที่ส่งออกไปยังหลายประเทศ บางครั้งใบไม้จะขายในตลาดท้องถิ่น
-ใช้กิน ใบใช้เป็นเครื่องปรุงหรือเป็นส่วนประกอบในอาหารบางชนิด เช่น แกง ซุป ต้มยำ ช่วยดับกลิ่นคาวของเนื้อสัตว์ ผลจะนิยมนำมาตากแห้งหรือนำไปอบแห้ง เพื่อใช้ทำเป็นเครื่องเทศที่ใช้ประกอบอาหารเพื่อช่วยเพิ่มกลิ่นหอมให้อาหารน่ารับประทานมากยิ่งขึ้น และยังช่วยดับกลิ่นคาวได้ดีเหมือนกับใบ
-ใช้เป็นยา น้ำมันหอมระเหยที่สกัดจากใบและลำต้น Eugenol และ Thymol ที่สกัดจากน้ำมันนั้นใช้แทนน้ำมันกานพลูและน้ำมันโหระพา มีประโยชน์หลายอย่างในการแพทย์แผนโบราณโดยเฉพาะในแอฟริกาและอินเดีย การเตรียมจากพืชทั้งหมดใช้เป็นยาบำรุงกระเพาะอาหารและรักษาอาการลมแดดปวดศีรษะและไข้หวัดใหญ่ เมล็ดมีคุณสมบัติเป็นยาระบายและใช้น้ำมันหอมระเหยในการรักษาไข้ สรรพคุณส่วนต่างๆ ใบ สามารถช่วยยับยั้งหรือช่วยชะลอการขยายตัวของเซลล์มะเร็งได้ ช่วยในการบำรุงธาตุในร่างกาย ใบยี่หร่าอุดมไปด้วยวิตามินซีและธาตุแคลเซียม ซึ่งมีสรรพคุณในการช่วยขับเหงื่อซึ่งเป็นของเสียออกจากร่างกาย ช่วยแก้อาการคลื่นไส้ ด้วยการใช้ใบนำมาชงเป็นชาดื่มจนกว่าจะหาย ช่วยแก้โรคเบื่ออาหาร  แก้อาการปวดท้องเนื่องจากอาหารไม่ย่อย ใบ ต้น รากแห้ง ช่วยแก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ อาการปวดท้องขับลมในลำไส้ ผล ช่วยฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ นอกจากนี้ น้ำมันหอมระเหยจากยี่หร่ามีฤทธิ์ช่วยระงับอาการหดเกร็งของไส้ ยี่หร่ายังมีฤทธิ์ทำให้กล้ามเนื้อมดลูกคลายตัว ซึ่งจะช่วยลดอาการปวดประจำเดือนในสตรีได้
-อื่น ๆ น้ำมันยี่หร่า (Caraway oil) นอกจากจะใช้แต่งกลิ่นอาหาร ยังนำมาใช้แต่งกลิ่นสบู่ -ในอินโดนีเซียน้ำมันถูกใช้ในการล้างศพและพืชมักปลูกในสุสาน -ในอินเดีย O. gratissimumใช้กันอย่างแพร่หลายในพิธีกรรมทางศาสนา -
การขยายพันธุ์---เมล็ด ปักชำ


ระงับพิษ/Breynia glauca


ชื่อวิทยาศาสตร์ ---Breynia glauca Craib.
ชื่อพ้อง ---No synonyms are recorded for this name.
ชื่อสามัญ---None (Not recorded.)
ชื่ออื่น---ระงับพิษ(เชียงใหม่); จ้าสีเสียด(ลำพูน); ดับพิษ, ผักหวานด่าง (แม่ฮ่องสอน); ปริก(ประจวบคีรีขันธ์) ; [THAI: Ra-ngap-phit (Chiang Mai); Cha sisiat (Lamphun); dap phit; phak wan dang (Mae hong Son); prik (Prachuap Khiri Khan).]
ชื่อวงศ์--- EUPHORBIACEAE
ถิ่นกำเนิด---ทวีปเอเซีย
เขตกระจายพันธุ์---ไทย มาเลเซีย บอร์เนียว สุมาตรา
พบใน ประเทศไทย, มาเลเซีย, บอร์เนียว, สุมาตรา ประเทศไทยพบทุกภาค ในป่าเต็งรัง ป่าสนเขา ป่าดิบเขา ที่ระดับความสูงจากระดับน้ำทะเลถึง 1300เมตร
เป็นไม้พุ่มที่กระจายอยู่ทั่วไปในประเทศไทยมีชื่อท้องถิ่นว่า "ราชภัฏพิบูล" ซึ่งแปลว่า "ล้างพิษ" (กรมป่าไม้ 2544) ลักษณะ ลำต้นตั้งตรง สูงได้ถึง 5 เมตร กิ่งอ่อนแบนเล็กน้อย ผิวเรียบ ใบเดี่ยว ยาว3.3-7.5ซม.กว้าง1.5-4.3ซม. เรียงสลับ รูปไข่แกมใบหอก . เนื้อใบเหนียว ด้านบนสีเขียวแกมน้ำตาลด้านล่างมีสีนวลขาว ก้านใบยาว1.6-2.5ซม.ดอก ออกเป็นช่อกระจุก จามซอกใบ ดอกย่อย 2-3 ดอก แยกเพศอยู่ บนต้นเดียวกัน กลีบดอกสีเหลืองแกมเขียว ผลขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง  6.5—8 มม.เมื่อแห้งจะแตก รูปกลมแป้น เมล็ดสีแดงแกมน้ำตาล 3.7-4.2 มม.
ใช้ประโยชน์---ใช้เป็นยา สรรพคุณทางสมุนไพร ใบ รสเย็น แก้ไข้ร้อนในกระหายน้ำ ไข้พิษ ไข้หัว ราก รสเย็น แก้ไข้จับสั่น ไข้กลับ ไข้ซ้ำ ไข้เซื่องซึม กระทุ้งพิษ แก้ไข้พิษทุกชนิด แก้ไข้ แก้ร้อนใน กระหายน้ำ
ขยายพันธุ์---เมล็ด ตอนกิ่ง


รางจืด/Thunbergia laurifolia


ชื่อวิทยาศาสตร์ ---Thunbergia laurifolia Lindl.
ชื่อพ้อง ---Has 1 Synonyms   
---Thunbergia harrisii Hook.f.
ชื่อสามัญ---Laurel clock vine, Blue Sky Vine, Laurel-leaved Clockvine, Purple Allamanda, Babbler's-vine.
ชื่ออื่น---รางเย็น คาย (ยะลา), ดุเหว่า (ปัตตานี), ทิดพุด (นครศรีธรรมราช), ย่ำแย้ แอดแอ (เพชรบูรณ์), น้ำนอง (สระบุรี), จอลอดิเออ ซั้งกะ ปั้งกะล่ะ พอหน่อเตอ (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน), กำลังช้างเผือก ยาเขียว เครือเขาเขียว ขอบชะนาง (ภาคกลาง), ว่านรางจืด ; [THAI: Ran-Chuet, Rang jued.];[ASSAMESE: Kauri-lata, Kukua-lata.];[CZECH: Smatavka.];[GERMAN: Malayische Thunbergie.];[MALAYSIA: Akar Ketuau, Akar tuau.]; [MYANMAR: Kyi-kan-hnok-thi, Kyini-nwe, New-nyo.];[VIETNAM: Cát đằng thon.].
ชื่อวงศ์---ACANTHACEAE
ถิ่นกำเนิด---ทวีปเอเชีย
เขตกระจายพันธุ์---เอเชียตะวันออกเฉียงใต้; อินเดีย อินโดจีน มาเลเซีย อินโดนีเซีย
เขตกระจายพันธุ์    --- อินเดีย อินโดจีน มาเลเซีย อินโดนีเซีย

 

มีถิ่นกำเนิดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  จากพม่าผ่านอินโดจีนไปยังมาเลเซีย ในฐานะที่เป็นไม้ประดับ แต่กระจายอยู่ทั่วไปในเขตร้อนและกึ่งเขตร้อนและ มีถิ่นกำเนิดในออสเตรเลีย ( ทางเหนือควีนส์แลนด์) หมู่เกาะฮาวาย ฟิจิและเฟรนช์โปลินีเซีย พบทั่วไปตามชายป่าดิบ ป่าละเมาะ ที่ระดับความสูง 850-1200เมตร สามารถกลายเป็นสายพันธุ์ที่รุกรานที่หนีออกมาจากสวนไม้ประดับ ในหลายกรณีจะรุกรานที่อยู่อาศัยของพืชพื้นเมืองในสภาพอากาศที่เอื้ออำนวย เนื่องจากเป็นพืชยืนต้นที่เติบโตอย่างรวดเร็วจึงกลายเป็นวัชพืชที่แปลกใหม่และมีพิษในหลายประเทศ พืชได้กลายเป็นวัชพืชที่พบในพืช Cerrado (ทุ่งหญ้าสะวันนาที่มีความหลากหลายทางชีวภาพมากที่สุดในโลก) ของบราซิลและในเขตร้อนของออสเตรเลีย
ไม้เลื้อยพันอายุหลายปี เถาค่อนข้างเรียบ ใบเป็นใบเดี่ยวกว้าง 4-11 ยาว 10-16 ซม.ออกตรงข้ามเป็นคู่ รูปรีหรือรูปใบหอก  โคนใบป้านถึงกลมมน ปลายใบแหลมถึงเรียวแหลม ขอบใบเว้าเล็กน้อย ก้านใบยาว 1-6 ซม.บวมที่โคน ดอกออกเป็นช่อที่ปลายกิ่ง ช่อละ2-3ดอก  เส้นผ่านศูนย์กลาง 6-8 ซม. กลีบดอกสีม่วงแกมน้ำเงิน ใบประดับสีเขียวแกมน้ำตาลแดง ก้านดอก ยาว 1-3 ซม. ผลรูปไข่ 1x4ซม.แบบแห้งแล้วแตก ปลายผลสอบแหลมเป็นจงอย เมื่อผลแก่แตกเป็น2 ซีกจากจงอยส่วนบน เมล็ดมี2-4 เมล็ด ขนาด 8-12มม.
ใช้ประโยชน์---เป็นพืชสมุนไพรที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในถิ่นกำเนิดตั้งแต่ในอดีต ถือเป็นยาแก้พิษเกือบสากล
ใช้เป็นพืชสมุนไพรพื้นบ้านที่ให้รสขมเย็น ช่วยถอนพิษเบื่อเมา ใช้ปรุงเป็นยาเขียวถอนพิษทั้งปวง รากและเถาเป็นยากินแก้ร้อนใน แก้กระหายน้ำ แก้พิษร้อนทั้งปวง สรรพคุณของไม้นี้จะแก้พิษทุกชนิดหากนำเอาหัวมาผสมกับน้ำซาวข้าว กินเพียง5นาที ก็จะหายจากอาการพิษต่างๆ เช่นไข้ผิดสำแดง พิษของยาเบื่อ ยาสั่ง นอกจากนี้ยังช่วยแก้พิษแมลงสัตว์กัดต่อยเช่นงู แมงป่อง ตะขาบ หรือพวกฝี หัวดาว หัวเดือน ปรวด ตะมอยและฝีอีก 108 อย่าง เพียงนำใบ3ใบมาตำให้ละเอียด ใช้น้ำสุกหรือน้ำซาวข้าวเป็นกระสายพอข้น พอกบริเวณที่เกิดอาการจะช่วยให้หายปวดและแก้พิษได้ในทันที ส่วนผู้ที่มีอาการอาหารเป็นพิษ ปวดท้องอย่างรุนแรง หรือรับประทานเห็ดมีพิษต่างๆให้นำใบรางจืด7ใบตำโขลกผสมน้ำซาวข้าวให้รับ ประทานจะหายเป็นปลิดทิ้งราวปาฏิหารย์ ในอินเดียใช้น้ำคั้นจากใบ ใส่ในหูเพื่อรักษาอาการหูตึง
ความ เชื่อ---หากนำรากหรือโคนต้นไปผสมสิ่งใดก็ตาม จะทำให้สิ่งนั้นมีรสจืดชืด เช่นถ้านำไปผสมกับเกลือจะทำให้เกลือจืด หากผสมกับเหล้าจะทำให้เหล้าจืดกินแล้วไม่เมา
ข้อควรระวัง--- ถ้า เถารางจืดเลื้อยขึ้นปกคลุมไม้ผลใดๆจะทำให้ผลไม้นั้นมีรสจืดไปด้วยเช่น มะม่วง มะปราง และขนุน รากที่นำมาใช้ต้องมีอายุแปดปีขึ้นไป ส่วนใบอายุเท่าไรก็ใช้ได้
ระยะออกดอกติดผล---พฤศจิกายน-มกราคม
ขยายพันธุ์---เมล็ด ปักชำ


รางจืดต้น/Crotalaria spectabilis


ชื่อวิทยาศาสตร์ ---Crotalaria spectabilis Roth.
ชื่อพ้อง---Has 7 synonyms
---Crotalaria altipes Raf.
---Crotalaria cuneifolia (Forssk.) Schrank
---Crotalaria leschenaultii DC.
---Crotalaria macrophylla Wienmann
---Crotalaria retzii Hitchc.
---Crotalaria sericea RETZ.
---Crotalaria spectabilis subsp. spectabilis
ชื่อสามัญ---Cats Bell, Rattlebox, Rattleweed, Showy rattlebox, Showy rattlepod, Yellow Crotalaris, Greater Rattlepod, Showroom Crotalaria.
ชื่ออื่น---ยางจืด, จางจืด, มะหิ่งเม่น ; [THAI: Mahing men.];[BENGALI: Pipuli Jhunjhun.];[CHINESE: Da tuo ye zhu shi dou.];[CUBA: chicharra ; maromera; maruga.];[FRENCH: Petit Pois Rond Marron, Pois Rond Marron, Crotalaire remarquable.];[GERMANY: Ansehliche Klapperhuelse.];[HINDA: Jhunjhunia, Dhundhuni, Sani.]; [KANNADA: Kaadu Senabu.];[MARATHI: Dingala, Khulkhula.];[SANSKRIT: Ghantarava.].
ชื่อวงศ์---FABACEAE
ถิ่นกำเนิด---ทวีปเอเซีย
เขตกระจายพันธุ์---เอเซียตะวันออกเฉียงใต้; ปากีสถาน อินเดีย เนปาล บังคลาเทศ พม่า ไทย มาเลเซีย
นิรุกติศาสตร์---ชื่อสกุล Crotalaria มาจากภาษากรีก krotalos สำหรับการสั่นสะเทือน หมายถึงฝักแห้งที่มีเสียงเมื่อเขย่า
มีถิ่นกำเนิดในเอเชียเขตร้อนและได้รับการแนะนำอย่างกว้างขวางในประเทศเขตร้อนหลายแห่งทั่วโลก พบในทุ่งหญ้า ตามเส้นทางขอบป่าและเป็นวัชพืชของการเพาะปลูก ที่ระดับความสูง 100 - 1,500 เมตร สายพันธุ์นี้เป็นวัชพืชที่ร้ายแรงในพื้นที่เกษตรกรรมและแหล่งที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติ ( Randall, 2012 ) ศักยภาพในการรุกรานนั้นสูงมากในสหรัฐอเมริกามีการระบุว่าเป็นวัชพืชที่มีพิษในหลาย ๆ รัฐกลางใต้ (เช่นอาร์คันซอ) และแพร่กระจายอย่างรวดเร็วทั่วรัฐ Southeastern ซึ่งตอนนี้ถือว่าเป็นสายพันธุ์ที่รุกราน ( Maddox et al., 2011; USDA-NRCS, 2015 ) C. spectabilisยังมีชื่ออยู่ในคิวบาออสเตรเลียนิวแคลิโดเนียและเกาะอื่น ๆ ในมหาสมุทรแปซิฟิก
รางจืดต้นคนทั่วไปไม่ค่อยรู้จัก แต่จะรู้จักรางจืดเถาและว่านรางจืด ซึ่งมีชื่อเหมือนกัน รางจืดต้นเป็นพืชล้มลุกที่พบได้ทั่วๆไป โดยเฉพาะทางภาคเหนือของประเทศไทย
ลักษณะไม้ล้มลุกอายุปีเดียวหรือ2-3ปี ลำต้นตั้งตรงสูง 0.6-1.5เมตร  ก้านใบยาว 2-8 มม. ใบรูปไข่ถึงรูปไข่แคบ, 7-15 × 2-5 ซม.ใบบางด้านบนเมีขนรียบเนียน ด้านล่างมีขนแข็ง ช่อดอกมีดอกย่อย 20-30ดอก สีเหลือง ผลเป็นฝักรูปขอบขนานมีเมล็ด20-30เมล็ด เมล็ดเรียบสีน้ำตาลเข้มยาว 4.5 มม.
ข้อกำหนดสิ่งแวดล้อม---เติบโตได้ดีที่สุดในตำแหน่งที่มีแดดและทนร่มเงา ทนต่อดินหลากหลายชนิดรวมถึงดินที่มีความอุดมสมบูรณ์ต่ำ ชอบ pH ในช่วง 6 - 6.5 ทนได้ 4.9 - 8 ทนแล้ง
การใช้ประโยชน์---พืชถูกเก็บเกี่ยวจากป่าเพื่อใช้ในท้องถิ่นเป็นอาหารและยารักษาโรค มันมักจะเติบโตเพื่อเป็นวัสดุปรับปรุงดิน ที่มีประโยชน์และลดประชากรไส้เดือนฝอยในดิน และใช้ปลูกเพื่อเป็นไม้ประดับ
-ใช้เป็นอาหาร ดอกไม้ - ปรุงและกินเป็นผักหรือดองหลังจากต้มในน้ำเดือด
-ใช้เป็นยา สายพันธุ์นี้ยังใช้ในยาแผนโบราณของเอเชีย สารสกัดจากพืชทั้งหมดใช้รักษาโรคพุพองและหิดเป็นยาฆ่าเชื้อสำหรับบาดแผลและรักษาหนอนลำไส้ ( Parrotta 2001 ; Francis, 2004 ) สรรพคุณทางเป็นสมุนไพร รักษา อาการของคนที่เป็นโรคเริม งูสวัด ไฟลามทุ่ง หรือขยุ้มตีนหมา ใช้ใบรางจืดตำละเอียดผสมเหล้าขาว นำไปทาบริเวณที่ได้รับเชื้อ จะสามารถถอนพิษและอาการของโรคได้อย่างรวดเร็ว หรือใช้ใบรางจืด ใบชุมเห็ดเทศ กระเทียม ตำละเอียดผสมเหล้าขาว ทาแก้โรคผิวหนัง กลาก เกลื้อน ผื่นคัน อาการเหล่านี้จะหายได้ในเวลาอันรวดเร็วเช่นเดียวกัน นอกจากนี้สามารถใช้ถอนพิษยาเบื่อให้กับสุนัขได้โดยใช้รากตำละเอียดผสมกับเหล้าขาว ให้สุนัขกิน
-วนเกษตร พืชที่ปลูกเป็นปุ๋ยพืชสดและปลูกเพื่อรักษาเสถียรภาพของดิน มันเป็นแหล่งที่ดีของสารอินทรีย์ - ใบสดมีไนโตรเจนระหว่าง 0.5-1% ซึ่งเมื่อรวมเข้าไปในดินจะช่วยเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ ทำให้โครงสร้างของดินดีโดยการเพิ่มซากพืชและชะลอการพังทลาย
-ใช้อื่น ๆ ต้น กิ่งก้าน ให้เส้นใยที่แข็งแรงและทนทาน เป็นแหล่งที่ดีของสารอินทรีย์ ประกอบด้วย pyrrolizidine alkaloid monocrotaline ซึ่งเป็นพิษต่อไส้เดือนฝอยที่ทำให้เกิดโรครากปมในพืช
ระยะออกดอก/ติดผล--- พฤศจิกายน - มกราคม
ขยายพันธุ์---เมล็ด


เร่วกระวาน/Amomum uliginosum


ชื่อวิทยาศาสตร์ --- Amomum uliginosum J.Koenig
ชื่อพ้อง---Has 5 synonyms    
---Amomum ovoideum Pierre ex Gagnep.,
---Amomum robustum K.Schum.,
---Amomum uliginosum Koenig,
---Cardamomum uliginosum (J.Koenig) Kuntze,
---Wurfbainia uliginosa (J.Koenig) Giseke)
ชื่อสามัญ---Cardamom Camphor seed
ชื่ออื่น---เร่ว (ภาคใต้ฝั่งตะวันออก), กระวานป่า(ปัตตานี) ; [THAI:  Reo (Southern) ; Krawaan paa (Pattani).];[MALAYSIA: Puar Gajah, Puar Hijau, Puar hutan (Malay), Tepus merah (Peninsular).];[VIETNAM: Chi Sa nhân.].
ชื่อวงศ์---ZINGIBERACEAE
ถิ่นกำเนิด---ทวีปเอเซีย, เอเซียตะวันออกเฉียงใต้
เขตกระจายพันธุ์---อนุทวีปอินเดีย , เอเชียตะวันออกเฉียงใต้
มีถิ่นกำเนิดในประเทศจีน พม่า ไทย ลาว กัมพูชา เวียตนาม มาเลเซีย อินโดนีเซีย นิวกินีและควีนส์แลนด์ พบได้ในป่าที่อุดมสมบูรณ์ในท้องถิ่น ป่าที่ลุ่มและบนฝั่งแม่น้ำ ที่ระดับความสูงถึง 1,000 เมตร
ไม้ ล้มลุกสูง 2-4 เมตร มีเหง้าใต้ดิน ระยะแทงหน่อจะห่างกัน ใบเดี่ยวเรียงสลับรูปใบหอกแคบปลายใบแหลมห้อยลงไม่มีก้านใบ ขนาด 50x7 ซม.ดอกช่อแทงจากเหง้า มีดอกย่อยสีขาวประมาณ15ดอก ผลเป็นผลแห้งสุกสีแดงลักษณะเหมือนผลเงาะ ขนาด1.4-2.0ซม. ภายในมีเมล็ดสีน้ำตาล12-18เมล็ดรวมเป็น3กลุ่มโดยมีเยื่อบางๆกั้น
การใช้ประโยชน์--พืชถูกเก็บเกี่ยวจากป่าเพื่อใช้ในท้องถิ่นเป็นอาหารยาและแหล่งวัสดุ บางครั้งถูกขายเพื่อวัตถุประสงค์ทางการแพทย์
-ใช้เป็นอาหารผลกินได้ ใช้เป็นเครื่องเทศเช่นเดียวกับกระวาน
-ใช้เป็นยา ในตำรายาไทยใช้เมล็ดเป็นยาขับลม และแก้ปวดท้อง เหง้าอาจใช้เป็นยาขับถ่ายทุกส่วนของพืชถูกนำมาใช้ในห้องอบสมุนไพร ห้องซาวน่าหลังคลอด
ขยายพันธุ์---เมล็ด


ละมุดอินเดีย/Pouteria campechiana


ชื่อวิทยาศาสตร์ --- Pouteria campechiana (Kunth) Baehni
ชื่อพ้อง---  Has 33 Synonyms  
---Basionym: Lucuma campechiana Kunth
---Lucuma nervosa A. DC.
---Lucuma salicifolia Knuth---(more)
ชื่อสามัญ---Eggfruit Tree, Canistel, Amarillo, Yellow Sapote, Sapote Borracho, Zapote
ชื่ออื่น---ลูกท้อพื้นบ้าน (ราชบุรี), ท้อเขมร (ปราจีนบุรี), ทิสซา (เพชรบูรณ์) เซียนท้อ เขมา ละมุดเขมร ละมุดสวรรค์ หมากป่วน โตมา (กรุงเทพฯ) [THAI: Lamud, Lamut kaymon; Tho Khamen ; Sian tho,Lamut khamen, Khe maa, To maa (Bangkok).] ; [BAHAMAS : Mammee Sapota, Eggfruit, Ti-Es.];[CZECH: Sapota žlutá. ];[FRENCH: Jaune D'oeuf.]; [GERMAN : Gelbe Sapote.];[GUATEMALA: Zapotillo de montana.];[HAWAII: : Egg-Fruit, Canistel, Ti-Es, Yellow Sapote.];[HUNGARIAN: Tojasta.];[INDONESIAN: Sawo mentega, Alkesah.];[JAPANESE: Kanisuteru.];[KOREA: kaniseutel.];[MEXICO:  Zapote de niño, Zapote borracho, Zapote mante, Zubul.];[PHILIPPINES: Boracho, Tiesa, Toesa (Tag.).];[SPANISH: Caca de nini, Guicume, Mamee ciruela, Narraco, Nisperillo, Zapotillo, Zapotillo blanco canisté.];[SWEDISH: Canistelsapote.];[TAIWAN: Danhuang guo, xiantao.];[VIETNAMESE: Cây Trứng Gà, Lekima, Trái trứng gà.]
ชื่อวงศ์--- SAPOTACEAE
ถิ่นกำเนิด---ทวีปอเมริกา
เขตกระจายพันธุ์ ---เขตร้อน เขตมรสุม เม็กซิโก กัวเตมาลา บราซิลและเอลซัลวาดอร์
นิรุกติศาสตร์---ชื่อเฉพาะสายพันธุ์ campechiana มาจากเมือง Campeche ของเม็กซิกันซึ่งเป็นถิ่นกำเนิด
เป็นผลไม้พื้นเมืองที่มีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกาเหนือ (ประเทศเม็กซิโก) และในอเมริกาใต้ (ประเทศเบลีซ, กัวเตมาลา, คอสตาริกา, เอลซัลวาดอร์, ฮอนดูรัส, ปานามา, นิการากัว) ในป่าเบญจพรรณชื้นหรือบางครั้งในป่าสน บ่อยครั้งพบบนหินปูน ที่ระดับความสูงที่ต่ำกว่า 1,400 เมตร มีการเพาะปลูกในประเทศอื่น ๆ เช่นคอสตาริกา ,บราซิล ,สหรัฐอเมริกา ,สาธารณรัฐโดมินิกัน ,ออสเตรเลีย ,กัมพูชา ,เวียดนาม ,อินโดนีเซีย ,อินเดีย ,ศรีลังกา ,ไนจีเรียและฟิลิปปินส์
เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง ความสูงโดยทั่วไปไม่เกิน 8 เมตร และอาจสูงได้ถึง 27-30 เมตร มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของต้ประมาณ 1 เมตร ลำต้นมียางสีขาวที่กิ่งอ่อน ใบเป็นรูปใบหอก หรือรูปไข่กลับ, 6-25 × 2.5–8 ซม. ปลายใบเรียวแหลม ใบเป็นมันและบาง  สีเขียวสดใส เรียวไปทางปลายทั้งสองข้าง ก้านใบยาว 1-5 ซม ดอกมีสีครีม และมีกลิ่นหอม ผลกลมรูปรีมีขนาดตั้งแต่ 7 - 12 ซม. ยาวและกว้าง 5 - 7.5 ซม.  ปลายผลมีปลายแหลมหรือจะงอย ผล.เมื่อสุกจะเป็นสีเหลืองอ่อน เปลือกผลบาง เนื้อในผลเป็นสีเหลืองสดน่ารับประทาน เนื้อมีลักษณะเหนียวคล้ายกับแป้งทำขนม เนื้อนิ่มคล้ายกับไข่แดง ภายในผลมีเมล็ดขนาดใหญ่ขนาด 2.5-3 ซม และมีลักษณะเป็นรูปรีสีดำ รสหวาน
การใช้ประโยชน์--- เป็นผลไม้ยอดนิยมในเขตร้อนและกึ่งเขตร้อนที่อบอุ่นโดยเฉพาะอย่างยิ่งในอเมริกาใต้ ทั้งปลูกเป็นผลไม้ที่กินได้และเป็นไม้ประดับให้ร่มเงา
-ใช้กิน ผลกินสดและใช้ทำขนม เช่น แพนเค้ก แยม คัสตาร์ด ทาร์ต เนื้อสุกจะถูกผสมกับนมและส่วนผสมอื่น ๆ บางครั้งมันจะถูกเพิ่มเข้าไปในคัสตาร์ดหรือใช้ในการทำไอศครีม นอกจากนี้ยังใช้ในมิลค์เชคที่รู้จักกันในชื่อ "eggfruit nog"
-ใช้เป็นยา ยาต้มจากเปลือกใช้เป็นยาสมานแผลจะถูกนำมาเป็นยาแก้ไข้ในเม็กซิโกยาต้มเปลือกฝาดนำไปใช้กับการปะทุของผิวหนัง ในคิวบายาต้มเปลือกไม้ใช้สำหรับการปะทุของผิวหนัง เมล็ดใช้สำหรับแผล; ผลไม้สำหรับโรคโลหิตจาง มีการเตรียมเมล็ดเพื่อใช้เป็นยารักษาแผล สรรพคุณจากการศึกษาแสดงให้เห็นว่าเป็นยาต้านจุลชีพ, สารต้านอนุมูลอิสระ, ต้านเชื้อแบคทีเรีย, ภูมิคุ้มกัน, ตับ, คุณสมบัติป้องกันระบบทางเดินอาหาร มีสรรพคุณทางสมุนไพร เปลือกของต้นม่อนไข่ ใช้เป็นยารักษาอาการไข้ ตัวร้อน ผลสุกใช้รับประทานมีสรรพคุณช่วยรักษาโรคเลือดออกตามไรฟัน เมล็ดใช้เป็นยาสำหรับช่วยรักษาแผลเน่าเปื่อย เปลือกต้นช่วยรักษาผดผื่นคัน
-ใช้อื่นๆ  ลาเท็กซ์ : ในอเมริกากลางยางสกัดจากต้นไม้ ใช้ในการเจือปน - ไม้ แข็งแรงแข็งและหนัก  มีมูลค่าสำหรับงานก่อสร้างต่าง ๆ ใช้เป็นไม้กระดานและทำเฟอร์นิเจอร์
ระยะออกดอก/ติดผล---มกราคม-มิถุนายน/กันยายน - กุมภาพันธ์
ขยายพันธุ์---เมล็ด ตอนกิ่ง ปักชำ


ละหุ่ง/Ricinus communis


ชื่อวิทยาศาสตร์ --- Ricinus communis L.
ชื่อพ้อง ---Has 77 Synonyms
---Ricinus africanus Willd.
---Croton spinosus L---(more)
ชื่อสามัญ---Castor Oil Plant, Castor Bean
ชื่ออื่น---ละหุ่งแดง ละหุ่งขาว มะละหุ่ง (ภาคกลาง), มะโห่ง มะโห่งหิน (ภาคเหนือ) ; [THAI: lahung; mahung.];[ASSAMESE: Era-gach.];[AUSTRALIA: African coffee tree; castor bean; castor oil bush; castor oil tree; castorbean tree; maple weed; Palma Christi; wonder tree.];[BENGALI: Veranda.];[CHINESE: bima; hongbima; hongdamazi; tianmaziguo.];[CAMBODIA: lohong khnhe; lohong khvâang.];[FRENCH: grande epurge; ricin; ricin commun.];[GERMAN: Rizinus; Rizinus-pflanze; wanderbaum.];[HAITI: huile montecristi; huile ricin; mascarite; mascristi; palma cristi.];[INDONESIA: jarak.];[JAPANESE: hima.];[KANNADA: Oudla.];[LAOS: hungx saa; huong.][MALAYALAM: Chittamankku, Erandam, Aavannakku, Kottamaram.];[PHILIPPINES: tangan-tangan.];[PORTUGUESE: mamoeiro.];[SRI LANKA: amanaku maram.];[SPANISH: hierba mora; higuera del diablo; ricino; ricino comun; tartago.];[TAMIL:  Amanakku, Vilakkennai Kottaimuttu.];[VIETNAM: daudan; thâu dâù.].
ชื่อวงศ์--- EUPHORBIACEAE
ถิ่นกำเนิด---ทวีปแอฟริกา
เขตกระจายพันธุ์---เมดิเตอร์เรเนียน แอฟริกาตะวันออก ทั่วเขตร้อน
เป็นพืชพื้นเมืองของแอฟริกาตะวันออกเฉียงเหนือ (เช่นโซมาเลียและเอธิโอเปีย) ปัจจุบันประชากรธรรมชาติของR. Communis สามารถพบได้ทั่วทวีปแอฟริกาตั้งแต่ ชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกไปจนถึงทะเลแดง-ตั้งแต่ตูนิเซียไปจนถึงแอฟริกาใต้และบนเกาะต่างๆในมหาสมุทรอินเดีย มันได้รับการปลูกกันอย่างกว้างขวางและแปลงสัญชาติในภูมิภาคเขตร้อนและกึ่งเขตร้อนของอเมริกาและเอเชียและในหลายพื้นที่เขตร้อนของยุโรป
จัดเป็นไม้พุ่มหรือยืนต้นขนาดเล็ก มีความสูงของต้นได้ถึง 6 เมตร โดยแบ่งออกเป็น 2 ชนิด ได้แก่ ละหุ่งขาวและละหุ่งแดง โดยต้นละหุ่งขาวจะมีลำต้นและก้านใบเป็นสีเขียว ส่วนละหุ่งแดงจะมีลำต้นและก้านใบเป็นสีแดง ส่วนยอดอ่อนและช่อดอกเป็นสีนวลขาว
ไม้ พุ่มสูง 1-4 เมตร ลำต้นหนาเกลี้ยงกลวง สีเทาอมเขียว (glaucous) ก้านที่มีอายุมากกว่าจะเปลี่ยนเป็นสีเทาและอาจกลายเป็นไม้ค่อนข้างแข็ง ใบเดี่ยว ยาว 15-45 ซม. ก้านใบยาวสลับและปลายใบมี5-8 แฉกลึก ดอกช่อออกที่ปลายยอด แยกเพศอยู่ในต้นเดียวกัน เป็นกลุ่มยาว (8-15 ซม.) โดยมีดอกเพศเมียสีแดงอยู่ด้านบนและดอกเพศผู้สีเหลืองด้านล่าง ไม่มีกลีบดอก ผลเป็นผลแห้งขนาด1-3ซม. แตกได้มี 3 พู เมล็ดมีสีน้ำตาลประขาว เนื้อเรียบ ยาว 10-17 มม. และกว้าง 6-10 มม.
ข้อกำหนดสิ่งแวดล้อม---ตำแหน่งที่โล่งมีแสงแดด ชอบดินเหนียวที่กักเก็บความชื้นหรือดินร่วนปนทราย ต้องเป็นดินที่อุดมสมบูรณ์ ชอบ pH ในช่วง 5 - 6.5 ซึ่งทนได้ 4.5 - 8
การใช้ประโยชน์--- พืชชนิดนี้มีประวัติศาสตร์อันยาวนานในการเพาะปลูกเป็นพืชน้ำมันและสมุนไพรที่มีการปลูกในอียิปต์โบราณ และยังคงได้รับการปลูกกันอย่างกว้างขวางสำหรับใช้เมล็ดในเขตร้อนและเขตกึ่งร้อน
-ใช้กิน เมล็ดมี 35 - 55% ของน้ำมันบริโภคที่ใช้ในการปรุงอาหาร มันถูกใช้โดยอุตสาหกรรมอาหารเพื่อเพิ่มรสชาติของเนยและถั่วลงในอาหารต่าง ๆ เมล็ดนี้อุดมไปด้วยฟอสฟอรัส 90% ซึ่งอยู่ในรูปแบบไฟติก ควรปฏิบัติตามข้อควรระวังบางประการดูหมายเหตุด้านล่างเกี่ยวกับความเป็นพิษ
-ใช้เป็นยา น้ำมันจากเมล็ดเป็นยาระบายที่รู้จักกันดีและใช้กันอย่างแพร่หลายมานานกว่า 2,000 ปีมันถูกพิจารณาว่ารวดเร็วปลอดภัยและอ่อนโยนในการกระตุ้นการขับถ่ายภายใน 3 - 5 ชั่วโมงใช้ได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่  มันมีประสิทธิภาพมากจนนำมาใช้เป็นประจำเพื่อล้างระบบย่อยอาหารในกรณีที่เป็นพิษ ไม่ควรใช้ในกรณีที่มีอาการท้องผูกเรื้อรังซึ่งเป็นอาการที่ไม่สามารถหาสาเหตุได้-ในทิเบตเมล็ดถูกใช้เป็นในยา มีรสฉุนขม หวานและร้อน มันถูกใช้ในการรักษาอาหารไม่ย่อยและเป็นยาถ่าย ยาต้มใบและรากเป็นยาขับเสมหะ ใบใช้เป็นยาพอกรักษาอาการปวดศีรษะและรักษาฝี-ตำราไทยใช้ใบแก้ช้ำรั่ว (อาการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่) ขับน้ำนม รากสุมไฟให้เป็นถ่านใช้เป็นยาแก้พิษ ใช้ใบสดหรือรากนำมาต้มกินมีฤทธิ์เป็นยาระบาย น้ำมัน จากเมล็ดถ้าบีบไม่ใช้ความร้อนเป็นยาระบายสำหรับเด็กและผู้สูงอายุ แต่ถ้าบีบโดยใช้ความร้อนจะมีโปรตีนที่เป็นพิษชื่อ Ricinin ออกมาจึงไม่ใช้เป็นยา
-ใช้อื่น ๆ ใช้ในเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคลน้ำมันละหุ่งและส่วนผสมที่เกี่ยวข้องถูกนำมาใช้ในการกำหนดผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางต่าง ๆ  เช่นลิปสติก ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและสบู่อาบน้ำ-น้ำมันที่ใช้ในผ้าเคลือบและวัสดุป้องกันอื่น ๆ -ในการผลิตน้ำมันหล่อลื่นคุณภาพสูงเครื่องพิมพ์ดีดและหมึกพิมพ์โปร่งใสในการย้อมสิ่งทอ (เมื่อเปลี่ยนเป็นน้ำมันละหุ่งซัลโฟเนตหรือน้ำมันตุรกี - แดงสำหรับย้อมผ้าฝ้ายด้วยอลิซารีน) และในการผลิต 'Rilson' ซึ่งเป็นเส้นใยไนล่อนชนิดใยสังเคราะห์
รู้จักอันตราย---Ricinin ซึ่งสกัดได้จากเมล็ดน้ำมันละหุ่งนั้นมีความเป็นพิษสูงและถูกนำไปใช้ในการฆาตกรรม  เมล็ดมีอันตรายเป็นพิเศษ และมีแนวโน้มที่จะก่อให้เกิดอันตรายสำหรับเด็กและสัตว์ พืชทั้งหมดมีพิษมากแค่เมล็ดเดียวก็เป็นอันตรายกับเด็ก ไม่มียาแก้พิษเฉพาะ ใช้เป็นยาพิษร้ายแรงที่เคยใช้โดย KGB เพื่อกำจัดศัตรู ส่วนใบไม้มีพิษเพียงเล็กน้อย หลักการที่เป็นพิษนั้น ละลายในน้ำจึงไม่พบในน้ำมัน
ขยายพันธุ์---เมล็ด


ลำเจียก/Pandanus odoratissimus


ชื่อวิทยาศาสตร์ ---Pandanus odorifer (Forssk.) Kuntze
ชื่อพ้อง--- Has 55 Synonyms
---Basionym: Keura odorifera Forssk.
---Pandanus odoratissimus L.f.
---(More)
ชื่อสามัญ---Screwpine, Umbrella tree, Seashore screwpine, Screw pine, Screw tree, Fragrant screw pine,Kewda.
ชื่ออื่น--- การะเกด ลำเจียก (ภาคกลาง), ปะหนัน ปาแนะ (มลายู-นราธิวาส), เกตก์, การเกด, ลำจวน, รัญจวน , ; [THAI: Lam chiek, kaaraket, toei thale];[ASSAMESE: Keteki-phul.];[CHINESE: Lín tóu lù dōu shù.];[HINDI: gagan-dhul, jambala, jambul.];[INDONESIA: Pandan pudak, Pandan pudak duri, Pandan pudak emprit, Pandan samak laut.]; [KANNADA: Kedage.];[LAOS: Dok ked.];[MALAYALAM: Kainari, Pookaitha, Kaitha,Thala.];[MALAYSIA: Mengkuang laut, Mengkuang duri, Mengkuang layer, Pandan laut, Pandan darat, Pandan todak, Pandan berdahan, Pandan duri, Pandan wangi, Pandan podak, Pandan pudak.];[PHILIPPINES: Sabotan, sibutan, parauan];[TAMIL: Ketakai, Talai.];[TELUGU: Gedaga,Gojjangi, Ketaki.];[VIETNAM: Gi[uw]ra (d[uwr]a) d[aj]I.];
ชื่อวงศ์--- PANDANACEAE
ถิ่นกำเนิด ---ทวีปเอเซีย
เขตกระจายพันธุ์--- ฟิลิปปินส์ ไทย เวียดนาม คาบสมุทรมลายู หมู่เกาะฮาวาย อินเดีย ออสเตรเลีย โพลินีเซีย และวานูอาตู
เติบโตตามธรรมชาติตามบริเวณชายฝั่งของเอเชีย, เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโพลินีเซีย
ไม้ พุ่มสูงได้ถึง 4 เมตร ลำต้นสีน้ำตาลอมเทา มีร่องรอยแผลเป็นที่เกิดจากใบหลุดร่วง  มีรากอากาศช่วยค้ำพยุงค้ำยันลำต้น ใบเรียงเวียน ยาวประมาณ 2 เมตรกว้าง 6 ซม.ดอกออกที่ปลายยอดมีเฉพาะดอกเพศผู้ไม่มีกลีบดอก มีหนามแหลมหลายอันมีกาบหุ้มสีขาวหรือครีมใบยาวประมาณ 5-10 ซม. ประกอบด้วยช่อดอกจำนวนมาก กลิ่นหอม ต้นที่มีเฉพาะดอกเพศเมียเรียก เตยทะเล ผลเป็นผลรวมรูปกลมหรือขอบขนานนขนาด 20 x 10 ซม. สุกสีเหลืองหรือสัม
การใช้ประโยชน์--- เป็นแหล่งอาหารยาน้ำมันหอมระเหยและวัสดุสำหรับทอผ้า มักปลูกเป็นไม้ประดับมีมูลค่า
-ใช้เป็นยา รากอากาศที่โผล่ออกมาจากโคนต้นนั้น ปรุงเป็นยาแก้หนองใน แก้นิ่ว แก้ระดูขาวมีกลิ่นเหม็น แก้ปัสสาวะพิการ -ตำรายาไทยใช้รากแก้ไข้ ขับเสมหะ ขับปัสสาวะ ขับนิ่ว ลำเจียกจัดอยู่ในเกสรทั้งเก้าใช้ปรุงเป็นยาหอมบำรุงหัวใจ-ในบังคลาเทศ ใบใช้ในการรักษาโรคเรื้อน , โรคหัด , ซิฟิลิส , หิด , เกลื้อนและโรคเบาหวาน รากของมันเป็นยาขับปัสสาวะ
-อื่นๆ เป็นพืชหอมที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจ น้ำมันหอมระเหยจากดอกไม้ชายใช้กันอย่างแพร่หลายในน้ำมันหอมระเหยเครื่องสำอางและเป็นสารแต่งกลิ่นอาหาร Phenylethyl methyl ether (PEME) ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของน้ำมันหอมระเหยจะให้กลิ่นหอมที่เป็นลักษณะเฉพาะของน้ำมัน
ระยะออกดอก/ติดผล--- กรกฎาคม - พฤศจิกายน
ขยายพันธุ์---เมล็ด เหง้า


เล็บครุฑ/Polyscias fruticosa

ชื่อวิทยาศาสตร์--- Polyscias fruticosa (L.) Harms
ชื่อพ้อง---Has 10 Synonyms
---Nothopanax fruticosus (L.) Miq.---(more)
ชื่อสามัญ --- Ming Aralia, Black aralia, Cut-leaved panax
ชื่ออื่น ---ครุฑทอดมัน, ครุฑเท้าเต่า,;[CAMBODIA: Toem bo lyam.];[CHINESE: Nan yang shen.];[INDONESIA: Puding, Kedongdong laki, Kedongdong laut, Kedongdong petedhan, Bombu, Keudem rintek, Gurabati, Dewu papua, Tjakar Kutjung, Imba.];[JAPAN: Taiwan momiji.];[MALAYSIA: Kuku garuda, Pokok teh.];[PHILIPPINES: Papua (Tag., Bik.); Bani, Makan (Bik.).];[TAIWAN: Liang wang cha.];[VIETNAM: Cay goi ca, Dinh lang.].
ชื่อวงศ์ ---ARALIACEAE
ถิ่นกำเนิด---เอเซียตะวันออกเฉียงใต้
เขตกระจายพันธุ์---เขตร้อนของภูมิภาคแปซิฟิค
นิรุกติศาสตร์---ชื่อสกุลPolyscias หมายถึงสีเทาจำนวนมากในการอ้างอิงถึงใบไม้ที่พบในพืชเหล่านี้
ไม้ พุ่มนิยมปลูกเป็นไม้ประดับ สูงประมาณ1 -2 เมตร มีหลายสายพันธุ์ ใบกลม ใบเว้าตื้น ใบด่างขาว ดอกแทงออกปลายยอดของลำต้น ช่อดอกมีขนาดใหญ่ และแตกแขนงช่อย่อยจำนวนมาก ผลเป็นรูปวงรีวงกว้างบีบอัดและยาวประมาณ 4 ซม.
การใช้ประโยชน์--- พืชให้ใบกินได้และมีการใช้เป็นยา  ได้รับการปลูกทั่วไปจากอินเดียไปยังโพลินีเซียเป็นไม้ประดับ  และได้รับการปลูกเป็นพืชสมุนไพรในเวียดนาม ในธรรมชาติไม่มีการเกิดขึ้นเอง
-ใช้เป็นอาหาร ยอดอ่อนรับประทานเป็นผักจิ้มน้ำพริก หรือใส่ไข่ทอด  ใบยอดอ่อนและรากใช้เป็นวัตถุดิบหรือปรุงเป็นผักและเครื่องปรุง ในชวาใช้เป็นอาหารและเครื่องปรุงแทนผักชีฝรั่ง
-ประโยชน์เป็นยา ถูกใช้มานานนับศตวรรษในยาแผนโบราณซึ่งใช้เป็นยาแก้ปวดยาแก้ไข้และยาขับปัสสาวะ  มีสรรพคุณทางสมุนไพร ใบแก้ปวดฟัน ต้นแก้ไข้ รากต้มดื่มแก้ปวดข้อ ขับปัสสาวะ-ในอินเดียใช้เป็นยาสมานแผลและยาแก้ไข้
-ใช้อื่น ๆ ในกัมพูชาใช้ทำธูป ( Ritual sticks)
ขยายพันธุ์---เมล็ด ปักชำ ตอนกิ่ง


เล็บเหยี่ยว/Ziziphus oenoplia

 

ชื่อวิทยาศาสตร์---Ziziphus oenoplia (L.) Mill.
ชื่อพ้อง --- Has 8 Synonyms
---Basionym: Rhamnus oenopolia L.
---(More)
ชื่อสามัญ---Jackal jujube, Small-fruited jujube , Wild jujube
ชื่ออื่น---ตาฉู่แม โลชูมี (เชียงใหม่), เล็บแมว ยับเยี่ยว (นครราชสีมา), แสงคำ (นครศรีธรรมราช), สั่งคัน (สุราษฎร์ธานี, ระนอง), เล็บหยิ่ว ยับหยิ่ว (คลองหอยโข่ง-สงขลา), มะตันขอ หมากหนาม หนามเล็บเหยี่ยว (ภาคเหนือ), บักเล็บแมว (ภาคอีสาน), พุทราขอ เล็ดเหยี่ยว เล็บเหยี่ยว (ภาคกลาง), ยับยิ้ว (ภาคใต้); [AYURVEDA: Laghu-badara, Shrgaala-badari.];[BENGALI: Siakul.];[FRENCH: Jujubier à petits fruits.];[HINDI: Makora, Makai, Makkay, Makoh, Izhanthai.];[KANNADA:Barige,Karisurimullu,Pargi,Harasurali.];[MALAYALAM: Mulli, Tutali,Kothavalli, Cheruthudali, Thodalli.];[MALAYSIA: Bidara letek (Indonesia).];[MARATHI: Burgi.];[SANSKRIT: Karkandhauh]; [SIDDHA/TAMIL: Soorai.];[SRI LANKA: Heen eramaniya]; [TAMIL: Chooraimullu,Suraimullu,Kottei,Surai Ilantai,Churai Mullu.];[TELUGU: Paraki,Paringi,Paragi.];[VIETNAMESE: CâyTáoDại.].
มะตันขอ, หนามเล็บเหยี่ยว,แสงคำ
ชื่อวงศ์--- RHAMNACEAE
ถิ่นกำเนิด---ทวีปเอเชีย และทวีปออสเตรเลีย
เขตกระจายพันธุ์--- อนุทวีปอินเดีย จีนตอนใต้ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตอนเหนือของออสเตรเลีย
จากอนุทวีปอินเดียผ่านทางตอนใต้ของประเทศจีนและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไปทางตอนเหนือของออสเตรเลีย พบทั่วไปตามที่ราบป่าผลัดใบ ป่าเบญจพรรณ ป่าดิบเขา ประเทศไทยพบทางภาคอีสานและภาคเหนือ
เป็นไม้พุ่มรอเลื้อย ต้นสูง หรือเลื้อยได้ไกล 3-10 เมตร มีหนามงองุ้มแหลมตามต้นและกิ่งก้าน ใบเดี่ยวออกเรียงสลับรูปไข่แกมรูปรี  4-6.5 x 2-3 ซม  ปลายใบแหลม โคนใบเบี้ยว ผิวใบด้านบนเรียบ ด้านล่างมีขนเล็กน้อย มีเส้นใบ3เส้นออกจากโคนไปทางปลายใบ ก้านใบยาว 2-3มม.  ดอกออกเป็นช่อที่ซอกใบเป็นช่อกระจุก ขนาดเล็ก 6-20 ดอก ช่อดอกยาว 4-6 มม. ก้านช่อดอกยาว 0.5-1.0มม. มีขนเล็กน้อย ใบประดับช่อดอก 1 อัน ยาว 2-3 มม.มีขนกระจายทั่วไป  ดอกย่อย มี5กลีบ สีเขียวอมเหลือง มีผลออกตามกิ่ง ลักษณะกลม เล็กๆ เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1ซม. ผลอ่อนสีเขียว ผลสุกสีดำ รสหวานอมเปรี้ยว ผลมีเนื้อติดกับเปลือกด้านในเป็นเมล็ด หนึ่งลูกจะมีหนึ่งเมล็ดขนาดกว้าง 5-8
มม. ยาว 6-9มม. นิยมกินทั้งเนื้อทั้งเมล็ด
การใช้ประโยชน์---ใช้กิน ใบ ยอดอ่อน ผลสุกรสเปรี้ยวกินได้
การใช้ประโยชน์---ใช้กิน ใบ ยอดอ่อน ผลสุกรสเปรี้ยวกินได้
-ใช้เป็นยา มีประวัติศาสตร์อันยาวนานในการใช้เป็นยาสมุนไพร ในอินเดียรากใช้ในยาอายุรเวท ในพม่าลำต้น เปลือกใช้เป็นน้ำยาบ้วนปากแก้เจ็บคอ ใช้สำหรับโรคบิดและการอักเสบของมดลูก ในประเทศไทย ลูกสุก รสหวานอมเปรี้ยว กินสด แก้เสมหะ แก้ไอ ทำให้ชุ่มคอ ราก , เปลือกต้น รสจืดเฝื่อน ต้มน้ำดื่ม ช่วยขับระดูขาว ขับปัสสาวะ แก้มดลูกพิการ แก้ฝีในมดลูก แก้เบาหวาน รากมีรสฝาดใช้สมานแผล ขับพยาธิ ระบบย่อยอาหารและใช้เป็นยาฆ่าเชื้อ
ระยะออกดอกและติดผล--- พฤศจิกายน - มีนาคม
ขยายพันธุ์---เมล็ด


ว่านนาคราช/Davillia solida


ชื่อวิทยาศาสตร์---Davillia solida (G.Forst.) Sw.
ชื่อพ้อง---Has 20 Synonyms

-Microlepia splendens T.Moore -Davallia robinsonii Copel.
-ฺBasionym: Trichomanes solidum G.Forst. -Davallia splendens Blume
-Davallia caudata Cav. -Davallia subsolida Ching
-Davallia elegans Hedw. -Davallia tahitensis Brack.
-Davallia elmeri Copel.- Humata solida (G.Forst.) Desv.
-Davallia lindleyi Hook. -Nephrodium lucidulum C.Presl
-Davallia magellanica Desv. -Parestia caudata C.Presl
-Davallia ornata Wall. -Stenolobus kunzeanus C.Presl
-Davallia plumosa Baker -Stenolobus ornatus C.Presl
-Davallia procera Hedw. -Stenolobus solidus (G.Forst.) C.Presl

ชื่อสามัญ---Giant Hare's Foot, Hare's foot fern, Rabbit's foot fern
ชื่ออื่น---พญานาคราช  เฟินนาคราชใบหยาบ ว่านยางู , [CHINESE: Kuo ye gu sui bu.]; [CHAMORO: Pugua’ Machena.]; [HAWAII: Kulutuma.];[PALAU: Luukbedaoch.]
ชื่อวงศ์--- DAVILLIACEAE
ถิ่นกำเนิด ---ทวีปเอเซียและหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก
เขตกระจายพันธุ์---ศรีลังกา อินเดีย พม่า ไทย กัมพูชา จีน ไต้หวัน เวียตนาม คาบสมุทรมาลายู ฟิลิปปินส์ ซามัว ฟิจิ ตองก้า
จากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้, ออสเตรเลียตะวันออกและโอเชียเนียซึ่งพบในพื้นที่จากจีนตะวันออกเฉียงใต้และไทยผ่านอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ไปทางตะวันออกของรัฐควีนส์แลนด์และนิวเซาธ์เวลส์ของออสเตรเลียยังมีอยู่ในเกาะแปซิฟิกหลายแห่ง (จากปาปัวนิวกินีและนิวแคลิโดเนีย เฟรนช์โปลินีเซีย)ในที่อยู่อาศัยที่ร่มรื่นในป่าเขตร้อนหลักและในสะวันนาตั้งแต่ชายฝั่งทะเลจนถึงระดับความสูงประมาณ 1500 เมตร
เป็น เฟินอิงอาศัยมีลำต้นทอดเลื้อยตามต้นไม้ เหง้ามีเกล็ดสีน้ำตาลคลุมขนาดประมาณ 6 มม. ขึ้นไปเกล็ดของเหง้าจะเป็นสีขาวตรงกลางมีสีน้ำตาล  ใบเป็นใบประกอบแบบขนนก3-4 ชั้นออกเรียงสลับ รูปสามเหลี่ยม ยาว 60-120 ซม.ก้านใบเล็ก  ยาว 9–35 ซม. สปอร์เติบโตที่ด้านหลังของส่วนที่ขอบใบยาวขึ้นถึง 2 มม.
การใช้ประโยชน์--- ใช้เป็นยา มีฤทธิ์ต้านแบคทีเรีย สารต้านอนุมูลอิสระ ยาชูกำลัง ยาระบาย ยาถ่ายและต้านการอักเสบ ในการแพทย์แผนจีนใช้สำหรับปวดเมื่อยร่างกาย แก้อักเสบ มะเร็งและการบาดเจ็บของกระดูก ในฟิลิปปินส์ - เหง้าใช้เป็นยาบำรุงสมุนไพร สำหรับการรักษาโรคกระดูกพรุนโรคข้ออักเสบและโรคข้ออักเสบ - ในฟิจิใช้เป็นยาต้านเชื้อแบคทีเรีย ใช้สำหรับโรคหอบหืดเจ็บคอ - ในตาฮิติใช้สำหรับประจำเดือน, ตกเลือดในมดลูกและเพื่อส่งเสริมการตั้งครรภ์ที่มีสุขภาพดี-ในเฟรนช์โปลินีเซียใช้เป็นยาระบายและยาถ่าย สำหรับกระดูกหักและเคล็ดขัดยอก สำหรับทารกแรกเกิดที่มีปัญหาในการนอนหลับ ใบไม้จะถูกต้มในน้ำทิ้งให้เย็นและอาบให้ทารกจนกระทั่งสงบ-ในประเทศไทย ใช้เป็นสมุนไพรบรรเทาพิษจากแมลงสัตว์กัดต่อยทุกชนิด โดยนำเหง้ามาฝนกับน้ำซาวข้าวหรือกับเหล้า แล้วทาบริเวณที่เกิดอาการ ความเชื่อว่าเป็นว่านใช้ป้องกันอสรพิษนิยมพกติดตัวเวลาเดินป่า
ขยายพันธุ์---เหง้า สปอร์


ว่านมหากาฬ/Gynura pseudochina

ชื่อวิทยาศาสตร์---Gynura pseudochina (L.) DC.var. hispida Thwaites
ชื่อพ้อง---Gynura bodinieri Levl.
ชื่อสามัญ---Passion Purple,  Chinese gynura
ชื่ออื่น---คำโคก (ขอนแก่น, เลย), หนาดแห้ง (นครราชสีมา), ผักกาดกบ (เพชรบูรณ์, เพชรบุรี), ว่านมหากาฬ (กรุงเทพฯ), ผักกาดนกเขา (สุราษฎร์ธานี), ดาวเรือง (ภาคกลาง) ; [THAI: kham khok, hnad haeng, phak kat kop, wan maha kan.];[VIETNAM: Thổ tam thất, nam bạch truật, kim thất giả.];
ชื่อวงศ์---COMPOSITAE (ASTERACEAE)
ถิ่นกำเนิด---ทวีปเอเซีย
เขตกระจายพันธุ์---อินโดจึน อินโดนีเซีย พม่า ลาว กัมพูชา เวียดนาม ไทย


พบในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ -จีนตอนใต้ ภูฏาน อินเดีย ศรีลังกา พม่า ไทย ; ทางตะวันตกของแอฟริกา - กินีถึงเอ็นไนจีเรีย, แคเมอรูน พบที่ะดับความสูง 30–500 เมตร พบบนเนินเขาริมป่าริมถนน ที่ระดับความสูง 200 - 2,100 เมตรในประเทศจีน
ไม้ ล้มลุกมีรากขนาดใหญ่ รากเนื้อนิ่มอ่อน เปลือกรากเป็นสีเหลือง ฉ่ำน้ำ เนื้อในเป็นสีขาว มีหัวอยู่ใต้ดิน ลำต้นอวบน้ำ ทอดเลื้อยยาวไปตามพื้นดิน สูง 20ซม. ชูยอดตั้งขึ้น ใบเดี่ยว 4–25 x 2–11 ซม.เรียงสลับเวียนรอบต้น ขอบใบหยักซี่ฟันตื้น ห่างๆ หลังใบสีม่วงเข้ม มีขน เส้นใบสีเขียว ท้องใบสีเขียวแกมเทา ดอก ออกที่ปลายยอด เป็นช่อกระจุกเหมือนออกเดี่ยวๆหรือรวมเป็นช่อเชิงลดหลั่น 2-7ช่อ มีดอกย่อย 60-65 ดอก เป็นดอกสมบูรณ์เพศและดอกแยกเพศ กลีบดอกสีเหลืองแกมส้ม ดอกมีกลิ่นเหม็น ผลแห้งไม่แตก เมล็ด สีน้ำตาลเข้มยาว 4-5 มม.มีขนสีขาว เป็นปุยตรงโคน
การใช้ประโยชน์--- พืชที่เก็บเกี่ยวจากป่าเพื่อใช้ในท้องถิ่นเป็นอาหารและยา - มันถูกเพาะปลูกสำหรับเป็นอาหารและยาใน ไนจีเรีย
-ใช้กิน ใบเนื้อเป็นเมือก - ปรุงและใช้ในซุปและซอส
-ใช้เป็นยา ทั้งต้นใช้เป็นยาบรรเทาอาการปวดและบวม เป็นยาพอกเนื้องอกที่เต้านม แก้โรคไฟลามทุ่ง น้ำคั้นใบเป็นยาอมกลั้วคอ แก้เจ็บคอ เหง้า ใช้เป็นยาแก้ช้ำใน ห้ามเลือด แก้โรคบิด รักษาแผลอักเสบ แก้มดลูกอักเสบ ขับประจำเดือน แก้ไข้ ใช้รากและใบสด ทาแก้แมลงกัดต่อย รักษาโรคเริม งูสวัด จะช่วยบรรเทาอาการปวดบวม ถอนพิษปวดแสบปวดร้อน โดยตำผสมกับแอลกอฮอล์เล็กน้อย พอกบริเวณที่เป็น สรรพคุณด้านสมุนไพรรากดับพิษกาฬ แก้ไข้เซื่องซึม กระสับกระส่าย แก้พิษอักเสบ แก้พิษแมงป่อง พิษตะขาบ ใบ ถอนพิษฝีละลอก ทำให้เย็น แก้ปวดแสบปวดร้อน ถอนพิษต่างๆ แก้อาการผิดสำแดง แก้เริม งูสวัด ไฟลามทุ่ง ยาพื้นบ้าน ใช้ใบสดตำผสมกับเหล้าขาวทาแก้ลมพิษ
-อื่น ๆ *พืชมีกลิ่นของชะมดและกล่าวกันว่ามีคุณสมบัติเช่นเดียวกับกระเทียมในการป้องกันจระเข้ (http://tropical.theferns.info/viewtropical.php?id=Gynura+pseudochina)*
ระยะออกดอก---กุมภาพันธ์-พฤษภาคม
ขยายพันธุ์---เมล็ด แยกหน่อ


ว่านมหาเมฆ/Curcuma aeruginosa


ชื่อวิทยาศาสตร์--- Curcuma aeruginosa Roxb.
ชื่อพ้อง ---No synonyms are recorded for this name.
ชื่อสามัญ--- Pink and blue ginger.
ชื่ออื่น ---ขมิ้นดำ ว่านขมิ้นดำ (เชียงใหม่), กระเจียวแดง, มหาเมฆ, อาวแดง, ขิงเนื้อดำ, ขิงดำ, ขิงสีน้ำเงิน ; [THAI: Kha min dam, kra-jeaw, waan mahaamek.];[CHINESE: Ngo suk, ezhu.];[INDONESIA: Temu hitam (Bahasa), Temu ireng (Jawa).];[MALAYALAM: Neelakua,Karimanjal.];[MALAYSIA: Temu Hitam, Temu ireng, Kunyit tebu.];[SPANISH: tulipán de Siam, Jengibre rosado y azul.];[VIETNAM: Nghê den, nghê xanh, ngai tím.].
ชื่อวงศ์--- ZINGIBERACEAE
ถิ่นกำเนิด--- ทวีปเอเซีย -เอเซียตะวันออกเฉียงใต้
เขตกระจายพันธุ์ ---อินเดีย บังคลาเทศ พม่า ไทย กัมพูชา เวียตนาม มาเลเซีย อินโดนีเซีย


พืชที่เกิดเฉพาะถิ่นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รวมถึงอนุทวีปอินเดีย, จีนตอนใต้, บังคลาเทศ, นิวกินี, ประเทศไทย, พม่า, มาเลเซีย, เวียดนาม, กัมพูชาและอินโดนีเซีย พบได้ที่ริมฝั่งแม่น้ำ ทุ่งหญ้า ริมป่าและป่าสักที่ระดับความสูง 400 ถึง 750 เมตร
ว่านมหาเมฆ เป็นพืชล้มลุกที่มีดอกสวยงามมาก มีเหง้าสะสมอาหารอยู่ใต้ดินยาว16 ซม. หนา3 ซม. ลำต้นเหนือดินสั้น ใบยาว30–80 ซม. × 9–20 ซม.รูปใบหอกแหลม เส้นกลางใบและโคนกาบสีม่วงแดงตั้งแต่โคนจนถึงปลายใบ ช่อดอกออกจากเหง้า ใบประดับตอนล่างสีเขียวอ่อนส่วนปลายสีเหลืองสดแยกเป็น3แฉก ตอนบนมีสีชมพูอมแดง ดอกแท้มีขนาดเล็กออกที่ซอกโคนใบประดับ สีเหลืองสด
การใช้ประโยชน์ ---พืชที่เก็บจากป่าเพื่อใช้ในยาแผนโบราณและเป็นอาหาร ในประเทศมาเลเซียปลูกเป็นพืชสมุนไพรและบางครั้งก็ปลูกเป็นไม้ประดับ
-ใช้กิน แป้งได้จากราก ส่วนใหญ่ใช้เป็นอาหารข้าวยากหมากแพงแทนมันสำปะหลังหรือข้าวโพดเลี้ยงสัตว์
-ใช้เป็นยาแสดงคุณสมบัติทางยาที่คล้ายกันกับขมิ้นดำแม้ว่าพวกมันจะอยู่ในสปีชีส์ต่างกันในสกุล Curcuma ทั้งสองถูกใช้เป็นยาเพื่อป้องกันการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง  มีประโยชน์สำหรับโรคหลอดลมอักเสบโรคหอบหืด โรคปอดบวมและช่วยบรรเทาอาการปวดฟัน ปวดท้องและโรคข้อเข่าเสื่อม นอกจากนี้ยังรักษาแผลในกระเพาะอาหารรักษาโรคบิดและยังใช้เป็นยาชูกำลังสำหรับวัณโรค ใช้ภายนอกเพื่อรักษาสภาพผิว เช่นผิวหนัง เลือดออกตามไรฟันและคัน-ใช้แบบดั้งเดิม หมอโบราณนิยมปลูกไว้เพื่อใช้เป็นยารักษาโรค หลายอย่าง แก้ปวดท้อง ลงท้อง ถ่ายท้อง จุกเสียด แน่นเฟ้อ ให้เอาหัวสดโขลกละเอียด ผมเหล้าขาวกรองเอาแต่น้ำดื่ม แก้บิด ป่วง ใช้น้ำปูนใสเป็นกระสายยา โขลกให้ละเอียด กินแต่น้ำ หรือกินหัวสด ช่วยบรรเทาอาการมดลูกเคลื่อน หย่อน ในประเทศอินโดนีเซียเหง้าเป็นส่วนประกอบหลักของยาต้มให้กับผู้หญิงหลังคลอด
-อื่น ๆๆ สีย้อมสามารถหาได้จากเหง้า
ระยะออกดอกและติดผล--- เมษายน - พฤษภาคม
ขยายพันธุ์---เมล็ด, เหง้า


ว่านหางจระเข้/Aloe vera

ชื่อวิทยาศาสตร์ --- Aloe vera (L.) Burm.f.
ชื่อพ้อง---Has 12 Synonyms

-Aloe barbadensis Mill. -Aloe maculata Forssk.
-Aloe chinensis Loudon -Aloe perfoliata var. barbadensis (Mill.) Aiton
-Aloe elongata Murray -Aloe rubescens DC.
-Aloe flava Pers. -Aloe variegata Forssk.
-Aloe indica Royle -Aloe vera var. littoralis J.Koenig ex Baker
-Aloe lanzae Tod. -Aloe vulgaris Lam.

ชื่อสามัญ---Aloe, Aloe vera, Aloin, Barbados aloe, Burn Plant, Curaçao aloe, Indian aloe, Jafferabad, Star cactus, Medicinal aloe, Mediterranean aloe, True aloe, West indian aloe.
ชื่ออื่น---ว่านหางจรเข้ (ทั่วไป), ว่านไฟไหม้ (ภาคเหนือ), หางตะเข้ (ภาคกลาง) ; [THAI: Waan faimai (Northern); waan hang chorakhe, haang takhe (Central).];[AFRIKAANS: Aalwee, Aalwyn.];[ASSAMESE: Chal-kuori/ Chalkonore.];[CHINESE: Lu-hui.];[EQUADOR: Sávila Penca.];[COLOMBIA: Acíbar, Alcíbar, Aloe, Aloes, Jugo de loe, Gomorresina aloe, Penca sábila.];[FRENCH: Aloes, Aloes vulgaire, Aloe vera.];[HINDI: Gheekumari.];[INDONESIA: Lidah buaya.];[JAPANESE: Aloe, Feroxaroe.];[MALAYALAM: Chotthu Kathalai.];[MALAYSIA: Lidah buaya (Peninsular); Bunga raja raja (Sabah).];[MARATHI: Khorpad.];[NEPALI: Kunhur.];[PHILIPPINES: Sabila (Tagalog); Dilang-buwaya (Bikol); Dilang-halo (Bisaya).];[PORTUGUESE: Babosa, Babosa-medicinal, Erva-babosa, Aloé, Aloé-dos-barbados, Erva-azebra.];[RUSSIA: Aloe, Aloe nastojascee, Aloe vera.];[SPANISH: Aciber, aloe, Flor do doserto, Loto do deserto, Linaloe, Maguey morado, Penca sabila, Pitera amarelo, Sabila do penca, savila, Toots amarelo, Zabila, Zabila dos tos.];[SRI LANKA: Komarika.];[TAMIL: Kathalai.];[TURKEY: Odagaci, Sarisabir, Sarysabyr.];[VIETNAM: Nha dam, Lo hoi, Cay aloe vera, Cay lo hoi, Cay nha dam.].
ชื่อวงศ์---XANTHORRHOEACEAE
ถิ่นกำเนิด---ทวีปแอฟริกา
เขตกระจายพันธุ์---แคริบเบียน, อเมริกาเหนือ, โอเชียเนีย, เอเชียและออสเตรเลีย                                                                มีถิ่นกำเนิดในแถบชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน,ในตอนใต้ของทวีปแอฟริกาและตะวันตกเฉียงใต้ของคาบสมุทรอาระเบีย ได้รับการปลูกกันอย่างแพร่หลาย  ในเขตร้อน กึ่งเขตร้อนและแห้งแล้งทั่วโลกในส่วนของทวีปแอฟริกา -พบได้ตอนใต้ของ Arabia, มาดากัสการ์หมู่เกาะอินเดียตะวันตกและบาฮามาส, ภาคใต้ของสหรัฐอเมริกา, เม็กซิโก, อเมริกากลาง, อารเบีย,ส่วนอื่น ๆ ของเอเชียและออสเตรเลีย
ไม้ล้มลุกขนาดเล็กอายุหลายปีสูง 0.50-1เมตร ลำต้นมีข้อและปล้องสั้น ใบเดี่ยวเรียงรอบต้น ขนาดกว้าง 5-12 ซม.ยาว 30-80 ซม.อวบน้ำสีเขียวอ่อนหรือสีเขียวเข้ม ภายในมีวุ้นใส ใต้ผิวสีเขียวมียางสีเหลือง ใบอ่อนมีประสีขาวดอกออกเป็นช่อแทงออกจากกลางต้น ดอกมีสีแดงอมสีเหลืองหรือส้ม ก้านช่อดอกยาว โคมเชื่อมติดกันเป็นหลอด ปลายแยกเป็น 6 แฉก เรียงเป็น 2 ชั้น เป็นรูปแตร ผลเป็นผลแห้งแตกได้
การใช้ประโยชน์---ใช้กิน นำมาทำเป็นอาหารจำพวกของหวาน เช่น น้ำวุ้นลอยแก้ว วุ้นแช่อิ่ม นำมาปั่นทำเป็นน้ำว่านหางจระเข้ เครื่องดื่มสุขภาพอาหารและเครื่องดื่มอื่น ๆ รวมทั้งชา
-ใช้เป็นยา ใช้ในการแพทย์แผนโบราณในการรักษาผิวหนัง ในยาอายุรเวทมันถูกเรียกว่า kathalai เช่นเดียวกับสารสกัดจากว่านหางจระเข้ตามตำราจีนใช้รากและเหง้าต้มกินแก้หนองในเช่นกัน แต่ก่อนนำมาใช้ต้องล้างน้ำยางสีเหลืองให้หมดก่อนเพราะจะทำให้ระคายเคือง พืช จำพวกว่านหางจระเข้หลายชนิด ผลิตพฤกษวัตถุ ที่เรียกว่า ยาดำ ลักษณะเป็นยางแข็งเป็นก้อนสีดำ ซึ่งเมื่อตัดใบว่านหางจระเข้ชนิดเหล่านี้ที่โคนใบ จะมียางสีน้ำตาลอมเหลืองไหลออกมาจากท่อน้ำยางที่ขอบใบ เมื่อเก็บน้ำยางเหล่านี้มารวมกันได้มากๆ อามาเคี่ยวบนไฟให้ข้นเหนียวแล้วผึ่งแดดให้แห้ง จะแข็งเป็นก้อนสีดำเรียกว่า ยาดำ ที่ชวาก็เรียก Jadam ยาดำที่คนไทยรู้จักใช้กันมาแต่โบราณนั้นมาจากทวีปแอฟริกา แพทย์โบราณมักใช้แทรกในตำรับยาหลายชนิด จนเกิดเป็นสำนวนที่ว่า "แทรกเป็นยาดำ" หมายความว่า แทรกหรือปนอยู่ทั่วไป -ตำรายาไทยว่า ยาดำมีรสเบื่อเหม็นขม มีสรรพคุณ ถ่ายลมเบื้องสูงให้ลงต่ำ กัดฟอกเสมหะและโลหิต ทำลายพรรดึก เป็นยาถ่ายระบาย มีสรรพคุณ ทางสมุนไพรที่นำมาใช้กันทั่วไป โดยผ่าครึ่งแนวขวางตัดเป็นวงกลม ทาปูนแดงที่วุ้น ปิดขมับแก้ปวดหัวดูดพิษ แก้แผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก ทาผิวหนังแก้ปวดแสบปวดร้อนจากรังสี หรือรูดวุ้นจากใบผสมสารส้ม กินแก้หนองใน-ในโคลัมเบียใช้รากเพื่อบรรเทาอาการจุกเสียด ใช้ใบในการรักษาความดันโลหิตสูงโรคไขข้อและแผล; ใช้ภายนอกในการรักษาสิวผิวหนังอักเสบระคายเคืองผิวหนัง- ในเปรูมีการนำใบสดมาใช้กับการอักเสบ (ภายนอก), การอักเสบในช่องคลอด, แผลในช่องคลอด, มะเร็งช่องคลอด, เพื่อกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผม, สำหรับการจัดแต่งผิวหนัง, ต้อกระจก, ตา, แผล, แผลไหม้, สำหรับการลดน้ำหนัก, โรคกระเพาะ ไอ, โรคหลอดลมอักเสบ, ไต, แผล, คอเลสเตอรอล, มะเร็ง, โรคหอบหืด, และน้ำดี
-อื่น ๆ ในปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ หลายรูปแบบ ที่ผลิตมาจากว่านหางจระเข้ เช่น เครื่องสำอาง โลชัน สบู่ แชมพู ครีมบำรุงผิว ครีมทาใต้ตา ครีมรักษาฝ้า กระ จุดด่างดำ ครีมทาแผลสดแผลพุพอง เจลว่านหางจระเข้ เจลทรีตเมนต์บำรุงผิวหน้า ฯลฯ
ความเชื่อ/พิธีกรรม---ในเอกวาดอร์ มักจะห้อยว่านหางจระเข้ ลงมาจากประตูเพื่อปัดเป่าวิญญาณชั่วและเพื่อปกป้องบ้านเรือน -ในเปรูใช้เพื่อความโชคดีและมีความสุข
ขยายพันธุ์---แบ่งหน่อที่พัฒนารอบ ๆ ด้านนอกของต้นแม่


ว่านชักมดลูก/Curcuma xanthorrhiza


ชื่อวิทยาศาสตร์---Curcuma xanthorrhiza Roxburgh.
ชื่อพ้อง ---Curcuma xanthorrhiza Roxb.
ชื่อสามัญ ---Temulawak, Java ginger, Javanese ginger,  Javanese turmeric.
ชื่ออื่น--- ว่านทรหด, ว่านชักมดลูก, [THAI: Wan Chuck Mod Luk.]; [CHINESE: Jiang huang, Shu gu jiang huang, Yin ni e zhu.];[INDONESIA:  Koneng gede (Sundanese); Temulawak (Javanese); Temu labak ( Madurese).];[MALAYSIA: Temu lawas, Temu kuning, Kuncur, Temu raya.];[TAMIL: Menjal.];[VIETNAM: Nghệ rễ vàng.];
ชื่อวงศ์ --- ZINGIBERACEAE
ถิ่นกำเนิด ---ทวีปเอเซีย-เอเซียตะวันออกเฉียงใต้
เขตกระจายพันธุ์ --- มาเลเซีย: อินโดนีเซีย, [Jawa, เกาะซุนดาน้อย (บาหลี), มาลูกุ (อัมบอน)] มาเลเซีย
มีต้นกำเนิดมาจากประเทศอินโดนีเซีย โดยเฉพาะในเกาะชวาและมีการเพาะปลูกแพร่กระจายไปยังหลายประเทศ ในมาเลเซีย , ไทยและฟิลิปปินส์ นอกเหนือจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สายพันธุ์อาจจะพบ ในประเทศจีน , อินโดจีน , บาร์เบโดส , อินเดีย , ญี่ปุ่น , เกาหลี ประเทศสหรัฐอเมริกาและบางประเทศในยุโรป พบที่ระดับความสูง 5-1500 เมตรจากระดับน้ำทะเล
มี ลำต้นใต้ดินเป็นเหง้าหรือแง่งเนื้อในสีขาวปนเหลืองเล็กน้อย กลิ่นฉุนร้อน ใบเดี่ยวรูปรีแกมใบหอก ขอบใบเรียบ แผ่นใบสีเขียวเข้มขนาดค่อนข้างใหญ่กว่าใบขมิ้น ดอกแบบช่อเชิงลด แบบดอกกระเจียว
การใช้ประโยชน์--- ใช้เป็นอาหารและยา เป็นเครื่องเทศอ่อน ๆ ที่ใช้ในเครื่องดื่มหลายชนิดเพื่อให้รสชาติและสี  นอกจากนี้ยังใช้สำหรับปรุงอาหารในอาหารอินโดนีเซีย และใช้อย่างกว้างขวางในอินเดีย ในแกงมีกลิ่นหอมฉุนและมีรสขม
-ใช้เป็นยา ตามตำราแผนโบราณ ชักมดลูกให้เข้าอู่ แก้มดลูกพิการ แก้ปวดมดลูก แก้ประจำเดือนมาไม่ปกติ ขับน้ำคาวปลา แก้ธาตุพิการ อาหารไม่ย่อย แก้ริดสีดวงทวาร แก้ไส้เลื่อน ปรุงยาแก้โรคกระเพาะอาหาร ลำไส้ แก้โรคมะเร็ง และฝีภายในต่าง ๆ สรรพคุณทางยา หัวรับประทานสดหรือโขลกให้ละเอียดเป็นผง ผสมน้ำผึ้งปั้นเป็นลูกลอนหรือชงกับน้ำร้อนดื่ม แก้โรคริดสีดวงทวารทั้งปวง แต่ต้องงดอาหารคาวจัดและมันจัด แก้โรคลำไส้ แก้ปวดมดลูก สำหรับรายที่แท้งบุตรใหม่ๆ ให้ใช้หัวดองกับสุรากลั่นหรือน้ำปูนใส หัวแห้งใช้ฝนสุรากลั่น40ดีกรี ดื่มแก้อาการปวดมดลูก แก้มดลูกพิการ ทำให้มดลูกเข้าอู่เร็ว แก้เป็นมุตกิดระดูขาว ใช้หัวย่างไฟดองสุราจิบหรือดื่ม แก้กระบังลม ใช้หัวดองสุราดื่มเป็นระยะเวลาสม่ำเสมอชั่วระยะหนึ่ง จะแก้กษัย ปัสสาวะขุ่นข้อง เบาหวาน เบาเหลือง เบาแดง ปัสสาวะขุ่นข้น รักษาอัมพาตมือตายเท้าตาย แก้โรคมะเร็ง
ขยายพันธุ์---เหง้า


ว่านสิงหโมรา/Cyrtosperma johnstonii

ชื่อวิทยาศาสตร์ --- Cyrtosperma johnstonii (N.E.Br.) N.E.Br..
ชื่อพ้อง --- Has 1 Synonyms
---Alocasia johnstonii N.E.Br.
ชื่อสามัญ---Arbi
ชื่ออื่น---ผักหนามแดง, ผักหนามฝรั่ง, ว่านสิงหโมรา,; [THAI: Waan Sing-ha-moh-raa]; [CHINESE: cǎi yè yù.];[SRI LANKA: Kalu kohila]
ชื่อวงศ์--- ARACEAE
ถิ่นกำเนิด--- เอเซีย แอฟริกา อเมริกาใต้
เขตกระจายพันธุ์--- เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และ หมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก
ถิ่นกำเนิดอินโดนีเซีย มาเลเซียไปยังหมู่เกาะแปซิฟิก มีกระจายพันธุ์ตามธรรมชาติในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และลินีเซีย
ไม้ ล้มลุกอายุหลายปีสูง50-80ซม. ใบเดี่ยวยาว60ซม.เรียงเวียนสลับรูปสามเหลี่ยม โคนใบรูปลูกศร ปลายใบแหลม แผ่นใบหนาสีเขียวเข้มเป็นมัน เส้นใบสีแดง ก้านใบยาว60ซม.สีขาวอมเขียวอ่อนมีลายขวางตามยาวสีดำ มีหนามแข็งทั่วไป ช่อดอกออกที่ซอกใบ เป็นช่อเชิงลดมีกาบ ใบประดับคล้ายกาบรองรับช่อดอกสีม่วงดำ ปลีดอกสีเหลืองนวล  ผลเป็นผลสดมีขนาดเล็ก ผลจะมีเนื้อนุ่มหุ้มอยู่ข้างนอก ส่วนภายในจะมีเปลือกหุ้มเมล็ดที่แข็งมาก
.-ใช้ประโยชน์---ใช้เป็นยา สรรพคุณในตำรายา เหง้าหัวใช้ฝนกับน้ำหรือฝนกับสุราแล้วนำไปปิดปากแผลที่แมงป่องหรือตะขาบกัดต่อยจะบรรเทาอาการปวดได้ ทั้งต้นดองกับสุราดื่มเป็นยาขับน้ำคาวปลา บำรุงโลหิต บำรุงธาตุ แก้โรคอยู่ไฟไม่ได้ หรือโดนเลือดลมกระทำเป็นเหตุให้ผอมแห้งแรงน้อย เป็น สมุนไพรสำหรับโรคสตรี ใช้กินสำหรับสตรีอยู่ไฟไม่ได้ โดยนำกาบมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆดองเหล้า ทำเป็นทิงเจอร์กินครั้งละครึ่งถ้วยชาก่อนอาหาร เป็นยาช่วยเจริญอาหารบำรุงโลหิต แก้โรคโลหิตจาง ซูบซีด หน้ามืดเป็นลมวิงเวียนบ่อยๆ โรคริดสีดวงทวาร และแก้โรคสันนิบาตหน้าเพลิง(โรคบาดทะยักปากมดลูก) บางอาจารย์ท่านเรียกว่า ว่านปอบ ใช้ปรุงยาดูดพิษต่างๆ ภายในร่างกายได้ทุกชนิด มีประสิทธิภาพสูงในการรักษาริดสีดวงทวาร ช่วยกำจัดสารพิษต่างๆ ออกจากร่างกาย
ขยายพันธุ์---เมล็ด,เหง้า
        

เสนียด/Justicia adhatoda

ชื่อวิทยาศาสตร์---Justicia adhatoda L.
ชื่อพ้อง---Has 7 Synonyms
---Adeloda serrata Raf.
---Adhatoda pubescens Moench
---Adhatoda vasica Nees
---Adhatoda zeylanica Medik.
---Dianthera latifolia Salisb.
---Ecbolium adhatoda (L.) Kuntze
---Gendarussa adhadota (L.) Steud.
ชื่อสามัญ---Malabar nut, Malabar-nut-tree, Lion’s muzzle, Stallion’s tooth, Vasaka.
ชื่ออื่น---โบราขาว (เชียงใหม่), หูหา (เลย), หูรา (นครปฐม, นครพนม), กุลาขาว บัวลาขาว บัวฮาขาว (ภาคเหนือ), โมรา เสนียดโมรา (ภาคกลาง), กระเหนียด (ภาคใต้), กระเนียด (ทั่วไป),;[ASSAMESE: Bahok-tita, Boga bahak.];[BENGALI: Basak.];[CHINESE: ya zui hua.];[HINDI: arus,arusa,pramadya,rus, sinh-parni,vajini,visauta.];[KANNADA: adusoge.];[MALAYALAM: Pothadalotakam, Vasica, Aadalodakam.];[MARATHI: adulasa.];[NEPALESE: asuro, kalo bhasaka.];[SANSKRIT: atarusa, pra-madya.];[TAMIL: acalai, atatotai,attucam,cimma-muki,cinkam,cuvatu,iratta-pittam,kattu-murunkai,pavattai,vacai,vacati, vaittiya-mata.];[TELUGU: addasaramu.].
ชื่อวงศ์--- ACANTHACEAE
ถิ่นกำเนิด---ทวีป เอเซีย
เขตกระจายพันธุ์---ศรีลังกา เนปาล อินเดีย ปากีสถาน อินโดนีเซีย มาเลเซีย จีน ปานามา อัฟกานิสถาน
มีถิ่นกำเนิดในเอเชีย เขตร้อน-อนุทวีปอินเดีย ( อัสสัม , บังคลาเทศ , อินเดีย , เนปาลและศรีลังกา ), ลาว พม่าและอัฟกานิสถาน เติบโตบนพื้นที่ราบของอินเดียและในเทือกเขาหิมาลัยตอนล่าง ที่ระดับความสูง 1,300 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล
ไม้ พุ่มสูง1.5-2.5เมตร ใบเดี่ยวเรียงตรงข้ามรูปไข่ กว้าง4-7ซม.ยาว8-15ซม. ดอกออกเป็นดอกช่อที่ปลายกิ่ง กลีบดอกสีขาว มีใบประดับสีเขียวหุ้มดอกย่อย ผลเป็นผลแห้งแตกได้ มี4เมล็ด
การใช้ประโยชน์---ใช้เป็นยา มีการใช้ยาแผนโบราณจำนวนมากในการแพทย์สิทธา , อายุรเวท , Homeopathyและระบบการแพทย์Unani  มีการใช้ในการแพทย์อินเดียโบราณนับเป็นพัน ๆ ปีที่ใช้ ใบ รากและดอก ในการรักษาความผิดปกติของระบบทางเดินหายใจเช่น  โรคหอบหืด โรคหลอดลมอักเสบ วัณโรค โรคปอดและหลอดลมอักเสบอื่น ๆ มีคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรียและต้านการอักเสบของบาดแผล มันถูกใช้เพื่อควบคุมเลือดออกทั้งภายในและภายนอกเช่นแผลในกระเพาะอาหาร, โรคริดสีดวงทวาร ในการแพทย์อายุรเวท ใช้สำหรับความหลากหลายของความผิดปกติรวมถึง โรคเรื้อน, เลือดผิดปกติ, ปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ, ไข้, อาเจียน, สูญเสียความจำ , ดีซ่าน, เนื้องอก, ปัญหาปาก, เจ็บตา, และโรคหนองใน รากและใบมีการใช้กันอย่างแพร่หลายในระบบอายุรเวท  Siddha และ Unani ระบบการแพทย์ของอินเดียรวมประเทศไทย ใช้สำหรับการรักษาโรคหลอดลมอักเสบ, โรคหอบหืด, ไข้และโรคดีซ่าน-ในภาคใต้ของอินเดียใบบดเป็นผงใช้ในการรักษาโรคมาลาเรีย นอกจากนี้ยังใช้เป็นยาพื้นบ้านเพื่อเร่งการคลอดในระหว่างคลอดบุตร-ตำรายาไทยใช้ใบห้ามเลือด รากเป็นยาบำรุงปอด รักษาวัณโรค
-ใช้อื่นๆ จากการทดลองพบว่าสามารถปกป้องเซลล์จากการทำลายของรังสี -สารสกัดจากใบใช้เป็นยาฆ่าแมลงและสารฆ่าเชื้อรา -ไม้ทำ ลูกปัดไม้ และใช้เป็นเชื้อเพลิงเป็นถ่านคุณภาพดี
ระยะออกดอก---กุมภาพันธ์ - เมษายน
การขยายพันธุ์---เมล็ด


สบู่ดำ/Jatropha Curcas

 

ชื่อวิทยาศาสตร์---Jatropha Curcas Linn.
ชื่อพ้อง---Has 16 synonyms

-Castiglionia lobata Ruiz & Pav. -Jatropha afrocurcas Pax
-Curcas adansonii Endl. -Jatropha condor Benth.
-Curcas curcas (L.) Britton & Millsp. -Jatropha edulis Sessé
-Curcas drastica Mart. -Jatropha yucatanensis Briq.
-Curcas indica A.Rich. -Manihot curcas (L.) Crantz
-Curcas lobata Splitg. ex Lanj. -Ricinoides americana Garsault
-Curcas purgans Medik. -Ricinus americanus Mill.
-Jatropha acerifolia Salisb. -Ricinus jarak Thunb.

ชื่อสามัญ---Black soap, Physic nut, Barbados nut, Poison nut, Bubble bush , Purging nut, Wild oil nut.
ชื่ออื่น---ละหุ่งรั้ว สบู่หัวเทศ สลอดป่า สลอดดำ สลอดใหญ่ สีหลอด (ภาคกลาง), มะเยา หมักเยา มะหัว มะหุ่งฮั้ว มะโห่ง หกเทก (ภาคเหนือ), มะเยา หมากเย่า สีหลอด (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ), หงส์เทศ มาเคาะ (ภาคใต้).];[ASSAMESE: Bongali-era,Salika Kund,Bongali Era,Bongali-botora,Bhenda,Bhot-era,Bongali-bhotora.];[BENGALI: Sada Verenda,Bherenda,Bagbherenda.];[CHINESE: ma feng shu];[CHAMORO: tuba-tuba];[FIJI: banidakai, fiki, manggele, maqele.];[FRENCH: French: fève d'enfer, grand pignon d'Inde];[HAWAII: kuikui Pākē, kuku‘ihi];[HINDI: Ratanjot, Jamal ghota, Jangli arandi.];[JAPANESE: Yatorofa kurukasu];[MALAYALAM: Katalavanakku,Kattamank.];[MALAYSIA: Pokok jarak.];[MARATHI: Mogli Erand,Maraharalu.];[MYANMAR: thin-baw-kyetsy, kyetsi-gyi, kyet-su-gyi, makman-yoo, siyo-kyetsu, thinbaw-kyetsu, tun-kong.];[NEPALESE: Baghandi, Bathi bal];[PHILIPPNES: Kirisol (Tag.).];[SANSKRIT: Darvanti.];[SPANISH: frailejón, piñón, piñón blanco, tártago];[TAMIL: Kattukkottai,Kattukkotai.];[TELUGU: Nepalam,Adavi Amudam.].
ชื่อวงศ์--- EUPHORBIACEAE
ถิ่นกำเนิด--- ทวีปอเมริกา
เขตกระจายพันธุ์---อเมริกา เม็กซิโก และ อเมริกากลาง เขตร้อนและ กึ่งเขตร้อน ทั่วโลก
พืชพื้นเมืองของภูมิภาคแคริบเบียน กระจายไปหลายประเทศรวมถึงยุโรป, แอฟริกา, อินเดีย, อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์และหมู่เกาะแปซิฟิกและออสเตรเลีย  เม็กซิโก เปรูและอาร์เจนตินา  ปลูกกันอย่างแพร่หลายในเขตร้อน  พบในพื้นที่แห้งแล้งตามฤดูกาล ทุ่งหญ้าสะวันนา (cerrado)พบที่ระดับความสูง 0-1600เมตร
เป็น ไม้พุ่มยืนต้นขนาดกลาง ความสูง 2-7 เมตร อายุยืนไม่น้อยกว่า 20 ปี ลำต้นและยอดคล้ายละหุ่ง แต่ไม่มีขน อยู่ในวงศ์ไม้ยางพารา เมื่อหักลำต้น ส่วนยอดหรือส่วนก้านใบจะมียางสีขาวขุ่นคล้ายน้ำนมไหลออกมา มีกลิ่นเหม็นเขียว ออกดอกเป็นช่อกระจุกที่ข้อส่วนปลายของยอด ดอกเล็กสีเหลืองมีกลิ่นหอม อ่อนๆ เมื่อติดผลแล้วมีสีเขียวอ่อนเกลี้ยงเกลาเป็นช่อพวงมีหลายผล เวลาสุกแก่จัดมีสีเหลืองคล้ายลูกจันทร์ รูปผลมีลักษณะทรงกลมขนาดปานกลาง ผล หนึ่งส่วนมากมี 3 พู โดยแต่ละพูทำหน้าที่ห่อหุ้มเมล็ดไว้ เมล็ดสีดำขนาดเล็กกว่าเมล็ดละหุ่งพันธุ์ลายขาวดำเล็กน้อย สีตรงปลายเมล็ดมีจุดสีขาวเล็กๆ ติดอยู่ เมื่อแกะเปลือกนอกสีดำออกจะเห็นเนื้อในสีขาว
ใช้ประโยชน์---ต้นไม้อเนกประสงค์ที่มีการใช้งานหลากหลายมากมันถูกปลูกฝังอย่างกว้างขวางในเขตร้อนเป็นอาหาร พืชสมุนไพร รั้วมีชีวิต พืชเชื้อเพลิงชีวภาพและน้ำมันที่ได้จากเมล็ด
-ใช้กิน หน่ออ่อน - สุก ใช้เป็นผัก ใบอ่อนสามารถกินได้อย่างปลอดภัยเมื่อนึ่งหรือตุ๋น ควรใช้ความระมัดระวัง - ดูหมายเหตุเกี่ยวกับความเป็นพิษ -ขี้เถ้าจากรากและกิ่งใช้เป็นเกลือปรุงอาหาร ถั่วที่ปรุงแล้วจะถูกกินในบางภูมิภาคของเม็กซิโกถึงแม้ว่าเมล็ดจะมีรสชาติที่ดี แต่ถ้ากินในปริมาณมากก็อาจเป็นพิษได้  เมล็ดที่อุดมด้วยน้ำมันและโปรตีนสามารถถูกนำไปใช้เป็นส่วนผสมสำหรับอาหารหรือสำหรับการผลิตน้ำมันและโปรตีนที่บริโภคได้   
-ใช้เป็นยา ต้นสบู่ดำเป็น สมุนไพรรักษาโรคได้หลายโรค เช่น ใช้น้ำยางใสป้ายริมฝีปากรักษาโรค ปากนกกระจอก รักษาแผลในปาก แก้อาการปวดฟัน นำมาผสมกับน้ำนมมารดาป้ายลิ้นขาวในเด็กก็หาย หยอดตาแดงหายได้เช่นกัน หรือผสมกับน้ำเจือจางเป็นยาระบาย ส่วน ลำต้นนำมาผ่าสับเป็นท่อนแช่น้ำอาบแก้โรคซางในเด็ก แก้โรคคันได้ เอาใบสบู่ดำห่อข้าวสุกแล้วหมกขี้เถ้าให้เด็กกินแก้ตาแฉะ หรือนำมาห่ออิฐร้อนนาบท้องในหญิงคลอดบุตรอยู่ไฟ
-อื่น ๆ ปัจจุบันมีการ สกัดน้ำมันจากเมล็ดสบู่ดำเพื่อนำไปผลิตเป็นไบโอดีเซล ทดแทนน้ำมันดีเซล
รู้จักอันตราย---ผลและเมล็ดมีสารHydrocyanic เมล็ดสบู่ดำมีสารพิษเรียกว่า CURCIN หากบริโภคแล้วทำให้เกิดอาการท้องเดินเหมือนสลอด
ขยายพันธุ์---เมล็ด ตอนกิ่ง ปักชำ


สบู่เลือด/Stephania pierrei

ชื่อวิทยาศาสตร์ ---Stephania pierrei Diels.[This name is unresolved.(http://www.theplantlist.org/tpl1.1/record/kew-2601322).]
ชื่อพ้อง---Stephania erecta Craib
ชื่อสามัญ---None (Not recorded).
ชื่ออื่น ---บัวกือ (เชียงใหม่, เพชรบุรี), บัวบก (กาญจนบุรี, นครราชสีมา), บัวเครือ (เพชรบูรณ์), เปล้าเลือดเครือ (ภาคเหนือ), โกฐหัวบัว (ภาคกลาง) [THAI: Sabu lueat, kot hua bua (Central);  Bua kue (Chiang Mai, Phetchaburi); Bua khruea (Phetchabun); Bua bok (Kanchanaburi, Nakhon Ratchasima);  Plao lueat khruea (Northern).];[CHINESE: han fang ji.];[VIETNAM: Bình vôi lá nhỏ, Cây đồng tiền.].
วงศ์ --- MENISPERMACEAE
ถิ่นกำเนิด---ทวีปเอเซีย
เขตกระจายพันธุ์---เอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ไทย ลาว


ไม้ ล้มลุกมีหัวใต้ดิน ใบเดี่ยวเรียงสลับ รูปเกือบกลม เส้นผ่านศูนย์กลาง3-6ซม.ก้านใบยาว2-3.5ซม.ติดที่กลางแผ่นใบดอกแบบข่อกระจุก ออกที่ซอกใบ ดอกย่อยแยกเพศ กลีบเลี้ยง4-5 กลีบ รูปขอบขนานสีเหลืองไม่มีกลีบดอก   ผลสดคล้ายทรงกลม แบน มีเมล็ด1เมล็ด รูปเกือกม้า
การใช้ประโยชน์--- พืชถูกเก็บเกี่ยวจากป่าเพื่อใช้ในท้องถิ่นเป็นยา
-ยา พื้นบ้านอีสานใช้ หัวต้มน้ำดื่มบำรุงกำลัง  ดองเหล้ากินบำรุงกำลัง บำรุงกำหนัด หรือตากแห้ง บด ปั้นเป็นลูกกลอน กินเป็นยาอายุวัฒนะ ช่วยเจริญอาหาร ใบตำพอกรักษาแผลเรื้อรัง
ตำรายาไทยใช้ดอกรักษาโรคเรื้อน รากหรือหัวแก้หืด  หัว แก้ปวดศรีษะ บำรุงร่างกาย แก้ปวดเมื่อย
ขยายพันธุ์---เมล็ด ปักชำ


ส้มเช้าบ่ายมัน/ Euphorbia neriifolia


ชื่อวิทยาศาสตร์ ---Euphorbia neriifolia L
ชื่อพ้อง---Has 6 Synonyms
---Elaeophorbia neriifolia (L.) A.Chev.
---Euphorbia edulis Lour.
---Euphorbia ligularia Roxb. ex Buch.-Ham.
---Euphorbia pentagona Blanco
---Euphorbia pentagona Noronha
---Tithymalus edulis (Lour.) H.Karst
ชื่อสามัญ---Hedge Euphorbia,Oleander Spurge, Indian Spurge Tree,  Dog's Tongue, Common Milk-hedge, Oleander-leaved euporbia
ชื่ออื่น---ส้มเช้า, ส้มเช้าบ่ายมัน (ทั่วไป) ; [THAI: som chao, som chao-bai man (General).];[ASSAMESE: Hiju ,Siju.];[BENGALI: Mansasij, Mansa-sij.];[GERMAN: Oleander-Wolfsmilch.];[HINDI: Danda thuar, Danda-thor, Gangi-chhu, Patton ki send, Thoh.];[KANNADA: Yelekalli.];[MALAYSIA: Godong entong, Sesudu, Sudu-sudu, Suru.];[MARATHI: Neya-dungra.];[MYANMAR: shazaung-myin-na, ta-zaung, zizaung.];[PHILIPPINES: Sorog-sorog, Soro-soro (Tag.); Sudusudu (Bis.); Karimbuaya (Ilk.).];[RUSSIA: Molochai olyeandrolistnyj.];[SANSKRIT: SANSKRIT: Gudha, Nagarika, Nanda, Nistrinsapatra, Patrasnuhi, Puttakarie, Sakhakanda, Samantadugdhaka, Seej, Sehunda.];[SINHALESE: Kola pathok, Kolapathok, Patak.];[SWEDISH: Oleandereuforbia.];[TAMIL: Ainkonakkalli,, Anaittarukkan, Aranciruku, Caciyami, Catakkai, Ilaikkaḷḷi, Nāi nākki, Sevi kaḷḷi.];[TELUGU: Aku-jemudu, Akujamuduv, Akujemudu, Akujimudu.];[TIBATAN:  si ri kha nda, snu-ha.].
ชื่อวงศ์---EUPHORBIACEAE
ถิ่นกำเนิด---ทวีปเอเซีย
เขตกระจายพันธุ์---จีน อินเดีย พม่า เวียตนาม มาเลเซีย นิวกินี
พืชเป็นที่รู้จักกันเฉพาะในการเพาะปลูกเติบโตได้ในพื้นดินที่แห้งแล้งทั่วไป
เป็นไม้พุ่มขนาดใหญ่มากชนิดหนึ่งซึ่งบางครั้งโตเป็นต้นไม้ขนาดเล็ก 2-6 เมตรหรือสูงกว่า ลำต้นและกิ่งที่แก่มีสีเทา ทรงกระบอก กิ่งก้านสาขาขนาดกลางบิดเล็กน้อยลำต้นไม่มีเนื้อไม้ เป็นสี่เหลี่ยม มีหนามคล้ายกระบองเพชรมียางสีขาว ตอนเช้ามีรสเปรี้ยวจัด ตอนบ่ายรสเปรี้ยวจะหายไป กลีบดอกสีขาวอมเหลือง ผลแคปซูลเส้นผ่านศูนย์กลาง 10-12 มม.แก่แตกเป็น3พู
การใช้ประโยชน์--- ใช้เป็นแหล่งอาหารและวัสดุในท้องถิ่น มีสรรพคุณทางยาที่หลากหลาย ได้รับการปลูกฝังเป็นไม้ประดับในภูมิภาคเขตร้อนอื่น ๆ
-ใบอ่อนกินเป็นผักสด
-ใช้เป็นยา สรรพคุณ และส่วนที่นำมาใช้เป็นยา ใบ โขลกตำพอกปิดฝี แก้ปวดถอนพิษดี ยาง เป็นยาระบายอ่อนๆ ขับพยาธิ แก้จุก แก้บวม ทำให้อาเจียน ใช้เบื่อปลา ในอายุรเวททั้งต้นใบและราก ใช้สำหรับ โรคหลอดลมอักเสบ, เนื้องอก, การขยายตัวของม้าม, อาการไอและโรคหวัด -ในเฟรนช์เกียนาใบจะถูกทำให้ร้อนบีบและน้ำเกลือที่ใช้สำหรับการหายใจดังเสียงฮืด ๆ ในเด็กทารก หวัดและปวดท้อง นอกจากนี้ในกายอานายังใช้สำหรับเล็บที่ติดเชื้อและเพื่อบรรเทาอาการปวดหู มีไข้อาการไอและโรคเบาหวาน เปลือกไม้นั้นถูกใช้เป็นยาระบายอย่างแรง รากถือว่าเป็นน้ำยาฆ่าเชื้อผสมกับพริกไทยดำ ใช้ในการรักษางูกัดทั้งภายในและภายนอก
-อื่น ๆ รากและใบมีรสเปรี้ยวใบ มีพิษ ใช้เป็นยาเบื่อปลา
รู้จักอันตราย--- น้ำยางของพืช Euphorbia มีพิษสูงและระคายเคืองต่อผิวหนังและดวงตา
ระยะออกดอกติดผล---กุมภาพันธ์ - มีนาคม
ขยายพันธุ์---เมล็ด ปักชำ

ส้มมือ/Citrus medica var. sarcodactylis


ชื่อวิทยาศาสตร์ ---Citrus medica L.
ชื่อพ้อง----Has 1 Synonyms
---Citrus medica L. var. sarcodactylis (Hoola van Nooten) Swingle.
ชื่อสามัญ ---Buddha’s- Hand , Buddha' Finger, Finger citron, Flesh-finger citron.
ชื่ออิ่น--- ส้มมือ (ทั่วไป), ส้มโอมือ, ส้มนิ้วพระหัตถ์ ; [ASSAMESE: Bakol-khowa-tenga,Jara tenga.];[BENGALI: Bara Nimbu,Begpura.]; [BURMESE: shouk-ta-kwah.]; [CHINESE: Foshou, Fo shou, Fo shou gan.]; [FRENCH: Cédrat digité, Main de Bouddha,Sarcodactyle.]; [GERMAN: Buddhafinger, Gefingerte Zitrone.]; [HEBREW: Etrog h'etzba'ot.]; [HINDI: Bijaura,Kutla,Bijaura,Bara nimbu,Bara Nimbu.];[INDONESIA: jeruk sukade, sitrun.]; [JAPANESE: Bushukan.];[KANNADA: Madela,Mahaphala,Rusakam,Rusaka.]; [KOREAN: bulsugam.]; [MALAYALAM: Gilam, Currynarenga, Rusakam, Matalanarakam.]; [MALAYSIA: limau susu.]; [MARATHI: Mahalungi.]; [NEPALI:(Buddha ko haat.]; [PAPUA NEW GUINEA: muli (Pidgin).]; [PHILIPPINES: bulid (Tagalog); sidris (Bisaya); sidras (Ilokano).]; [SANSKRIT: Matulunga,Mahaphala.]; [SPANISH: Limón mano de Buda.]; [SWEDISH: Fingercitron.] ;[TAMIL: Kadaranarathai, Marucahagam, Komattimadali, Kattu naarthai.]; [TELUGU: Lungamu.]; [VITNAMESE: Phật thủ, Cây PhậtThủ.].
ชื่อวงศ์ ---RUTACEAE
ถิ่นกำเนิด---ทวีปเอเซีย
เขตกระจายพันธุ์---เอเซียตะวันออกเฉียงใต้-  อินเดีย ศรีลังกา ไทย เวียดนาม จีน ญี่ปุ่นและไต้หวัน
ไม้ พุ่มสูง 2-4เมตร ลำต้นและกิ่งก้านเป็นเหลี่ยมสีม่วงมีหนามยาวและแข็ง ใบประกอบแบบมีใบย่อยใบเดียว เรียงสลับรูปไข่แกมรีหรือรูปใบหอกแกมรูปไข่ ปลายใบแหลมทู่หรือกลม โคนใบรูปลิ่มหรือกลม ขอบใบจักฟันเลื่อย ก้านใบสั้น ดอกสีขาวปนชมพู ออกเป็นช่อกระจะที่ซอกใบ มีกลิ่นหอมแรง ดอกสมบูรณ์เพศ หรือมีแต่เพศผู้ ผลรูปวงรีหรือรูปไข่ยาว 6-10 ซม. กว้าง 3 - 7 ซม. เปลือกหนา 0.2 ถึง 0.4 ซม. และมักจะมีรอยย่นหรือโค้งงอ ด้านบนกว้างขึ้นเล็กน้อยมักจะมีส่วนคล้ายนิ้ว 3 - 5 ฐานแคบเล็กน้อยและบางแห่งมีรอยแผลเป็นจากก้าน มีกลิ่นหอมของมะนาว
ผลเด่นมากเพราะเมื่อแก่จะมีลักษณะคล้ายนิ้วมือสีเหลืองหรือเหลืองส้ม พอแก่จะเห็นเป็นนิ้วชัดผิวของผลคล้ายเปลือกส้มโอ หนาๆฟ่าวๆ ไม่มีเนื้อและเมล็ด คงเคยได้ยิน ยาดมส้มโอมือกันมาบ้างใช้ส่วนของเปลือกทำ  แก้วิงเวียนศรีษะบำรุงหัวใจ
การใช้ประโยชน์--ในฐานะที่เป็นสมุนไพรจีนทั่วไปมันถูกมองว่า ฉุนขมและเปรี้ยวในรสชาติ คุณสมบัติ มันครอบคลุม 3 เส้นเมอริเดียนของตับม้ามและปอด หน้าที่ที่สำคัญที่สุดของมันคือการยืดตับเพื่อให้ราบเรียบและกลมกลืนกับกระเพาะอาหารเพื่อบรรเทาอาการปวด
ระยะออกดอก---พฤษภาคม-มิถุนายน
ขยายพันธุ์--- ตอนกิ่ง


สลัดไดป่า/Euphorbia antiquorum


ชื่อวิทยาศาสตร์ ---Euphorbia antiquorum L.
ชื่อพ้อง---Has 2 Synonyms
---Euphorbia arborescens Roxb.
---Tithymalus antiquorus (L.) Moench
ชื่อสามัญ---Malayan Spurge Tree, Antique spurge, Indian Spurge Tree, Fleshy spurge, Square milk hedge, Square Spurge, Triangular Spurge
ชื่ออื่น---กะลำพัก (นครราชสีมา), เคียะเหลี่ยม หงอนงู (แม่ฮ่องสอน), เคียะยา (ภาคเหนือ), สลัดไดป่า (ภาคกลาง),  [THAI: Ka lam pak,Sa lat dai, Sa lat dai paa.];[ASSAMESE: Bajbaran.];[BENGALI: Tiktasij.];[BURMESE: Sha soung pya thal.];[CHINESE: Huo yang le.[HINDI: Tridhara, Vajrakantaka, Tidhara-schnd, Tidhara-sehud.];[KANNDA: Kontekalli, Jadekalli, Mundakalli.];[MALAYALAM: Chathurakalli, Katakkalli, Palkalli, Chaturakkalli.];[MARATHI: Narasya.];[SANSKRIT: Snuhi, Vajra, Vajri, Snuhu, Vajrakantaka.];[SPANISH: Daluke, Euforbio malayo, Sesudu.];[TAMIL: Tiruvargalli, Chaturakalli, Kodiravam, Kantiravam, Kalli.];[TELUGU: Bommajemudu, Bontha Jemudu.].
ชื่อวงศ์--- EUPHORBIACEAE
ถิ่นกำเนิด--- ทวีปเอเซีย
เขตกระจายพันธุ์--- อนุทวีปอินเดีย พม่า ไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย


มักขึ้นตามภูเขาที่มีหินปูน หรือที่แห้งแล้งบนก้อนหิน หรือบนภูเขา  
ไม้ ต้นสูง 3-6เมตร ทุกส่วนมียางสีขาวขุ่นเหมือนน้ำนม ลำต้นแตกกิ่งก้านสาขามาก อวบน้ำ ตามแนวสันของกิ่งมีหนามแหลมแข็ง1คู่ ใบเดี่ยวขนาดเล็กอวบน้ำรูปไข่กลับ ขนาดกว้าง1-2ซม.ยาว3-5ซม. โคนใบสอบปลายใบกลมมนหรือเว้าเล็กน้อย ร่วงหลุดง่าย เลยดูเหมือนไม่มีใบ  ดอกออกเป็นช่อสั้นๆในแนวสันเหนือหนาม ใบประดับสีเหลือง รูปครึ่งวงกลมขนาดเล็กติดอยู่รอบๆดอก ดอกเพศผู้และเพศเมียอยู่ในช่อเดียวกัน ผลขนาดเล็กรูปค่อนข้างกลม ขนาด1-1.5ซม.สีเขียวเปลี่ยนเป็นแดงเข้มเทื่อสุก แห้งแตกได้มี3พู เมล็ดเส้นผ่านศูนย์กลาง 2 มม. สีน้ำตาล - เหลืองเรียบ
ใช้ประโยชน์--- ใช้เป็นยาตำรา ยาโบราณว่า ยางสลัดได มีรสร้อน เบื่อเมา ใช้ทาฆ่าพยาธิโรคผิวหนังต่างๆ ทากัดหูด ถ้าจะใช้ปรุงเป็นยาต้องประสะ (ฆ่าฤทธิ์) เสียก่อนจึงใช้ได้มักปรุงเป็นยาถ่ายอุจจาระ ถ่ายพิษเสมหะและโลหิต ถ่ายหัวริเสีดวงลำไส้และริดสีดวงทวารหนัก ขับโลหิตเน่าร้าย เป็นยาถ่ายอย่างแรง ยางนี้มีพิษพึงใช้ด้วยความระมัดระวัง ถ้าถูกผิวหนังจะทำให้เกิดการปวดแสบปวดร้อน อักเสบ บวมแดง หากเข้าตาอาจทำให้ตาบอดได้ ต้นที่แก่จัดจะเกิดแก่นแข็งและเมื่อต้นตายแก่นนี้เรียกว่า "กะลำพัก" มีกลิ่นหอม รสขม ตำรายาไทยใช้แก้ไข้ ยางมีพิษระคายเคืองผิวหนัง ใช้เป็นยากัดหูด ถ้าทำให้ยางสุกด้วยการนึ่ง แล้วตากให้แห้ง ใช้เป็นยาถ่ายอย่างแรง ควรระมัดระวังในการใช้
ระยะออกดอก/ติดผล--- ธันวาคม - มีนาคม
ขยายพันธุ์---เมล็ด ปักชำ


เสลดพังพอนตัวผู้/Barleria lupulina

ชื่อวิทยาศาสตร์ ---Barleria lupulina Lindl.
ชื่อพ้อง---Has 2 synonyms    
---Barleria macrostachya Bojer,
---Dicliptera spinosa Lodd. ex Nees
ชื่อสามัญ ---Hophead Philippine violet, Hop Headed Barleria, Hophead, Porcupine flower, Philippine violet.
ชื่ออื่น--- เสลดพังพอนตัวผู้ พิมเสนต้น (ภาคกลาง), ก้านชั่ง (ภาคตะวันตกเฉียงเหนือ), คันชั่ง (ตาก), ชองระอา ช้องละอา ทองระอา ลิ้นงูเห่า (กรุงเทพฯ), อังกาบ อังกาบเมือง (ไทย); [Thailand: phimsen ton; salet phangphon, kan chang, chong ra ar, thong ra ar.]; [AUSTRALIA: hophead barleria.];[BENGALI: Vishalyakarani.];[CHINESE: Hua Je Jia Du Juan.];[HAITI: barré bolé; barré volé];[INDIA: cem-mulli; kanta bishalyakarani;];[INDONESIA: landik; sujen trus (Java); Jarong Landak.];[MALAYSIA: Bisa Ular Jantan, Penawar Seribu Bisa.];[SPANISH: lengua de culebra];[VENEZUELA: lengua de culebra.].
ชื่อวงศ์---ACANTHACEAE
ถิ่นกำเนิด---ทวีปเอเซีย
เขตกระจายพันธุ์---เอเซียตะวันออกเฉียงใต้ แอฟริกา
มีถิ่นกำเนิดใน มอริเชียสและอินเดียตะวันออกและตอนนี้สามารถพบได้ในพื้นที่เขตร้อนและกึ่งเขตร้อนของโลก พบได้ตามถนนและบริเวณที่ถูกรบกวนที่ระดับความสูงถึง 300 ม.
เป็น ไม้พุ่มอายุหลายปีสูงประมาณ 1-1.5 เมตร ใบรูปขอบขนาน 3-9.5 ซม. ปลายใบเขียวเข้มเป็นมันเส้นกลางใบสีแดง ช่อดอกออกที่ปลายยอด มีใบประดับซ้อนทับกันยาว 9 ซมกว้าง1.2ซม.สีม่วงแต่งแต้มสีม่วงที่ด้านหลัง ผลไม้แคปซูลรูปไข่ 2 เมล็ด  ชอบดินร่วนระบายน้ำดีแสงแดดตลอดวันร่มรำไร
ใช้ ประโยขน์---พืชที่เก็บเกี่ยวจากป่าเพื่อใช้ในท้องถิ่นเป็นยา
-ใช้เป็นยาสมุนไพร เอาใบสด1กำมือตำให้ละเอียดคั้นเอาแต่น้ำหรือผสมเหล้าขาว เล็กน้อยใช้ทาบริเวณที่ถูกกัดต่อย ช่วยถอนพิษงู รักษาฝีและไข้มาลาเรียได้
-อื่น ๆ นิยม ปลูกเป็นไม้ประดับเพราะเชื่อว่าหนามของต้นจะป้องกันสัตว์พิษบางชนิด
ความเชื่อ/พิธีกรรม---ว่านต้นนี้หลายตำราระบุว่าเป็นชองระอาซึ่งเป็นพืชอีกต้นหนึ่งที่ใช้ทำ เครื่องรางของขลัง แก้พิษสารพัด และยังช่วยป้องกันภูตผี ไสยศาสตร์และยาสั่งได้ ทำเป็นปลัดขิกพกติดตัวเพื่อใช้ฝนกินและทายามฉุกเฉิน ต่อมาภายหลังหายากจึงใช้กาฝากมะม่วงแทน แต่ไม่มีสรรพคุณทางยา แค่เป็นของขลัง
การขยายพันธุ์---เมล็ด


เสลดพังพอนตัวเมีย(พญายอ)/Clinacanthus nutans

ชื่อวิทยาศาสตร์ ---Clinacanthus nutans (Burm.f.) Lindau.
ชื่อพ้อง---Has 3 synonyms
__Clinacanthus burmanni Nees,
---Clinacanthus siamensis Bremek,
---Justicia nutans Burm. f.
ชื่อสามัญ---Snake Plant, Sabah Snake Grass.
ชื่ออื่น---ลิ้นมังกร ผักมันไก่ ผักลิ้นเขียด (เชียงใหม่), พญาปล้องคำ (ลำปาง), เสลดพังพอนตัวเมีย (พิษณุโลก), พญาปล้องดำ พญาปล้องทอง (ภาคกลาง), ลิ้นงูเห่า พญายอ (ทั่วไป) ; [THAI: Saled Pangpon Tua Mea (Saliva of the female mongoose), Phaya-Yor];[CHINESE: Yōu dùn cǎo, shābā shé cǎo, qīng jiàn.];[MALAYSIA: Belalai gajah, Daun kalingsir.];[INDONESIA: Ki Tajam (Sunda); Dandang Gendis (Java); Gendis (Central Java).];[VIETNAM: Cây xương khỉ, cây mảnh cọng, cây lá cầm.].
ชื่อวงศ์---ACANTHACEAE
ถิ่นกำเนิด---ทวีปเอเซีย
เขตกระจายพันธุ์---จีน ไทย เวีบตนาม มาเลเซีย อินโดนีเซีย
มีถิ่นกำเนิดในภูมิภาคเขตร้อนของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยเฉพาะประเทศไทยและจีนตอนใต้และมีการใช้กันอย่างแพร่หลายในประเทศไทย มาเลเซีย จีน บรูไนและอินโดนีเซีย
เป็น ไม้รอเลื้อยอายุหลายปี สามารถเจริญเติบโตได้สูงถึง 1-3 เมตร ใบรูปใบหอก 5-11 X 1-4 ซม ก้านใบยาว 5-7 ซม.ช่อดอกออกที่ปลายยอดแบบช่อเชิงลดมีประมาณ 5-8 ดอก นิยมใช้เป็นไม้ประดับชอบดินร่วนระบายน้ำดีแสงแดดตลอดวันถึงครึ่งวัน หมั่นตัดแต่งเสมอ จะเจริญเติบโตเป็นพุ่มสวยงาม
ใช้ประโยชน์---พืช ถูกเก็บเกี่ยวจากป่าเพื่อใช้เป็นยาในท้องถิ่นพืชทั้งหมดจะใช้ในการควบคุมการทำงานของประจำเดือน; ลดอาการบวม; ลดเส้นเลือดอุดตัน บรรเทาอาการปวด  รักษาอาการบาดเจ็บจากการแตกหักของกระดูก อาการฟกช้ำ โรคโลหิตจาง โรคดีซ่าน โรคไขข้อ และโรคตา- สมุนไพรนี้มีชื่อเสียงอย่างมากในประเทศไทยซึ่งเป็นที่รู้จักกันในท้องถิ่น ว่าพญายอหรือพญาปล้องทอง สมุนไพรนี้ยังได้รับความนิยมในประเทศมาเลเซียซึ่งเป็นที่รู้จักกันทั่วไปว่าเป็น Belalai Gajah หรือหญ้างูซาบาห์  ใบสดของสมุนไพรนี้มีการใช้แบบดั้งเดิมในการรักษาผื่นผิวหนังและกัดที่เกิดจากแมลงและงู นอกจากนี้สารสกัดจากเอธานอลิกจากใบของ C. nutans ยังถูกนำมาใช้ทางการแพทย์ในรูปแบบของครีมทาเพื่อรักษาโรคเริมที่อวัยวะเพศและโรคเริมงูสวัด  
มีสรรพคุณทางสมุนไพร ใบรสจืดเย็น ใช้ดับพิษไฟลวก น้ำร้อนลวก เอาใบสด1กำมือกับดินประสิวเล็กน้อยตำให้ละเอียด คั้นเอาแต่น้ำ หรือผสมกับหล้าขาวเล็กน้อย ใช้ทาบริเวณที่มีอาการแพ้ ผื่นคัน ทั้งยังรักษาโรคงูสวัด,เริม และไฟลามทุ่ง ได้ดีมาก โดยใช้ใบแก่สด 10-30 ใบล้างให้สะอาดนำมาโขลกให้ละเอียดผสมกับสุรากลั่นหรือแอลกอฮอล์พอให้ท่วม ปิดฝาแช่ปล่อยไว้นาน 1 สัปดาห์ หมั่นคนยาให้ทั่วทุกวัน กรองเอาน้ำยาเก็บใส่ในภา๙นะที่สะอาด ใช้ทาบริเวณที่ปวด บวม หรือถ้าหากเป็นมาก ให้ใช้กากพอกบริเวณที่เป็นได้ด้วย วันละ2-3ครั้ง หรือจนกว่าจะหาย รากรสจืดเย็น ฝนทาแก้พิษงู ตะขาบ แมงป่อง เชื่อว่าแก้พิษงูได้ดีกว่าว่านทั้งมวล จะหายเร็วกว่าเสลดพังพอนตัวผู้-ในอินโดนีเซียพืชใช้รักษาโรคบิด โรคเบาหวานโดยการต้มใบสด 7-21 ใบในน้ำ 2 แก้วจนกระทั่งระดับน้ำลดลงเหลือ 1 แก้วและให้ 2 ครั้งต่อวัน
การขยายพันธุ์---เมล็ด ปักชำกิ่ง


สะระแหน่/Mentha villosa Huds. 

ชื่อวิทยาศาสตร์ ---Mentha × villosa Huds (pro sp.) [spicata × suaveolens]
ชื่อพ้อง---Has 57 Synonyms
---Mentha × cordifolia Opiz ex Fresen.
---Mentha x rotundifolia ( L. ) HUDs M. × villosa
---(more)
ชื่อสามัญ--- Kitchen Mint, Marsh Min, Foxtail Mint, Cuban Mint, Mojito Mint, Woolly mint, Apple-mint, Apple Mint, Bowles' Mint.
ชื่ออื่น---หอมด่วน หอมเดือน (ภาคเหนือ), ขะแยะ (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ), สะระแหน่สวน (ภาคกลาง), มักเงาะ สะแน่ (ภาคใต้) ; [THAI: Hom duan, kha yae, sara- hnae.];[CZECH: máta huňatá.];[GERMAN: Apfel-Minze, Breitblättrige Minze, Zottige Minze, Hain-Minze.];[LITHUANIA: Mėta, gauruotoji.];[PORTUGUESE: Hortelã-miúda (Brazil).];[SPANISH: Herba buena.];
ชื่อวงศ์--- LABIATAE(LAMIACEAE)
ถิ่นกำเนิด---ทวีปยุโรป
เขตกระจายพันธุ์ ---เขตอบอุ่นทั่วโลก
มีถิ่นกำเนิดในแถบทวีปยุโรปตอนใต้และในแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
เป็น ลูกผสมของMentha spicata L. และMentha suaveolens Ehrhไม้ ล้มลุกเลื้อยแผ่ไปตามดิน ลำต้นสี่เหลี่ยม สีเขียวแกมม่วงน้ำตาลแตกกิ่งก้านมาก ใบเดี่ยวเรียงตรงข้ามรูปวงรีผิวใบย่นขอบใบหยักฟันเลื่อยมีกลิ่นเฉพาะ ช่อดอกมีความหนาแน่นสูงถึง 9 ซม. มีขนยาวกลีบเลี้ยงตัดลึกดอกไม้สีชมพูอ่อน
ใช้ประโยชน์---ใช้กิน นิยมนำมาใช้ในการปรุงอาหารหรือกินสด  ใช้เป็นเครื่องปรุงในสลัดหรืออาหารปรุง เป็นสายพันธุ์หลักที่ใช้ทำซอสมินต์ ชาสมุนไพร ทำจากใบสดหรือแห้ง
-ใช้เป็นยา ตำรายาไทยใช้ทั้งต้นเป็นยาขับลม แก้ปวดท้อง จุกเสียดแน่นเฟ้อ ขยี้ทาขมับแก้ปวดหัว ดมแก้ลม ทาแก้ฟกบวม
ขยายพันธุ์---เมล็ด ปักชำ


สะระแหน่ญี่ปุ่น/Mentha arvensis var. piperascens


ชื่อวิทยาศาสตร์ --- Mentha canadensis L.
ชื่อพ้อง---Mentha arvensis var. piperascens Malinv. ex Holmes
ชื่อสามัญ---Japanese Mint, American corn mint, American wild mint, Corn mint, Field mint.
ชื่ออื่น---สะระแหน่ญี่ปุ่น สะระแหน่ญวน, ต้นน้ำมันหม่อง (กรุงเทพฯ), สะระแหน่ ; [Thailand: mint indonesia (Bangkok).];[CAMBODIA: Chi poho.];[CHINESE: Bo he.];[GERMAN: Japanische Minze.];[INDONESIA: Daun poko (general), Bijanggut (Sundanese), Janggot (Javanese).];[JAPANESE: Hakka.];[KOREA: Bagha.];[PHILIPPINES: Polios (Sp, Tagalog).];[SPANISH: Menta japonesa.];[SWEDISH: Japanmynta.];[VIETNAM: Bạc hà, Bạc hà nam.]
ชื่อวงศ์---LABIATAE(LAMIACEAE)
ถิ่นกำเนิด---ทวีปยุโรป  ทวีปเอเซียตะวันออก
เขตกระจายพันธุ์---จีน, ญี่ปุ่น, เกาหลี, อินเดีย, ศรีลังกา, พม่า, ไทย, กัมพูชา, ลาว, เวียดนาม, มาเลเซีย, อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์ อเมริกาเหนือ
ถิ่นกำเนิดในยุโรป เอเชียเหนือและเอเชียกลางและมีการเพาะปลูกในหลายส่วนของโลก เปิดตัวในภาคเหนือของประเทศไทยเมื่อปี พ.ศ. 2516 มีการปลูกเชิงพาณิชย์ในจังหวัดน่านเพื่อสกัดน้ำมันมินต์
ไม้ ล้มลุกสูงได้ถึง 60 ซม. ลำต้นสี่เหลี่ยมเลื้อยแผ่ไปตามดิน ทุกส่วนมีกลิ่นเฉพาะ ใบเดี่ยวเรียงตรงข้ามรูปไข่หรือใบหอก ขอบใบหยักฟันเลื่อยห่าง ดอกช่อสีม่วงผลเป็นผลแห้งมี4ผลย่อยขนาดเล็ก
ข้อกำหนดสิ่งแวดล้อม---ตำแหน่งที่มีแดดจัดนั้นดีที่สุดสำหรับการผลิตน้ำมันหอมระเหย แต่พืชก็ประสบความสำเร็จในที่ร่มบางส่วน สายพันธุ์นี้ทนต่อสภาพอากาศที่แห้งแล้งกว่าสมาชิกคนอื่น ๆ ในสกุล ชอบดินที่มีกรดเล็กน้อย เจริญเติบโตได้ดีในดินเหนียว ชอบ pH ในช่วง 5.5 - 6.4, ทนได้ 4.5 - 8.3
ใช้ประโยชน์--- มีกลิ่นหอมมากและใช้เป็นเครื่องปรุงรส ปลูกในสวนบ้านและในเชิงพาณิชย์เป็นพืชสมุนไพรและเป็นแหล่งที่มาของน้ำมันหอมระเหย และยา
-ใช้กิน ใบ - ดิบหรือปรุงสุก ใช้เป็นเครื่องปรุงในสลัดหรืออาหาร ชาสมุนไพรทำจากใบสดหรือแห้ง น้ำมันหอมระเหยจากพืชใช้เป็นเครื่องปรุงในขนมและเครื่องดื่ม ใบมีน้ำมันหอมระเหยประมาณ 0.2%
-ใช้เป็นยา น้ำมันหอมระเหยที่กลั่นจากต้นและใบ เรียกน้ำมันสะระแหน่ญี่ปุ่น มีส่วนประกอบหลักเป็นสารเมนทอล ใช้น้ำมันสะระแหน่ญี่ปุ่น เป็นยาขับลม  ส่วนเมนทอลใช้เป็นยาภายนอกบรรเทาอาการปวด ชาที่ทำจากใบมีการใช้ในการรักษาไข้, ปวดหัว, โรคทางเดินอาหารและโรคเล็ก ๆ น้อย ๆ -ใบเป็นยาที่ใช้รักษามะเร็งกระเพาะอาหาร
-อื่น ๆ น้ำมันหอมระเหยสกัดจากใบ น้ำมันนี้มีเมนทอล 60 - 85% ใช้เป็นสารปรุงแต่งในผลิตภัณฑ์ยา เป็นเครื่องปรุงในผลิตภัณฑ์ เช่น ยาสีฟัน อาหารต่าง ๆ บุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และเป็นน้ำหอม ในผลิตภัณฑ์ เช่นสบู่ โลชั่นและโคโลญ พืชใช้เป็นยาขับไล่แมลงและหนู ซึ่งหนูจะไม่ชอบกลิ่นมินต์มาก ดังนั้นพืชจึงถูกนำมาใช้ในบ้าน ในยุ้งฉาง เพื่อป้องกันไม่ให้หนูและแมลงออกมารบกวน
การขยายพันธุ์---เมล็ด ปักชำ

สามสิบ/Asparagus racemosus

 

ชื่อวิทยาศาสตร์ ---Asparagus racemosus Willd.
ชื่อพ้อง---Has 26 Synonyms
---Asparagus rigidulus Nakai
---Protasparagus racemosus (Willd.) Oberm
---(more)
ชื่อสามัญ ---Indian Asparagus, Asparagus-fern, Wild Asparagus, Asparagus roots, Arkebawk, Satawari, Hundred Roots, Satavar, Shatavari, Shatamull.
ชื่ออื่น ---สามร้อยราก (กาญจนบุรี), ผักหนาม (นครราชสีมา), ผักชีช้าง (หนองคาย), จ๋วงเครือ (ภาคเหนือ), เตอสีเบาะ (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน), พอควายเมะ (กะเหรี่ยง-เชียงใหม่), ชีช้าง, ผักชีช้าง, จั่นดิน, ม้าสามต๋อน, สามสิบ, ว่านรากสามสิบ, ว่านสามสิบ, ว่านสามร้อยราก, สามร้อยผัว, สาวร้อยผัว, ศตาวรี ; [ASSAMESE: Shatmul/ Satamuli.];[AYURVEDA: Shatavari.];[HINDI: Satavar,Satawari.];[SANSKRIT: Shatavari, Shatamuli.];
ชื่อวงศ์ ---ASPARAGACEAE
ถิ่นกำเนิด ---ทวีปเอเชีย-เอเซียตะวันออกเฉียงใต้
เขตกระจายพันธุ์ ---แอฟริกา จีน อินโดจีน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ออสเตรเลีย


แพร่หลายตั้งแต่แอฟริกาเขตร้อนจนถึงอารเบีย เอเชียเขตร้อน ไปจนถึงออสเตรเลียตอนเหนือ พบที่ระดับความสูง  1,300-1,400 เมตร ในเทือกเขาหิมาลัยทางตะวันออกจากแคชเมียร์ ตามป่า ตามลำธารหรือหุบเขาที่ระดับความสูง 2,100 - 2,200 เมตรในภาคตะวันตกของจีน
ไม้พุ่มรอเลื้อยมีเหง้าใต้ดินคล้ายรากกระชายยาว 10- 30 ซม. และหนา 0.1 - 0.5 ซม. เรียวที่ปลายหัวท้ายสีครีม ลำต้นบนดินเลื้อยพัน มีหนามแหลม เลื้อยได้ไกล1-2เมตร ใบเดี่ยวเรียงสลับ ลดรูปลงเป็นเส้นแคบยาว กว้าง 0.5-1 มม.ยาว 10-36มม. ดอกช่อออกที่ปลายกิ่งหรือซอกใบ กลีบรวมสีขาว ผลสดรูปค่อนข้างกลมมี3พู ผลอ่อนสีเขียว ผลแก่ สีดำหรือม่วงดำ
การใช้ประโยชน์---ใช้กิน หน่ออ่อน - กินเป็นผัก บางท้องถิ่นนำรากสะสมอาหารมาแช่อิ่มกินเป็นขนม
-ใช้เแนยา เป็นสมุนไพรที่สำคัญที่สุดในการแพทย์อายุรเวทกล่าวกันว่าเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในฐานะสมุนไพรสำหรับผู้หญิง นอกจากนั้นยังใช้เป็นอาหาร หน่ออ่อนกินเหมือนหน่อไม้ฝรั่งและรากสะสมอาหารที่มีรสหวาน
-สามสิบ มีชื่อในภาษาสันสกฤตว่า ศตาวรี (Shatavari) ชื่อ "shatawari" หมายถึง "Curer of a hundred diseases" (shatum: "hundred"; vari: "curer")แปลตามนี้น่าจะเป็น ผู้รักษาร้อยโรค แต่ในบางตำรา หมายถึง ต้นไม้ที่มีรากหนึ่งร้อยราก และบางตำราหมายถึง ผู้หญิงที่มีร้อยสามี เป็นสมุนไพรที่เคยกล่าวถึงในคัมภีร์พระเวท ที่มีมาก่อนตำราอายุรเวท ถือได้ว่าเป็นยาบำรุงสำหรับสตรีที่ใช้กันมานานหลายพันปีแล้ว เพราะช่วยให้ผู้หญิงดูสวยและสาวตลอดเวลา คล้ายๆสาวสองพันปี นอกจากนี้ยังช่วยแก้ภาวะประจำเดือนไม่ปกติ ปวดประจำเดือน มีบุตรยาก ตกขาว เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ หมดประจำเดือน ช่วยบำรุงน้ำนม บำรุงครรภ์ ป้องกันการแท้งหรือจะใช้กับผู้ชายเพื่อเพิ่มพลังทางเพศ และ ยังมีสรรพคุณอื่นอีกมากมาย เช่นใช้เป็นยาแก้ไอ ยารักษาโรคกระเพาะ ยาแก้บิด แก้ไข้ แก้อักเสบ ที่ใช้กันอย่างกว้างขวางในอินเดียส่วน ในเมืองไทยคาดว่าได้ข้อมูลมาจากชาวอินเดียเช่นกัน และเรียกกันว่า"สาวร้อยผัว" โดยนำรากมาต้มกิน หรือตากแห้งบดเป็นผง ปั้นเป็นลูกกลอนกินกับน้ำผึ้ง ตำรายาไทยใช้รากซึ่งมีรสเย็น หวานชุ่ม บำรุงเด็กในครรภ์ บำรุงตับปอด บำรุงกำลัง ตำรายาพื้นบ้านใช้ทั้งต้นหรือรากต้มน้ำดื่ม แก้ตกเลือด และโรคคอพอก
-อื่น ๆ  ในภาคอีสานอิสานของประเทศไทย นำรากมาทุบหรือฝนกับน้ำทำเป็นน้ำสบู่ซักเสื่อผ้าได้อีกด้วย
ระยะออกดอก/ ติดผล---มิถุนายน - กรกฎาคม/สิงหาคม - กันยายน
ขยายพันธุ์---เมล็ด แยกหน่อ


สีเสียด/Acacia catechu


ชื่อวิทยาศาสตร์ ---Acacia catechu (L.f.) Willd.
ชื่อพ้อง ---Has 7 Synonyms
---Acacia catechu (L.) Willd., Oliv.
---Acacia catechu (L.f.) Willd. var. catechuoides (Roxb.)Prain
---Acacia catechuoides (Roxb.) Benth.
---Acacia sundra (Roxb.) Bedd.
---Acacia wallichiana DC.
---Mimosa catechu L.f.
---Mimosa catechuoides Roxb
ชื่อสามัญ --- Catechu tree , Cutch Tree, Black catechu, Black cutch, Cashoo, Wadalee gum.
ชื่ออื่น--- สีเสียดเหลือง (เชียงใหม่), สีเสียดแก่น (ราชบุรี), สีเสียด ขี้เสียด (ภาคเหนือ), สีเสียดเหนือ (ภาคกลาง), สะเจ (เงี้ยว-แม่ฮ่องสอน), สีเสียดลาว (ลาว), สีเสียดหลวง, สีเสียดไทย ; [THAI:sa-che;seesiat; seesiat nuae.];[ASSAMESE: Kher.];[BENGALI: Khayer.];[FRENCH: Acacie au cachou.];[HINDI: Khair,khayar, Pathi-drum, Payor, Priya-sakh, Dant-dhavan, Madan.];[KANNADA: Kaggali, Kadu, Kadira, Kaachu, Kaggli.];[MALAYALAM: Karingali, Karintaali, Kadiram, Cutch tree.];[MALAYSIA: Kachu.];[MARATHI: Khair, Yajnavrksa, Khayar.];[MYANMAR: sha.];[NEPALI: Khayar.];[SANSKRIT:Khadira,Gayatri.];[TAMIL:Kacu-k-katti,Cenkarungali,Karai.];[TELUGU: Khadiramu, Kaviricandra, Nallacandra.];[TRADE NAME:Cutch tree,Kath Katha,Khersal,Pegu cutch.];[UNANI: Safed Kattha]; [VIETNAM: Keo cao].
ชื่อวงศ์---FABACEAE (LEGUMINOSAE - MIMOSOIDEAE)
ถิ่นกำเนิด---ทวีปเอเซีย
เขตกระจายพันธุ์---อินเดีย ปากีสถาน พม่า
มีถิ่นกำเนิดในเทือกเขาหิมาลัย ตอนใต้ของปากีสถาน  ตอนเหนือของอินเดียและเนปาล  ทางตะวันออกไปยังพม่าและไทย  มีการเพาะปลูกในอินโดนีเซีย (ชวา), ไทย, พม่าและอินเดีย
เกิดขึ้นตามธรรมชาติในป่าเบญจพรรณและป่าดิบเขาที่ระดับความสูง900-1200เมตร
ไม้ต้นผลัดใบ  ขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ สูง 15 - 25 เมตร  เปลือก  สีเทาคล้ำ แตกเป็นสะเก็ดบาง เรือนยอดเป็น รูปกรวย ต่ำ ๆ ตามกิ่งก้านมีหนามโค้งเป็นตะขอ เป็นคู่ อยู่ทั่วไป ดอกเล็กออกเป็นช่อแบบหางกระรอก   สีเหลืองกลิ่นหอมอ่อน ๆ ยาวประมาณ 10 - 12 ซม. ผล  เป็นฝักแบน  บาง  แคบ สีน้ำตาล 5-10 x 1-1.6 ซม. เมื่อแก่จะแตกออกเป็นสองซีก เมล็ด 3 - 7 เมล็ด
การใช้ประโยชน์--- เป็นพืชสมุนไพรที่พบในเกือบทุกภูมิภาคของประเทศอินเดียได้รับการยอมรับสำหรับการใช้เป็นยาและการรักษา เป็นพืชอเนกประสงค์เช่นเปลือกไม้ ใบและเนื้อไม้ของพืชชนิดนี้มีคุณค่าทางยาสูงในระบบการแพทย์ Unani อัลคาลอยด์ของพืชชนิดนี้ทำหน้าที่ในระบบร่างกายมนุษย์ส่วนใหญ่และมีคุณสมบัติสูงสุดในการต้านเชื้อแบคทีเรียเชื้อราและต้านการอักเสบ ในการแพทย์แผนโบราณของอินเดีย ใช้สารสกัดจากไม้สำหรับอาการเจ็บคอและท้องเสียใช้ในยาอายุรเวทเป็นยาสมานแผล ใช้สำหรับ บำบัดฟื้นฟู ใช้ต้านการอักเสบ ส่งเสริมรสชาติ, เสริมการย่อยอาหารและรักษาโรคผิวหนัง ก้อนสีเสียดเป็นวัสดุสีน้ำตาลที่มีรสขมเป็นสารสกัดด้วยน้ำเข้มข้นหรือที่รู้จักกันในชื่อ khayer gum เป็นยาสมานอย่างแรง  ควรต้มไฟก่อนแล้วค่อยต้มกินน้ำขณะมีอาการ แก้โรคท้องร่วง บิด แก้ไข้จับสั่น  แก้ไอ  สมานแผลเรื้อรัง ตุ่มเปื่อย ต้มอาบหรือต้มแช่ หรือต้มแทรกเกลือล้างบาดแผลใช้เป็นยารักษาเหงือก ลิ้นและฟัน รักษา แผลในลำคอ
ระยะออกดอก/ติดผล--- มีนาคม - กันยายน
ขยายพันธุ์---เมล็ด


หญ้าหนวดแมว/Orthosiphon aristatus


ชื่อวิทยาศาสตร์--- Orthosiphon aristatus (Blume) Miq.
ชื่อพ้อง---Has 2 synonyms
---Basionym: Ocimum aristatum Blume.
---Orthosiphon velteri Doan
ชื่อสามัญ---Java- tea, Kidney tea plant, Cat’s- whiskers, Cat’s moustache, Whiskerplant
ชื่ออื่น---หญ้าหนวดแมว, อีตู่ดง (เพชรบูรณ์), บางรักป่า (ประจวบคีรีขันธ์), พยับเมฆ (กรุงเทพฯ) ,; [THAI: yaa nuat maeo, Yaa-nuad-maew, Pa-yab-mek];[CAMBODIAN: Kapen prey.];[CHINESE: Mao xu cao, Shen cha.];[FRENCH: Java thé, Moustaches de chat.];[GERMAN: Javateepflanze, Katzenbart];[INDONESIA: Kutum, Mamam, Bunga laba-laba, Kumis ucing, Remuk jung, Songot koceng, Sesalaseyan.];[JAPANESE: Mulisu-kuchin, Nek no hige];[MALAYALAM: Poochameesa.];[MALAYSIA: Misai kucing, Ruku hutan.];[MYANMAR: Se-cho, Myit-shwe];[PHILIPPINES: Kabling-gubat, Kabling-parang, Balbas-pusa (Tag.).];[PORTUGUESE: Orthosiphion.];[SWEDISH: Morrhårsmynta.];[VIETNAM: Ra meo, Cay bong bac.].  
ชื่อวงศ์--- LAMIACEAE (LABIATAE)
ถิ่นกำเนิด--- ทวีปแอฟริกา เอเชีย ออสเตรเลีย-ควีนส์แลนด์
เขตกระจายพันธุ์---จีน พม่า ไทย มาเลเซีย กัมพูชา ลาว เวียตนาม อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ปาปัว นิวกินี ออสเตรเลีย


พยับเมฆ หรือหญ้าหนวดแมวไม้พุ่มขนาดเล็ก เป็นพืชล้มลุกลักษณะต้นใบคล้ายพืชพวกกระเพรา โหระพา แต่ยาวเก้งก้างกว่าอาจสูงได้ประมาณ 1-1.5 เมตร โดยปกติกิ่งยาวมากๆมักลู่ลงกับพื้นดินและแตกรากตามข้อกลายเป็นต้นใหม่ขึ้นกันเป็นดงเลย ใบเดี่ยวออกเรียงตรงข้าม ใบรูปไข่หรือรูปข้าวหลามตัด ขอบใบหยักเป็นจักคล้ายฟันเลื่อย แผ่นใบบางเป็นสีเขียวเข้ม ปลายใบเรียวแหลม ใบกว้างประมาณ 2-4.5 ซม.ยาวประมาณ 5-12ซม.ก้านใบยาว 1-2 ซม.ออกดอกบริเวณปลายยอดและปลายกิ่ง ดอกเป็นช่อแบบช่อกระจุก ปลายยอดดอกคล้ายฉัตร ยาวประมาณ 10-15 ซม.มีริ้วประดับรูปไข่ ยาว 1-2 มม. ไม่มีก้าน ส่วนกลีบของดอกเชื่อมติดกันเป็นรูประฆังงอเล็กน้อย มีความยาวประมาณ 2.5-4.5มม. ผลเป็น เป็นผลแห้งไม่แตก รูปขอบขนาน กว้าง และแบน มีความยาวประมาณ 1.5มม. ตามผิวมีรอยย่น
พันธุ์ไม้ชนิดนี้ ชอบอยู่ตามที่ลุ่มซึ่งมีพื้นดินเย็นอยู่ตลอดเวลา ต้นและใบจะมีกลิ่นเหม็นเขียวเผ็ดรุนแรงกว่ากระเพรา เป็นพันธุ์ไม้พวกเดียวกับ Mint พืชที่นำมาใช้สกัดเอาเมนทอล
การใช้ประโยชน์---ใช้เป็นยา ใช้ในการแพทย์ที่นิยมทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ส่วนใหญ่เป็นยาขับปัสสาวะและต้านเชื้อแบคทีเรียสำหรับระบบทางเดินปัสสาวะโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ชวามันถูกใช้แบบดั้งเดิมสำหรับการรักษาความดันโลหิตสูงและ โรคเบาหวาน.ในประเทศฮอลแลนด์และฝรั่งเศสมีรายงานการใช้เพื่อรักษาโรคทางเดินปัสสาวะ ในประเทศมาเลเซียใช้สำหรับรักษาโรคหวัด; ยาต้มพืชที่ใช้ในการกำจัดนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ ในญี่ปุ่นใช้ชาเพื่อช่วยล้างพิษในร่างกาย ในประเทศไทยเรารู้จักสรรพคุณของหญ้าหนวดแมวหรือพยับเมฆในด้านเป็นสมุนไพรคือแก้โรคเบา หวาน กล่าวคือ นำเอาต้นใบรากทุกส่วน นำไปล้างน้ำให้สะอาด แล้วนำไปย่างไฟอ่อนๆจนกรอบ ใช้ชงน้ำร้อนดื่มประจำแทนน้ำดื่ม จะช่วยบรรเทา หรืออาจหายขาดจากโรคนี้เลยได้ สำหรับเป็นยาขับปัสสาวะ ใช้ใบ 1กอบมือ (สด 90-120กรัม แห้ง 40-50 กรัม) ต้มกับน้ำรับประทานวันละ 3ครั้ง ก่อนอาหารครั้งละ 1 ถ้วยชา(75 cc) สำหรับแก้โรคผิวหนัง โรคเรื้อนให้ใช้ผสมกับสารส้มต้มกับน้ำใช้อาบเป็นประจำ
-ใช้อื่นๆ  ใช้สารสกัดที่ทำให้ผิวขาวและต่อต้านเซลลูไลท์ ครีมและโลชั่นที่ใช้ในการลดความมันผิว
ขยายพันธุ์---เมล็ด ปักชำ


หญ้าหวาน/Stevia rebaudiana

 

ชื่อวิทยาศาสตร์---Stevia rebaudiana (Bertoni) Bertoni
ชื่อพ้อง---Eupatorium rebaudianum Bertoni
ชื่อสามัญ ---Stevia, Candy Leaf, Sugar Leaf, Sweet Herb of Paraguay, Sweet Honey Leaf.
ชื่ออื่น ---หญ้าหวาน ;[THAI: yaa waan.];[CHINESE: Tiánjú shǔ.];[CZECH: Stévie sladká.];[PARAGUAY: caa-he-éé, kaa jheéé, ca-a-jhei, ca-a-yupi, azucacaa, eira-caa, capim doce, erva doce.];[USA: Candyleaf.].
ชื่อวงศ์---COMPOSITAE (ASTERACEAE)
ถิ่นกำเนิด---ทวีปอเมริกา
เขตกระจายพันธุ์---อเมริกาใต้-บราซิล ปรากวัย
มีถิ่นกำเนิดในอเมริกาใต้ เพาะปลูกในเชิงพาณิชย์ในหลายส่วนของบราซิล ปารากวัย อุรุกวัย อเมริกากลาง อิสราเอล ไทยและจีน
ไม้ ล้มลุกอายุหลายปีสูง 0.30-0.90 เมตร ใบเดี่ยวยาว 2-3 ซม.เรียงตรงข้ามรูปหอกกลับ ขอบใบหยักมีรสหวาน ดอกช่ออกที่ปลายยอด กลีบดอกสีขาว ผล แห้งไม่แตก
การใช้ประโยชน์--- พบว่าใบมีสารหวานชื่อ stevioside ซึ่งสามารถใช้สดหรือแห้งเพื่อทำเครื่องดื่มหรือขนมหวานหรือสามารถนำไปแปรรูปเป็นสารให้ความหวานที่เป็นผง ซึ่งหวานกว่าน้ำตาลทราย 250-300 เท่า steviosideไม่ให้พลังงานทำให้ไม่อ้วนเหมาะกับผู้ป่วยเบาหวาน และไขมันในเลือดสูง เป็นเวลาหลายร้อยปีที่ชนพื้นเมืองในบราซิลและปารากวัยใช้ใบหญ้าหวานเป็นสารให้ความหวาน ใช้ในการทำชาและอาหารอื่น ๆ ให้หวานและใช้เป็นยารักษาโรคหัวใจ สำหรับโรคอ้วน โรคความดันโลหิตสูงและช่วยลดระดับกรดยูริค นอกเหนือจากการเป็นสารให้ความหวานหญ้าหวานยังถือว่าเป็นยาลดน้ำตาลในเลือด ความดันโลหิตต่ำ ยาขับปัสสาวะ ยาบำรุงกำลัง ใบใช้สำหรับโรคเบาหวาน, โรคอ้วน, ฟันผุ, ความดันโลหิตสูง, อ่อนเพลีย, ซึมเศร้า, ความอยากหวานและการติดเชื้อ ใบถูกนำมาใช้ในระบบการแพทย์แบบดั้งเดิมในปารากวัยเพื่อจุดประสงค์เช่นเดียวกับในบราซิล ชาวยุโรปได้เรียนรู้เกี่ยวกับหญ้าหวานในศตวรรษที่16เป็นครั้งแรก เมื่อผู้พิชิตส่งข้อความไปยังสเปนว่าชาวพื้นเมืองอเมริกาใต้ใช้พืชเพื่อทำให้ชาสมุนไพรมีรสหวาน ตั้งแต่นั้นมาหญ้าหวานถูกนำมาใช้อย่างกว้างขวางทั่วยุโรปและเอเชีย ในสหรัฐอเมริกาสมุนไพรใช้ใบสำหรับโรคเบาหวานความดันโลหิตสูงการติดเชื้อและเป็นสารให้ความหวาน ในประเทศญี่ปุ่นและบราซิลหญ้าหวานได้รับการอนุมัติเป็นสารเติมแต่งอาหารและทดแทนน้ำตาล
-การใช้งานในทางปฏิบัติในปัจจุบัน
เป็นเวลาเกือบ 20 ปีที่ผู้บริโภคหลายล้านคนในญี่ปุ่นและบราซิลที่ซึ่งหญ้าหวานได้รับการรับรองว่าเป็นสารปรุงแต่งอาหารได้ใช้สารสกัดจากหญ้าหวานเป็นสารให้ความหวานที่ปลอดภัยเป็นธรรมชาติและไม่มีแคลอรี่ ญี่ปุ่นเป็นผู้บริโภคใบและสารสกัดหญ้าหวานที่ใหญ่ที่สุดในโลกและมีการใช้ทุกอย่างตั้งแต่ซอสถั่วเหลืองไปจนถึงผักดอง, ของหวานและเครื่องดื่ม แม้แต่ บริษัท ข้ามชาติยักษ์ใหญ่อย่าง Coca-Cola และ Beatrice Foods ก็ใช้สารสกัดจากหญ้าหวานเพื่อทำอาหารให้หวาน (แทน NutraSweet และ saccharin) เพื่อขายในญี่ปุ่นบราซิลและประเทศอื่น ๆ ที่ได้รับการอนุมัติให้เป็นสารปรุงแต่งอาหาร  
รู้จักอันตราย---ข้อห้ามสำหรับบุคคลที่มีความดันโลหิตต่ำผู้ที่ใช้ยาลดความดันและผู้ป่วยโรคเบาหวานควรหลีกเลี่ยงการใช้หญ้าหวานจำนวนมาก ตามที่องค์การอาหารและยา (FDA) การบริโภคประจำวันที่ยอมรับได้สำหรับ glycosides หญ้าหวาน 4 มิลลิกรัม (มก.) ต่อกิโลกรัมของน้ำหนักตัว
ขยายพันธุ์---เมล็ด ปักชำ


หญ้าลิ้นเป็ด/Ixeris debilis

ชื่อวิทยาศาสตร์---Ixeris debilis (Thunb. ex Thunb.) A. Gray
ชื่อพ้อง---Has 2 synonyms
---Chondrilla debilis (Thunb.) Poir.             
---Bassionym: Prenanthes debilis Thunb   
ชื่อสามัญ---None (Not recorded)
ชื่ออื่น ---หญ้าลิ้นเป็ด ; [ THAI: Ya lin pet];[CHINESE: Jiǎndāo gǔ, Xì yè jiǎndāo gǔ];[VIETNAMESE: Rau diếp đắng yếu, Cây Cúc Đắng].
ชื่อวงศ์---COMPOSITAE (ASTERACEAE)
ถิ่นกำเนิด ---ทวีปเอเซีย
เขตกระจายพันธุ์---เอเชียตะวันออก-ญี่ปุ่นเกาหลีและจีน ไต้หวัน


มีการกระจายอย่างกว้างขวางในเอเชียตะวันออกส่วนใหญ่ตามแนวชายฝั่ง
เป็นพืชยีนต้นอยู่ได้หลายปี รากใต้ดินแตกหน่อใบสีเขียวสดขึ้นจากดินโดยตรงลักษณะใบคล้ายลิ้นเป็ด ความยาวใบประมาณ3-20ซ.ม. ดอกสีเหลืองปลายกลีบดอกมีขนสีขาวขนาด1.5-3ซ.ม. เมล็ดขนาด7-8 มม.
ใช้ประโยชน์---ใช้เป็นยา สรรพคุณรักษาอาการ เจ็บคอเนื่องจากปอดร้อน ใช้ภายนอกกระจายพิษแก้บวม แก้พิษเพราะธาตุน้ำมาก แก้เด็กปากและลิ้นเปื่อย ใช้รักษาไฟลามทุ่ง รักษาแผลเปื่อยคัน แก้ฝีแผลเปื่อยบวมเจ็บ แก้เจ็บปวดนมในสตรี
ระยะออกดอก-- เมษายน- มิถุนายน--และ---กันยายน-พฤศจิกายน
ขยายพันธุ์---เมล็ด


หนอนตายหยาก/Stermona tuberosa

ชื่อวิทยาศาสตร์---Stermona tuberosa Lour
ชื่อพ้อง---Has 3 synonyms
__ Roxburghia gloriosa Pers.,
---Roxburghia gloriosoides Roxb.,
---Roxburghia viridiflora Sm.
ชื่อสามัญ---Stemona, Wild Asparagus, Sessile Stemona Root, Japanese Stemona Root, Tuber Stemona Root.
ชื่ออื่น ---กะเพียด (ชลบุรี, ประจวบคีรีขันธ์), ป้งสามสิบ (คนเมือง), หนอนตายยาก (ลำปาง), หนอนตายหยาก (แม่ฮ่องสอน), กะเพียดหนู, สลอดเชียงคำ (อีสานโบราณ)  โปร่งมดง่าม ปงมดง่าม (เชียงใหม่),;[THAI: Non Tai Yak.]; [CHINESE: da bai bu.];[KOREA: Majunanpaekpu.];[MALAYSIA: Galak Tua, Janggut Adam, Kemili Hutan, Ubi Kemili.];[TELEGU: Kaniputeega.];[VIETNAM: Cây Bách Bộ, Củ ba mươi, Dây đẹt ác,]
ชื่อวงศ์ ---STEMONACEAE
ถิ่นกำเนิด---ทวีปเอเซีย
เขตกระจายพันธุ์---จีนตอนใต้, ตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดีย, เวียดนาม, กัมพูชา, ลาว, ไทย, มาเลเซีย, อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์

 

พบในพื้นที่ลุ่มในเขตร้อนชื้นในป่าผลัดใบและป่าเต็งรังที่มีไม้ไผ่เป็นจำนวนมาก บนพื้นหินแกรนิต หินดินดานและหินปูน ที่ระดับความสูง 250 - 1,200 เมตร
หนอนตายหยากเป็นเถาไม้เนื้อแข็ง มีรากสะสมอาหาร เป็นพวงคล้ายรากกระชาย ออกเป็นพวงประมาณ 50-80 ราก ยาวประมาณ 10 - 30 ซม. และหนา 2 - 3 ซม.รากรูปทรงกระบอกแกมรูปกระสวย ยอดอ่อนสีแดง ใบเดี่ยว 6-24 × (2-)5-17 ซม.เรียงเวียนสลับรูปหัวใจ รูปใบคล้ายใบพลูปลายใบแหลม เส้นใบเด่นชัด ก้่นใบยาว 3-10 ซม.ลำต้นบนดินจะโทรมในช่วงฤดูแล้ง พอฤดูฝนจะงอกใหม่พร้อมทั้งออกดอก ช่อดอกออกที่ซอกใบ มี2-3ดอก กลีบดอก6กลีบ ด้านนอกสีเขียว ด้านในสีม่วงแดง ผลแคปซูล 2.5-6 × 1-3 ซม.แห้งแล้วแตกมีหลายเมล็ด
การใช้ประโยชน์--- พืชที่เก็บเกี่ยวจากป่าเพื่อใช้ในท้องถิ่นเป็นยา
-ใช้เป็นยา เป็นพืชสมุนไพรจีนโบราณที่รู้จักกันในเรื่องของฤทธิ์ต้านการแข็งตัวของเลือด แพทย์พื้นบ้านใช้เป็นยาสมุนไพร โดยนำรากมาต้มน้ำดื่ม หรือต้มกับตัวยาอื่น ใช้รมหัวริดสีดวงทวาร ทำให้แห้งฝ่อหายไว หรือทุบรากสดใส่ไหปลาร้า จะทำให้หนอนตาย หากนำทั้งต้นมาย่างไฟให้แห้งกรอบ ใช้ชงกับน้ำเดือด เป็นยาขับพยาธิในเด็กได้ดี หากนำมาทุบหมักกับน้ำเป็นยาฆ่าหนอน หิด เหาได้ดีส่วน เปลือกต้นช่วยดับพิษในกระดูกและเส้นเอ็น หรือต้มผสมเกลือ ใช้รักษาโรครำมะนาด ขับปัสสาวะ ขับเลือด ขับระดูขาว และขับน้ำเหลือง ทำให้น้ำเหลืองแห้ง โบราณมักพกหัวติดตัวหรือวางไว้ใต้ที่นอน ช่วยป้องกัน เหลือบ ริ้น ไร หรือตัวเลือดได้ดี นอก จากนี้ในประเทศจีนมีการนำรากหนอนตายหยาก มาใช้ในการรักษาอาการไอ โรควัณโรค ฯลฯ โดยใช้ร่วมกับสมุนไพรชนิดอื่นๆ ซึ่งก่อนที่จะทำเป็นยา มีขั้นตอนการทำลายพิษ เช่น นำรากมาล้างให้สะอาดแล้วลวกหรือนึ่งจนกระทั่งไม่เห็นแกนสีขาวในราก ต้องตากแห้งก่อนนำไปปรุงเป็นตำรับยา โดยหั่นให้มีขนาดเล็ก หรือในบางตำราจะนำไปเชื่อมกับน้ำผึ้งก่อนนำไปใช้
-อื่นๆ ใช้เป็นยาฆ่าแมลง สามารถใช้กับตัวอ่อนยุง หมัดและแมลง
ระยะออกดอก---เมษายน-กรกฏาคม
การขยายพันธุ์---เมล็ด


หนานเฉาเหว่ย


ชื่อวิทยาศาสตร์--- Gymnanthemum extensum (Wall. ex DC.) Steetz
ชื่อพ้อง---Has 3 synonyms
---Vernonia extensa (Wall.) Wall. ex DC.
---Cacalia extensa Kuntze
---Conyza extensa Wall.
ชื่อสามัญ---Bitterleaf tree
ชื่ออื่น----หนานเฉาเหว่ย หนานเฝยเฉ่า ป่าเฮ่วหมอง ป่าช้าหมอง ป่าช้าเหงา  บิสมิลลาฮ์ (อาหรับ); [CHINESE: nan chao wei, nan fui chao.]
ชื่อวงศ์----COMPOSITAE (ASTERACEAE)
ถิ่นกำเนิด---- ทวีปเอเซีย
เขตกระจายพันธุ์---อินเดีย จีน  เนปาล ภูฏาน พม่า บังคลาเทศ


พืชพื้นเมืองในเทือกเขาหิมาลัย อินเดีย (สิกขิม, ดาร์จีลิ่ง, อัสสัม, มณีปุระ), จีน (ยูนนาน, กุ้ยโจว), เนปาล, ภูฏาน, พม่า, บังคลาเทศ
ไม้ยืนต้น สูงได้ถึง 3 เมตร ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงสลับ รูปรี ปลายแหลม โคนป้านหรือเกือบมน สีเขียวเข้มเป็นมัน ใบอ่อนและใบแก่มีรสขมจัด ดอก ออกเป็นช่อตามซอกใบและปลายยอด ดอกเป็นสีขาว ผล กลม เมล็ดสีน้ำตาล
การใช้ประโยชน์--- ใช้เป็นยา ส่วนที่ใช้ คือ ใบ ทั้ง ใบสด และนำไปต้มดื่มกับน้ำ มีสรรพคุณ ช่วยลดน้ำตาลในเลือด ลดความดันโลหิต มีการนำไปแปรรูปในรูปของชาหนานเฉาเหว่ย ใบสดหนานเฉาเหว่ย มีรสขมจัด  แต่เมื่อเคี้ยวและกลืนสักครู่จะมีรสหวานในปากและคอ
ตามตำราจีนระบุว่า เป็นยาช่วยลดน้ำตาลในเลือดหรือโรคเบาหวาน โรคเก๊าต์ ลดความดันโลหิตสูง  รักษาอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย ปวดตามข้อ
รู้จักอันตราย---ห้ามใช้สำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคไตจะทำให้เกิดอาการมือบวม เท้าบวม ควรใช้สมุนไพรชนิดนี้อย่างเหมาะสมภายใต้การดูแลของแพทย์
ขยายพันธุ์---เมล็ด   ตอนกิ่ง  ปักชำกิ่ง


หนุมานประสานกาย/Schefflera leucantha

ชื่อวิทยาศาสตร์--- Schefflera leucantha R.Vig
ชื่อพ้อง ---Has 3 synonyms   
---Schefflera kwangsiensis Merr. ex H.L.Li,
---Schefflera tamdaoensis Grushv. & Skvortsova,
---Schefflera tenuis H.L.Li
ชื่อสามัญ --- Edible-stemed Vine
ชื่ออื่น---หนุมานประสานกาย,  ว่านอ้อยช้าง (เลย),; [THAI: Hanuman Prasankai, oey chang.]; [CHINESE: Bai hua e zhang chai.];[VIETNAM: Chân chim leo, Chân chim lá nhỏ]; [CHINA: bai hua e zhang chai]
ชื่อวงศ์ --- ARALIACEAE
ถิ่นกำเนิด--- เขตร้อนและกึ่งเขตร้อน
เขตกระจายพันธุ์   ---ศรีลังกา หิมาลัย ญี่ปุ่น อินโดจีน ตอนเหนือออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ซามัว หมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก
ไม้พุ่ม สูงประมาณ 1-4 เมตร ผิวของลำต้นค่อนข้างเรียบเกลี้ยง .[เป็นใบประกอบแบบนิ้วมือกว้าง 1.5–2 ซม., ยาว 5-10 ซม., มีก้านใบยาว 3–9 ซม.  ออกเรียงสลับ มีใบย่อยประมาณ 7-8 ใบ รูปยาวรี รูปวงรี หรือรูปใบหอก ปลายใบเรียวแหลม ใบเรียบเป็นมัน ริมขอบใบเป็นคลื่นเล็กน้อย ออกดอกเป็นช่อ ดอกย่อยสีเขียวหรือสีนวล มีขนาดเล็ก ผลรูปไข่ อวบน้ำ ผลอ่อนสีเขียว สุกสีแดงสด
การใช้ประโยชน์--- ใช้เป็นยา ในประเทศไทยและจีนมีการใช้พืชกันอย่างแพร่หลายในการต่อต้านโรคหืด พืชชนิดนี้มีการกล่าวว่าใช้เพื่อบรรเทาความเย็น, ภูมิแพ้, โรคหอบหืด, ไอเรื้อรังและการติดเชื้อทางเดินหายใจ  ยังใช้เป็นยาแก้ปวดยาฆ่าเชื้อและส่งเสริมการไหลเวียนโลหิต ใบใช้สำหรับรักษาบาดแผลอักเสบไอหลอดลมอักเสบสารก่อมะเร็งและกำจัดลิ่มเลือดในสมอง
มีสรรพคุณทางสมุนไพร ทั้งต้นมีรสหอมเผ็ดปร่า ขมฝาดเล็กน้อย มีสรรพคุณช่วยทำให้เลือดลมเดินสะดวก ใช้ทั้งต้น ต้มกับน้ำดื่มเป็นยารักษาโรคกระเพาะอาหารและลำไส้ ใบมีรสหอมเผ็ดปร่า ขมฝาดเล็กน้อย มีสรรพคุณช่วยรักษาโรคหอบหืด แพ้อากาศ เป็นภูมิแพ้ ด้วยการใช้ใบสดเล็ก ๆ 9 ใบ นำมาต้มกับน้ำ 3 ถ้วยแก้ว แล้วเคี่ยวจนเหลือ 1 ถ้วยแก้ว ใช้รับประทานก่อนอาหารวันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น เป็นเวลา 7 สัปดาห์ โรคหืดจะหาย ใบมีสรรพคุณเป็นยาแก้ไอ ด้วยการใช้ใบสดประมาณ 9 ใบ นำมาต้มเอาแต่น้ำกิน หรือใช้ใบสดนำมาตำให้ละเอียดคั้นเอาแต่น้ำ นำมาผสมกับเหล้ากินเป็นยา และ ช่วยบรรเทาหวัด ลดอาการไอ แก้ร้อนใน แก้เจ็บคอและคออักเสบได้ ช่วยรักษาวัณโรคปอด ด้วยการใช้ใบสดเล็ก ๆ 9 ใบ นำมาต้มกับน้ำ 3 ถ้วยแก้ว แล้วเคี่ยวจนเหลือ 1 ถ้วยแก้ว ใช้รับประทานก่อนอาหารวันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น ติดต่อกัน 60 วัน แล้ว x-ray ดู ปอดจะหาย และให้รับประทานต่อไปอีกระยะหนึ่ง- ช่วยแก้อาการตกเลือดเนื่องจากการคลอดบุตรของสตรีในระหว่างการคลอดหรือภายหลังการคลอดบุตรหรือเนื่องจากตกเลือดเพราะใกล้หมดประจำเดือน ให้ใช้ใบสดประมาณ 10-15 ช่อ นำมาตำให้ละเอียดผสมกับเหล้าโรง 4-6 ช้อน แล้วคั้นเอาน้ำกิน
ใบสดนำมาตำให้ละเอียดแล้วเอากากมาทาหรือพอกเป็นยาสมานแผล และช่วยห้ามเลือด-ช่วยแก้ช้ำใน ด้วยการใช้ใบหนุมานประสานกายประมาณ 1-3 ช่อ นำมาตำให้ละเอียด ต้มกับน้ำครึ่งแก้ว แล้วกรองด้วยผ้าขาวบาง ใช้น้ำยานี้กินทุกเช้าและเย็น ใช้เป็นยาแก้พิษต่าง ๆ ด้วยการใช้ใบนำมาต้มเอาแต่น้ำหรือนำมาคั้นเอาน้ำผสมกับเหล้ากิน-ช่วยรักษาแผลในปากที่เกิดจากร้อนใน ด้วยการรับประทานใบสด 1-2 ใบ แล้วนำมาเคี้ยวให้ละเอียด แล้วกลืนเช้าเย็น-ช่วยแก้อาเจียนเป็นเลือด ด้วยการใช้ใบสด 12 ใบย่อย นำมาคั้นน้ำ 2 ถ้วยตะไล ใช้รับประทานครั้งละ 1 ถ้วยตะไล ติดต่อกัน 5-7 วัน
ใช้แก้เส้นเลือดฝอยในสมองแตกทำให้เป็นอัมพาต และช่วยกระจายเลือดลมที่จับกันเป็นก้อนหรือคั่งภายใน-ยางใช้ใส่แผลสด จะช่วยทำให้แผลแห้งเร็ว ส่วนในคู่มือยาสมุนไพรและโรคประเทศเขตร้อนและวิธีบำบัดรักษา ได้ระบุว่าใบหนุมานประสานกายสามารถใช้รักษาโรคหลอดลมอักเสบในระยะเรื้อรัง โรคหืด โรคแพ้อากาศ และอาการแพ้อื่น ๆ ได้ นอกจากจะใช้รักษาโรคเกี่ยวกับหลอดลมและหืดแล้ว นักวิทยาศาสตร์ขาวญี่ปุ่นยังได้ทำการวิจัยแล้วพบว่ายังมีคุณสมบัติในการรักษาโรคเกี่ยวปอดต่าง ๆ ได้อีกดังต่อไปนี้ เช่น ปอดชื้น วัณโรค ต่อมน้ำเหลืองในปอดอักเสบ เยื่อหุ้มปอดอักเสบ เยื่อบุช่องท้องอักเสบ เยื่อหุ้มปอดอักเสบชนิดมีหนอง เนื้อร้ายในปอด เป็นแผลในปอด ไอกรน โรคไข้ปอดบวม โรคไข้หวัดใหญ่
ขยายพันธุ์---เพาะเมล็ด ตอนกิ่ง และปักชำ


หมาว้อ/Lepisanthes senegalensis

ชื่อวิทยาศาสตร์---Lepisanthes senegalensis (Poir.) Leenh
ชื่อพ้อง ---Has 46 Synonyms
---Basionym: Sapindus senegalensis Juss. ex Poir.
---(more)
ชื่อสามัญ---African lepisanthes, Senegal cherry.
ชื่ออื่น---หมากหมาว้อ, ชำมะเลียงป่า, ; [THAI: mak ma wor, cham ma liang paa.];[CHINA: dian chi cai];[FRENCH: Cerisier du Cayor, Cerise du Sénégal.];[MALAY: Kelayu gunung, Kelinga gaba, Ki layu gunung.];[SENEGAL:  Bulao, Kul, Kumen rofokor, Kurudiendieng, Sarenja.];[SRI LANKA: Gal-Kuma.].
ชื่อวงศ์ --SAPINDACEAE
ถิ่นกำเนิด--ทวีปแอฟริกา เอเซีย นิวกินี ตอนเหนือของออสเตรเลีย
เขตกระจายพันธุ์---อันดามัน บังคลาเทศ แอฟริกากลาง จีน เนปาล ศรีลังกา พม่า ไทย นิโคบาร์ นิวกินี ฟิลิปปินส์


ถิ่นกำเนิดในแอฟริกาตะวันตกเขตร้อน, เอธิโอเปีย, โซมาเลียและโมซัมบิก, อินเดียและมาเลเซียที่ระดับความสูง 0-1,800เมตร
ไม้พุ่มขนาดเล็ก ลำต้นตั้งตรง สูง 0.30-1.5 เมตร ใบประกอบแบบขนนก เรียงสลับ ใบย่อย2ใบรูปใบหอกแกมขอบขนาน หรือรูปใบหอกกลับ กว้าง1.5-3ซม.ยาว8-12ซม.ดอกช่อออกที่ปลายกิ่ง กลีบดอกสีม่วงแดง ผลรูปไข่สีแดงขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 12 - 18 มม.เมื่อสุกสีม่วงดำมีเมล็ดสีดำ2 เมล็ด
การใช้ประโยชน์ ---ต้นไม้ถูกเก็บเกี่ยวจากป่าเป็นแหล่งอาหาร ยาและสินค้าต่าง ๆ ในท้องถิ่น
-ใช้กิน  ผลไม้ - ดิบสุก ผลชำมะเลียงป่า รสหวานเย็น บำรุงกำลัง ควรใช้ความระมัดระวังบางอย่างมีรายงานว่าผลไม้อาจเป็นพิษ
-ใช้เป็นยา ยาพื้นบ้านใช้ผลบำรุงกำลัง รากแก้ไข้เหนือ (มาลาเรียขึ้นสมอง) ไข้สันนิบาต(ไข้ที่มีอาการวิงเวียน ตาลาย แน่นหน้าอก เลือดกำเดาออก เกิดขึ้นร่วมกัน) หรือผสมสมุนไพรอื่นต้มน้ำดื่มแก้อาการกล้ามเนื้อเกร็ง
-ใช้อื่น ๆ ไม้เนื้อแข็งปานกลางหนักและทนทาน ใช้สำหรับเฟอร์นิเจอร์ เสาและทำเครื่องใช้เล็ก ๆ
ขยายพันธุ์---เมล็ด

หอมแดง/Eleutherine bulbosa


ชื่อวิทยาศาสตร์---Eleutherine bulbosa (Mill.) Urb.
ชื่อพ้อง ---Has 25 Synonyms
---Eleutherine americana (Aubl.) Merr. ex K.Heyne
---Bermudiana bulbosa (Mill.) Molina---(more)
ชื่อสามัญ---Dayak Onions
ชื่ออื่น--- ว่านไก่แดง, ว่านเข้า, ว่านหมาก (ภาคเหนือ) ; ว่านเพลาะ (เชียงใหม่) ; ว่านหอมแดง, หอมแดง (ภาคกลาง) ; [THAI: wan hom daeng, wam kai darng, wan khao, wan mak.];[CHINA: Hong-cong, Xiao Hong Suan];[INDONESIA: Bawang-bawangan, Bawang Dayak (Kalimantan); Bawang Arab, Babawangan (Western Java); Bawang Kapal, Bawang Siyam, Teki Sabrang, Luluwan Sapi.];
[MALAYSIA: Bawang Merah, Bawang Sabrang];
[SPANISH: lagrimas de la virgen]
ชื่อวงศ์ --- IRIDACEAE
ถิ่นกำเนิด ---ทวีปอเมริกา
เขตกระจายพันธุ์ ---อเมริกากลาง อเมริกาใต้ เอเซีย แอฟริกา


จาก อาร์เจนตินา, ปารากวัย, บราซิล, โบลิเวีย, เปรู, เอกวาดอร์, โคลัมเบีย, เวเนซุเอลา, กียานัส; แคริบเบียน - ตรินิแดดไปคิวบา พืชได้หลบหนีจากการเพาะปลูกและกลายเป็นแปลงสัญชาติในฟิลิปปินส์และอินโดจีนและได้รับการปลูกฝังในควาซูลูแอฟริกาใต้ซึ่ง ถูกใช้เป็นยาด้วยเช่นกัน
ไม้ ล้มลุกสูงถึง 40 ซม.มีหัวใต้ดินคล้ายหัวหอมรูปรียาวกาบใบที่หุ้มหัวใต้ดินสีม่วงแดง ใบเดี่ยวยาว 25-60 ซม. กว้าง1-2.5 ซม.ออกเป็นกระจุก ใบรูปดาบ เส้นใบขนานจีบตามยาวคล้ายพัด ดอกช่อแทงออกจากลำต้นใต้ดิน สีขาว ผลแห้งแตกได้
การใช้ประโยชน์--- พืชมักถูกเก็บเกี่ยวจากป่าเพื่อใช้ในท้องถิ่นเป็นยา เป็นองค์ประกอบสำคัญของตำรับยาอเมริกันอินเดียนและเป็นหนึ่งในไม่กี่สายพันธุ์ที่มีการใช้เป็นยาที่รู้จักกันดี มันมักจะได้รับการปลูก ในสวน ดูแลโดยชนเผ่าอินเดียนและยังปลูกกันอย่างแพร่หลายในเขตร้อนเป็นไม้ประดับ
-ใช้เป็นยา ใช้แบบดั้งเดิมใช้ในการรักษาอาการตกเลือดในมดลูกจากการทำแท้ง ปวดศีรษะและโรคโลหิตจาง คุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรียและต้านการอักเสบ ถูกนำมาใช้กับไอกรน และไอง่าย  ใช้ในการรักษาฝีพุพอง และแผล น้ำถูกคั้นจากต้นและใบนำมาใช้ในการรักษาโรคอุจจาระร่วง โรคบิด โรคดีซ่าน และยังอยู่ในกรณีของโรคมะเร็ง ลำไส้ใหญ่-ตำรายาไทยใช้หัวรสขมเผ็ดซ่าผสมกับเหง้าเปราะหอมสุมหัวเด็ก แก้หวัดคัดจมูก และกินเป็นยาขับพยาธิ
ขยายพันธุ์---เมล็ด หัว

โหระพา/Ocimum basilicum


ชื่อวิทยาศาสตร์---  Ocimum basilicum L.
ชื่อพ้อง---Has 25 Synonyms
ชื่อสามัญ --- Sweet basil, Thai basil
ชื่ออื่น---โหระพา, ; [Horapha.];[CAMBODIA: chi neang vong.];[CHINESE: Jiǔcéngtǎ.];[FRENCH: basilic commun.];[GERMAN: Basilienkraut; Basilikum.];[INDONESIA: kemangi; selasih; surawung.];[ITALIAN: bassilico.];[LAOS: phak 'i:x tu:x.];[MALAYSIA: kemangi; selasi hitam; selasi jantan.];[PHILIPPINES: balanoy; kamangi; solasi.];[PORTUGUESE: alfavaca; mangericao.];[SPANISH: albahaca; albahaca de jardines.];[SWEDISH: alfavaca; mangericao.];[VIETNAM: Húng quế, quế ngọt, quế Tây, húng Tây.]
ชื่อวงศ์---LAMIACEAE (LABIATAE)
ถิ่นกำเนิด--- ทวีปเอเชียและแอฟริกา
เขตกระจายพันธุ์ --เอเชียเขตร้อน -จีน,อนุทวีปอินเดีย,พม่า,ไทย,กัมพูชา,ลาว,เวียดนาม,มาเลเซีย,อินโดนีเซีย,ฟิลิปปินส์,นิวกินี
พืช ล้มลุกเก็บผลผลิตใช้ได้ตลอดปี สูง0.3-1เมตร ทุกส่วนมีกลิ่นเฉพาะ ลำต้นเป็นสันสี่เหลี่ยมแตกกิ่งก้านสีม่วงแดง แกมเขียว  ใบเดี่ยวเรียงตรงข้ามรูปไข่หรือรูปวงรี กว้าง2-3ซม.ยาว4-6ซม.ขอบใบหยักฟันเลื่อยห่างๆ ดอกออกเป็นช่อที่ปลายกิ่งหรือปลายยอด ดอกสีขาวปนชมพูอ่อน มีใบประดับสีเขียวอมม่วงรองดอก จะหลุดร่วงเมื่อเริ่มติดเมล็ด ออกดอกครั้งเดียวช่วงหน้าหนาว หลังจากออกดอกแล้วก็จะเริ่มแห้งยืนต้นตาย
การใช้ประโยชน์---โหระพาเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญที่ผลิตน้ำมันหอมระเหยได้ปีละ 1,100 ตันทั่วโลกและมีมูลค่าทางการค้าในฐานะสมุนไพรกระถางประมาณ 15 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี นอกจากนี้ยังใช้กันอย่างแพร่หลายในระบบการแพทย์พื้นบ้าน
-ใช้กิน  ถูกนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และมีบทบาทที่โดดเด่นในด้านอาหารเวียดนาม มันเป็นสายพันธุ์ที่ใช้บ่อยที่สุดสำหรับการปรุงอาหารเอเชียในครัวตะวันตก
-ใช้เป็นยา มีสรรพคุณทางยา ลำต้นสดต้มน้ำดื่มเป็นยาแก้ปวด แก้หวัด ปวดกระเพาะอาหาร ท้องเสีย จุกเสียดแน่นท้อง ทำให้เจริญอาหาร ขับเหงื่อ ขับเสมหะ ขับลม ปวดข้อ ปวดศรีษะ หนองในหรือนำมาตำให้ละเอียดคั้นเอาแต่น้ำทาหรือพอกริเวณที่เป็นแผลฟกช้ำจาการหกล้ม  หรือถูกกระทบกระแทก แผลที่เป็นหนองเรื้อรัง แก้พิษแมลงสัตว์กัดต่อย กลากเกลื้อนใบสดช่วยในการขับลมแก้ท้องอืดท้องเฟ้อ เมล็ดนำมาต้มหรือแช่น้ำกิน เป็นยาระบาย แก้โรคตาแดงที่มีขี้ตามาก และต้อตาได้ รากสดหรือรากแห้งเผาจนเกรียมแล้วบดให้ละเอียดเป็นยาพอกแผลที่มีหนองเรื้อรัง
หรือแผลมีหนองในเด็กทำให้อาการทุเลาได้
ขยายพันธุ์---เมล็ด ปักชำ


อบเชยไทย/Cinnamomum bejolghota




Cinnamomum spp

เป็นเปลือกต้นของพืชพวกอบเชย เป็นพืชในสกุลCinnamomumในวงศ์ LAURACEAEหลายชนิด แต่ที่เป็นพรรณไม้ของไทยและให้เปลือกเรียก อบเชยนั้นมี2ชนิดได้แก่
1 ชื่อวิทยาศาสตร์ : Cinnamomum bejolghotha (Buch.-Ham.) Sweet
ชื่ออื่น : จวงดง(หนองคาย),มหาปราบ(ตราด), มหาปราบตัวผู้(จันทบุรี),ขนุนมะแง,เชียกใหญ่(ตรัง)
ไม้ ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่สูง 7-25เมตร เปลือกต้นสีอมเทา ใบเดี่ยวเรียงตรงข้าม รูปวงรีแกมขอบขนานกว้าง5-10ซม.ยาว15-30ซม. ปลายใบแหลมปรือมนแหลม ขอบใบเรียบ เนื้อใบหนาคล้ายแผ่นหนัง มีเส้นใบหลักสามเส้น ดอกช่อออกที่ซอกใบและปลายกิ่ง ดอกย่อยขนาดเล็กสีขาวอมเหลือง ผลมีเนื้ออวบน้ำ รูปรีหรือรูปค่อนข้างกลม
2 ชื่อวิทยาศาสตร์ : Cinnamomum iners Reinw. ex Blume
ชื่ออื่น : กระแจะโมง กะเชียด กะทังนั้น(ยะลา),เชียด อบเชยต้น(ภาคกลาง)บอกคอก(ลำปาง)
เป็น ไม้ต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ สูง15-20เมตร เปลือกสีน้ำตาลอมเทา ค่อนข้างเรียบเกลี้ยง เปลือกและใบมีกลิ่นหอม ใบเดี่ยวเรียงตรงข้ามหรือเยื้องกันเล็กน้อยรูปขอบขนาน กว้าง2.5-7.5ซม.ยาว7.5-25ซม.ปลายใบมนแหลมหรือเรียวแหลม เนื้อใบหนา แข็งและกรอบ ดอกออกเป็นช่อแบบช่อกระจะที่ปลายกิ่งดอกย่อยมีขนาดเล็กสีเหลืองอ่อนหรือ เขียวอ่อน ผลมีขนาดเล็กรูปขอบขนานยาวราว1ซม. แข็ง ตามผิวมีคราบสีขาว มีเมล็ดเดียว
ตำรา สรรพคุณยาโบราณว่า อบเชย มีกลิ่นหอม รสสุขุม สรรพคุณบำรุงดวงจิตแก้อ่อนเพลีย ชูกำลังใช้ประโยชน์คือเปลือกต้นปรุงผสมเป็นยาหอมทำให้สดชื่น แก้อ่อนเพลีย แก้จุกเสียดแน่นท้อง แก้บิด แก้ไข้สันนิบาต และยานัตถุ์แก้ปวดหัว
ขยายพันธุ์---เมล็ด ตอนกิ่ง


ฮ-ว่านง็อก/Pseuderanthemum palatiferum

ชื่อวิทยาศาสตร์ ---Pseuderanthemum palatiferum (Nees) Radlk. ex Lindau.
ชื่อพ้อง---No synonyms are recorded for this name.
ชื่อสามัญ---Magical leaves
ชื่ออื่น---ว่านลิง, ว่านพญาวานร, ต้นลิงง้อ, ; [VIETNAMESE: Hoan Ngoc]; [CHINESE: Shénqí shùyè]
ชื่อวงศ์ --- ACANTHACEAE
ถิ่นกำเนิด---ทวีปเอเซีย
เขตกระจายพันธุ์---ประเทศเวียตนาม


เป็นไม้พุ่มใบดก ด้านล่างใบสีเขียวเข้ม ส่วนด้านบนสีเขียวอ่อน ปลายใบแหลมแตกกิ่งก้านทรงพุ่มดี  จะเกิดรากตั้งตัวได้เร็ว ปลูกในกระถางจะงามกว่าปลูกลงดิน
สรรพคุณ ทางเป็นสมุนไพร เอนไซน์ใน ใบฮว่านง๊อกมีสรรพคุณระงับอาการปวดแทบทุก ชนิด ลดการอักเสบ ควบคุมและทำความสะอาดเลือดได้ดี รักษาโรคมะเร็ง โรคร้ายต่างๆ ได้ใช้สมุนไพรตัวนี้บรรเทาอาการของโรคอย่างได้ผล
ใช้ ใบรับประทานสดๆ หรือคั้นและกรองเอาน้ำข้นๆ หรือต้มเป็นน้ำแกง ส่วนของเปลือกและรากไม้ สามารถต้มและกลั่นเป็นสุราได้
การรับประทานมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับธาตุ (หนัก-เบา) ของแต่ละคน โดยทั่วไปรับประทานจำนวน 1-4 ใบต่อครั้ง
ขยายพัน---ปักชำ

ฮ่อสะพายควาย/Sphenodesme pentandra


ชื่อวิทยาศาสตร์ ---Sphenodesme pentandra Jack
ชื่อพ้อง ---Has 5 Synonyms
---Congea jackiana Wall.
---Congea pentandra (Jack) Wall.
---Sphenodesme jackiana (Wall.) Schauer
---Symphorema jackianum (Wall.) Kurz
---Symphorema pentandrum (Jack) Kurz
ชื่อสามัญ---None (Not recorded)
ชื่ออื่น --- ฮ่อสะพายควาย, ขาเปี๋ย,ย่านดูก สุด, หน่วยสุด ,จุ๊ด; [THAI: ho sapai kwai, kha pia, yan dook.];[CHINESE: xie chi teng shu, shan bai teng.];[MALAY: Pokok bisa ular];[VIETNAM: Bội tinh ngũ hùng.];
ชื่อวงศ์--- VERBENACEAE
ถิ่นกำเนิด---ทวีปเอเซีย
เขตกระจายพันธุ์ ---จีน อนุทวีปอินเดีย อินโดจีน มาเลเซีย
มีถิ่นกำเนิดทางตอนใต้ของประเทศจีนในอนุทวีปอินเดีย ,อินโดจีนและมาเลเซีย ในประเทศไทยพบตามป่าเบญจพรรณทั่วไป ที่ระดับความสูง 300-800 ม.
ไม้ เถาเลื้อยขนาดใหญ่อิงอาศัยต้นไม้อื่น เลื้อยยาวได้ถึง20เมตร เปลือกนอกสีน้ำตาลแดงแตกเป็นร่องตามยาวถี่ๆล่อนเป็นสะเก็ด เปลือกในสีขาว ใบเดี่ยวออกตรงข้ามเป็นคู่ รูปรีแกมขอบขนาน กว้าง3-6ซม.ยาว8-15ซม.โคนมนปลายแหลม ขอบเรียบ หลังใบเกลี้ยง มีขนตามเส้นใบทางด้านท้องใบ เนื้อใบบาง ดอกออกเป็นช่อขนาดใหญ่อลังการ ขนาด15-30ซม.ดอกย่อยมีใบประดับสีเขียว คล้ายกลีบ6ใบ เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเมื่อแก่ กลีบดอก 5กลีบ เป็นแผ่น มีขนสีม่วงเป็นกระจุกอยู่กลางดอก ผลสดเมล็ดเดียวรูปกลมรี ขนาด0.5-1ซม. แก่สีน้ำตาลดำ
ใช้ประโยชน์---ใช้เป็นยา สรรพคุณ เป็นว่านยา อีสานพื้นบ้าน ใช้ลำต้นหรือราก ต้มน้ำดื่มรักษาโรค กระเพาะอาหาร น้ำที่เคี่ยวจากรากใช้รักษาโรคปวดกระดูกและไขข้อ ยาพื้นบ้านล้านนา ใช้ลำต้นต้มน้ำดื่ม บำรุงกำหนัด ทำให้เลือดลมเดินดี บำรุงข้อให้แข็งแรง ไม่ระบุส่วนที่ใช้ บำรุงโลหิต บำรุงกำลัง แก้ปวดหลัง ปวดเอว ปวดเมื่อยตามร่างกาย ไม่อนุญาตให้ใช้เป็นสมุนไพรเดี่ยว
ขยายพันธุ์---เมล็ด ปักชำ ตอนกิ่ง

อ้างอิง,แหล่งที่มา

---The International Plant Names Index and World Checklist of Selected Plant Families 2017. Published on the Internet at http://www.ipni.org and http://apps.kew.org/wcsp/
---สำนักงานหอพรรณไม้. ชื่อพรรณไม้แห่งประเทศไทย เต็ม สมิตินันทน์ -- กรุงเทพมหานคร : กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช, พ.ศ. 2549 http://www.dnp.go.th/botany/
---เว็บไซต์เมดไทย (MedThai) URL: https://www.medthai.com
---หนังสือ สมุนไพรสวนสิรีรุกขชาติ.  (คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล).
---หนังสือ สมุนไพรไทย เล่ม 1.  (ดร.นิจศิริ เรืองรังษี, ธวัชชัย มังคละคุปต์).
---หนังสือ พจนานุกรมสมุนไพรไทย, ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 5. (ดร.วิทย์ เที่ยงบูรณธรรม).
---หนังสือ รวมหลักเภสัชกรรมไทย (วุฒิ วุฒิธรรมเวช).
---หนังสือ การปรุงยาสมุนไพร ( อาจารย์เศรษฐมันต์ กาญจนกุล, รื่นรมย์พรรณไม้งาม, พืชสมุนไพร 1,2)
---หนังสือ สยามไภษัชยพฤกษ์ ภูมิปัญญาของชาติ. วงศ์สถิตย์ ฉั่วกุล, รุ่งระวี เต็มศิริฤกษ์กุล, พร้อมจิต ศรลัมพ์, วิชิต เปานิล. 2538. อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน) กรุงเทพมหานคร.
---หนังสือ สมุนไพรพื้นบ้านล้านนา.  วงศ์สถิตย์ ฉั่วกุล, วิชิต เปานิล, รุ่งระวี เต็มศิริฤกษ์กุล, นพมาศ สุนทรเจริญนนท์, พร้อมจิต ศรลัมพ์. 2539. อมรินทร์พริ้นติ้ง แอนด์ พับลิชชิ่ง:กรุงเทพมหานคร.
---หนังสือ คู่มือเภสัชกรรมแผนไทย เล่ม ๒ เครื่องยาพฤกษวัตถุ ผู้เขียน ภก.ศ.ดร. ชยันต์ พิเชียรสุนทร, ภก.ศ.พิเศษ ดร. วิเชียร จีรวงส์ 2556 อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง

Check for more information on the species:

Plants Database    ---Names, synonymy and distribution    The Garden.org Plants Database    https://garden.org/plants/
Global Plant Initiative    ---Digitized type specimens, descriptions and use    หอพรรณไม้ - กรมอุทยานแห่งชาติ    www.dnp.go.th/botany/Herbarium/GPI.html
Tropicos    ---Nomenclature, literature, distribution and collections    Tropicos - Home    www.tropicos.org/
GBIF    ---Global Biodiversity Information Facility    Free and open access to biodiversity data    https://www.gbif.org/
IPNI    ---International Plant Names Index    The International Plant Names Index - home page    http://www.ipni.org/
EOL    ---Descriptions, photos, distribution and literature    Global access to knowledge about life on Earth    Encyclopedia of Life eol.org/
PROTA       ---Uses    The Plant Resources of Tropical Africa    https://books.google.co.th/books?isbn=9057822040
Prelude    ---Medicinal uses    Prelude Medicinal Plants Database    http://www.africamuseum.be/collections/external/prelude
Google Images    ---Images        
            
รวบรวมและเรียบเรียงโดย Tipvipa..V
รูปภาพ--ทิพพ์วิภา วิรัชติ
บริษัท สวนสวรส การ์เด้น ดีไซน์ จำกัด
สวนเทวา  เชียงใหม่
www.suansavarose.com
www.suan-theva.com
 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 


 

 

 

 

 

 

ความคิดเห็น

  1. 1
    olliesheldrake
    olliesheldrake volkmank61@gmail.com 14/06/2023 17:07

    In my hunt for information on this topic, I came across your post.Keep up the wonderful work and keep posting useful information. krunker


แสดงความคิดเห็น

* *

 

*

  Copyright 2005-2009 suansavarose All rights reserved.
view